30 เม.ย. เวลา 09:10 • ปรัชญา
เป้าหมายของศาสนาพุทธมีเพียงอย่างเดียว คือ การพ้นทุกข์ โดยทิ้งวัฏสงสาร ไม่กลับมาเวียนตายวนเกิดอีก ซึ่ง คำสอนของ มหายานและวัชรยานจะมองว่าการพ้นทุกข์ควรควบคู่กับความเมตตากรุณาที่จะช่วยกันพาสรรพสัตว์ให้หนีวัฏสงสารจนพ้นทุกข์เข้าสู่นิพพานไปด้วยกัน แต่เถรวาทจะมองว่า "การพ้นทุกข์" สามารถชักชวนกันภาวนาเพื่อบรรลุวิมุตจนหลุดพ้นได้ แต่ไม่สามารถพาสรรพสัตว์เพื่อนร่วมวัฏสงสารหนีให้พ้นทุกขภัยในวัฏสงสารได้ การจะผ่านด่านไปสู่นิพพานให้ได้นั้น จะต้องวิริยะอุตสาหพยายามด้วยตัวเองเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วิธีการเดินตามมรรควิธีของมหายานและวัชรยาน แม้ต่างจากเถรวาท แต่ในประวัติศาสตร์ก็มีผู้ประพฤตธรรมอย่างอุกฤษฎ์จนรับรู้สภาวะหลุดพ้นได้ ไม่ต่างกับเถรวาท เมื่อถึงทางแยกตรงนั้น สภาวะที่เกิดขึ้นจะวกกลับมาตรงกับธรรมวินัยจากพระโอษฐ์ได้พอดีอย่างเหลือเชื่อ เท่ากับว่าสภาวธรรมย่อมเกิดขึ้นตรงตามที่พระพุทธองค์เปิดเผยทั้งสิ้น สุดท้าย ก่อนที่ผู้ปฏิบัติในสายมหายานจะได้พาสรรพสัตว์ข้ามวัฏสงสาร ก็บรรลุธรรมกลางทางเสียก่อน
ตรงกับพุทธวจนที่ว่า "ตถาคตเป็นเพียงผู้บอกทาง" ไม่ว่าการปฏิบัติจะมีเป้าหมายแฝงเช่นไร แต่หากมัคคานุคานั้นดำเนินมรรคไปได้อย่างตรงตามอรรถธรรม สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะนิกายไหน ผู้ปฏิบัติจะเกิดสภาวะปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตนว่าตนนั้นบรรลุไปก่อนจะขนถ่ายสรรพสัตว์สู่นิพพาน คือ สุดท้ายแล้วก็เป็นเหตุปัจจัยที่ไม่ผิดไปจาก Original Words from the Buddha เพราะฉะนั้น "ตถาคตไม่แบ่งแยกธรรมวินัย มีเพียงธรรมวินัยเดียวคือพระธรรมจากพระโอษฐ์ อันชื่อว่าตถาคตภาษิตา" หมายถึง สำหรับพระพุทธองค์แล้ว ไม่มีการแบ่งแยกนิกายใดๆ ทั้งสิ้น
โฆษณา