30 เม.ย. เวลา 07:10 • ข่าวรอบโลก

คำสั่งซื้อส่งออกจีนชะลอในเดือนเมษายน เมื่อภาษีทรัมป์เริ่มส่งผลจริงจัง

🇨🇳 China's Export Orders Dip in April as Trump's Tariffs Begin to Bite
🔍 สรุปข่าวเข้าใจง่าย
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเลขคำสั่งซื้อส่งออกของจีนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตามรายงานจากการสำรวจผู้จัดการโรงงานของจีนทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยชี้ให้เห็นว่ามาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพุ่งสูงสุดถึง 145% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของจีนแล้วอย่างชัดเจน
ดัชนี PMI ภาครัฐลดลงเหลือ 49.0 ต่ำกว่าค่ากลางที่ 50 ซึ่งหมายถึงการหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ Caixin ซึ่งเป็นการสำรวจภาคเอกชนก็ลดลงเช่นกัน
💬 ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ถึงแม้ผลลัพธ์จะได้รับอิทธิพลจาก "ความรู้สึกเชิงลบ" แต่ก็สะท้อนว่า อุปสงค์จากต่างประเทศเริ่มชะลอลง อย่างจริงจัง และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตอ่อนแอลงตามไปด้วย
⚠️ มาตรการตอบโต้จากจีน
จีนไม่ได้อยู่นิ่ง — ได้ตอบโต้โดยขึ้นภาษีกลับสูงสุด 125% กับสินค้าสหรัฐ และออกมาตรการจำกัดการส่งออกแร่สำคัญที่ใช้ในสินค้าไฮเทค เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสกัดการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐ
พร้อมกันนี้ รัฐบาลจีนแถลงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อรองรับผลกระทบ โดยตั้งเป้าให้ GDP ปีนี้โต “ราวๆ 5%” แต่สถาบันอิสระอย่าง Capital Economics คาดว่าอาจโตได้เพียง 3.5% เท่านั้น หากสงครามการค้าขยายวง
🌏 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
IMF ออกรายงานล่าสุด ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือเพียง 2.8% (จากเดิม 3.3%) เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกชะงักงันอีกครั้ง
ในฝั่งสหรัฐเอง แม้การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศจะเป็นเป้าหมายของทรัมป์ แต่แรงกระแทกจากภาษีที่สูงขึ้นอาจย้อนกลับมากดดันผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศ
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย: โอกาสและความเสี่ยง
การชะลอตัวของการส่งออกจีนอาจสร้าง “หน้าต่างโอกาส” ให้ ผู้ผลิตไทย เข้ามาทดแทนในบางตลาด เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือของใช้ในบ้าน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยเองก็ผูกกับห่วงโซ่อุปทานจีนในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหากจีนลดการนำเข้าวัตถุดิบหรือชะลอคำสั่งซื้อจากภูมิภาค อาจกระทบวงจรกว้าง
📉 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย
💼 1. กลุ่มโลจิสติกส์และการขนส่งระหว่างประเทศ
หุ้นอย่าง WICE, SJWD, SONIC และ III อาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อและปริมาณการส่งออกจากจีน เนื่องจากไทยมีบทบาทเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียน หากความต้องการสินค้าทั่วโลกชะลอตัว บริษัทเหล่านี้ที่มีธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศและ Cross-border Freight อาจเผชิญปริมาณงานลดลงชั่วครา
🔋 2. กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
บริษัทที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานจีน เช่น KCE, HANA, DELTA, SVI อาจเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน หรือคำสั่งซื้อลดลง หากตลาดปลายทางเริ่มหดตัวจากผลกระทบทางการค้า
🧪 3. กลุ่มเคมีภัณฑ์และแร่ธาตุหายาก
หากจีนเริ่มจำกัดการส่งออกแร่สำคัญ บริษัทไทยที่พึ่งพาการนำเข้าจากจีน เช่น IVL, SCG Chemicals (SCGC), PTTGC อาจต้องรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หรือต้องเปลี่ยนแหล่งจัดหาวัตถุดิบ
🛡️ 4. กลุ่มที่ได้อานิสงส์: ผู้ผลิตไทยในตลาดสหรัฐ
บางบริษัทไทยอาจได้ประโยชน์จากการที่จีนถูกกันออกจากตลาดสหรัฐ เช่น TASCO, STGT, COM7, CPF หากสามารถเจาะตลาดแทนสินค้าเดิมของจีนได้ (แต่ต้องแข่งขันด้านราคาและมาตรฐานสูง)
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง
#ข่าวเศรษฐกิจโลก #สงครามการค้า #เศรษฐกิจจีน #TrumpTariffs #ผลกระทบตลาดหุ้นไทย #WorldScope
📎 Reference: AJC News Report

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา