2 พ.ค. เวลา 06:53 • ปรัชญา

ชื่นชมยินดีในทุกสถานการณ์ เพราะชีวิตคือพระคริสต์

เคยไหมครับที่เราตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกว่าความสุขหรือความทุกข์ของเราในวันนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์รอบตัว? รถติด เจ้านายตำหนิ ปัญหาส่วนตัวรุมเร้า สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือความรู้สึกของเรา ทำให้เรายิ้มยากขึ้น หรือบางทีก็ท้อแท้ใจไปเลย
วันนี้ ผมอยากชวนพี่น้องมาใคร่ครวญพระวจนะของพระเจ้าด้วยกัน ผ่านจดหมายที่เปี่ยมด้วยความรักและกำลังใจฉบับหนึ่ง นั่นคือ พระธรรมฟิลิปปี โดยเฉพาะในบทที่ 1 ครับ สิ่งที่น่าทึ่งคือ ท่านเปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้จากในเรือนจำ แต่เนื้อหากลับไม่ได้เต็มไปด้วยความขมขื่นหรือสิ้นหวัง ตรงกันข้าม มันกลับเต็มล้นด้วย ความชื่นชมยินดี และมุมมองที่น่าทึ่งเกี่ยวกับชีวิตคริสเตียน
บทความนี้จะพาเราไปสำรวจด้วยกันว่า ทำไมท่านเปาโลถึงยังคงชื่นชมยินดีได้แม้ในยามยากลำบาก และเราจะเรียนรู้เคล็ดลับนี้เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไร เพื่อให้เรามีสันติสุขและความหวังใจที่มั่นคง ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร
ท่านเปาโลเริ่มต้นจดหมายด้วยคำทักทายและคำขอบพระคุณอย่างอบอุ่น ท่านบอกว่าท่าน "ขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านทั้งหลาย" และอธิษฐานเผื่อพวกเขา "ด้วยความยินดีเสมอ" อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังความรู้สึกขอบคุณและความยินดีนี้? ท่านเปาโลให้คำตอบในข้อ 5 ว่า เป็นเพราะ "การที่ท่านทั้งหลายมีส่วนร่วมในข่าวประเสริฐ"
คำว่า "มีส่วนร่วม" ในภาษากรีกคือ koinonia (โคอิโนเนีย) ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งกว่าแค่การเป็นเพื่อนกัน มันหมายถึงการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง การเป็นหุ้นส่วน การแบ่งปันชีวิต ทรัพยากร และเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ การประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ความผูกพันฝ่ายวิญญาณนี้เองที่เป็นรากฐานสำคัญของความชื่นชมยินดีของท่านเปาโล ท่านไม่ได้ยินดีเพราะสถานการณ์ของตัวเองดีขึ้น แต่ยินดีเพราะเห็นพี่น้องในพระคริสต์เติบโตและร่วมรับใช้ในพระราชกิจของพระเจ้า
คำอธิษฐานของท่านเปาโลในข้อ 9-11 ก็สะท้อนถึงหัวใจนี้ ท่านไม่ได้ขอให้พวกเขาพ้นจากความทุกข์ยาก (ซึ่งพวกเขาก็อาจกำลังเผชิญอยู่) แต่ขอให้ความรักของพวกท่านจะทวียิ่งๆ ขึ้นในด้านความรู้และวิจารณญาณทุกอย่าง เพื่อพวกท่านจะสังเกตเห็นได้ว่าสิ่งใดดีที่สุด
และเพื่อพวกท่านจะเป็นคนบริสุทธิ์ปราศจากตำหนิในวันแห่งพระคริสต์ จะเป็นผู้ที่บริบูรณ์ด้วยผลของความชอบธรรมซึ่งเกิดขึ้นโดยทางพระเยซูคริสต์ เพื่อถวายพระเกียรติและการสรรเสริญแด่พระเจ้า นี่คือเป้าหมายที่สูงส่งของการเป็นคริสตชน คือการเติบโตในความรัก ความเข้าใจฝ่ายวิญญาณ และการเกิดผลแห่งความชอบธรรม
ความชื่นชมยินดีที่แท้จริงและยั่งยืนไม่ได้มาจากสิ่งของภายนอกหรือสถานการณ์ที่ราบรื่น แต่มาจากความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและความผูกพันกับพี่น้องในพระกายของพระคริสต์ การที่เราได้ร่วมสามัคคีธรรม ร่วมรับใช้ และสนับสนุนงานของพระเจ้าด้วยกันนั้น เป็นบ่อเกิดแห่งความยินดีอย่างแท้จริง
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส: โซ่ตรวนที่ประกาศพระคริสต์
ในส่วนนี้ ท่านเปาโลได้เผยให้เห็นมุมมองที่น่าทึ่งเกี่ยวกับความทุกข์ยากของท่านเอง ท่านบอกว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้านั้น ได้กลับเป็นผลดี ทำให้ข่าวประเสริฐแผ่ขยายออกไป" โซ่ตรวนที่พันธนาการท่าน ไม่ได้หยุดยั้งการประกาศ แต่กลับกลายเป็น "เวที" ที่ทำให้คนในกองทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดและคนอื่นๆ รู้ว่าท่านถูกจำจอง "ก็เพื่อพระคริสต์"
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ท่านเปาโลถูกจำจองอย่างกล้าหาญเพื่อพระคริสต์ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ "พี่น้องส่วนใหญ่ในองค์พระผู้เป็นเจ้ามีใจกล้าขึ้นที่จะกล่าวพระวจนะของพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว" แม้ว่าบางคนอาจจะมีแรงจูงใจที่ไม่บริสุทธิ์นัก คือประกาศด้วยใจอิจฉาและอยากชิงดี แต่ท่านเปาโลก็ยังคงชื่นชมยินดี เพราะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม "พระคริสต์ก็ได้ถูกประกาศไป"
นี่คือมุมมองที่เกิดจากความเข้าใจในพระประสงค์และอำนาจอธิปไตยของพระเจ้า ท่านเปาโลไม่ได้จดจ่ออยู่กับความยากลำบากส่วนตัว หรือความไม่สมบูรณ์แบบของคนอื่น แต่ท่านมองเห็นภาพใหญ่ว่าพระเจ้าทรงสามารถใช้ทุกสถานการณ์ แม้กระทั่งความทุกข์ยากและการต่อต้าน เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จได้ คือการประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ออกไป
มาถึงข้อพระคัมภีร์ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของบทนี้ และอาจจะทั้งจดหมายฉบับนี้เลยก็ว่าได้ ในข้อ 21 ท่านเปาโลกล่าวอย่างชัดเจนว่า "เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร" นี่คือคำประกาศที่สรุปเป้าหมาย แรงจูงใจ และความหมายทั้งหมดของชีวิตคริสเตียน
* การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์: ชีวิตบนโลกนี้ไม่ใช่เพื่อแสวงหาความสุข ความสำเร็จ หรือเกียรติยศส่วนตัว แต่มีเป้าหมายเดียวคือ การมีชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ รับใช้พระองค์ ทำให้พระองค์พอพระทัย และสำแดงพระลักษณะของพระองค์ผ่านชีวิตของเรา
 
* การตายก็ได้กำไร: สำหรับผู้เชื่อในพระคริสต์ ความตายไม่ใช่จุดจบที่น่าสะพรึงกลัว แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งที่ดีกว่า คือการได้ไปอยู่กับพระคริสต์ตลอดนิรันดร์ ซึ่งเป็น "กำไร" อย่างแท้จริง
ด้วยมุมมองเช่นนี้ ท่านเปาโลจึงเผชิญกับภาวะสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็ปรารถนาจะ "จากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก" แต่อีกใจหนึ่งก็รู้ว่าการที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ "ก็จำเป็นมากกว่าสำหรับพวกท่าน" สุดท้าย ท่านก็เลือกที่จะอยู่ต่อไปเพื่อเสริมสร้างความเชื่อและความชื่นชมยินดีของพี่น้องชาวฟิลิปปี นี่แสดงให้เห็นถึงความรักที่เสียสละและหัวใจของผู้รับใช้ที่แท้จริง
อะไรคือเป้าหมายสูงสุดที่ขับเคลื่อนชีวิตของเราในแต่ละวัน เรามีชีวิตอยู่ "เพื่อ" อะไร การที่เราเข้าใจว่าชีวิตนี้เป็นของประทานจากพระเจ้า และมีไว้เพื่อรับใช้พระองค์ จะเปลี่ยนแปลงมุมมองของเราต่อทุกสิ่ง ทั้งการงาน ครอบครัว ความสัมพันธ์ และแม้กระทั่งความตายได้อย่างไร
จากรากฐานความเชื่อและมุมมองที่กล่าวมาทั้งหมด ท่านเปาโลจึงปิดท้ายบทที่ 1 ด้วยคำหนุนใจที่เป็นภาคปฏิบัติว่า "ขอเพียงแต่ให้ท่านดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์" การดำเนินชีวิตที่ "สมกับ" หรือ "คู่ควร" (worthy) หมายถึง การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับความจริงอันยิ่งใหญ่ที่เราเชื่อและประกาศออกไป
ท่านเปาโลเน้นย้ำสองประการสำคัญในการดำเนินชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ
1. ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Unity) "ยืนหยัดมั่นคง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมใจกันต่อสู้เพื่อความเชื่อแห่งข่าวประเสริฐ" คริสตจักรที่มีเอกภาพและร่วมมือร่วมใจกันจะเป็นพยานที่ทรงพลังถึงความจริงของข่าวประเสริฐ
2. ความกล้าหาญเผชิญความทุกข์ยาก (Courage in Suffering) "ไม่หวั่นเกรงผู้ที่ขัดขวางเลย" ท่านเปาโลเตือนว่า การเผชิญการต่อต้านหรือความทุกข์ยากเพื่อพระคริสต์นั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็น "พระคุณ" ที่พระเจ้าประทานให้แก่ผู้เชื่อ เช่นเดียวกับการที่ทรงประทานความเชื่อให้เรา การทนทุกข์เพื่อพระนามของพระองค์ก็เป็นสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง เป็นการร่วมส่วนในความทุกข์กับพระคริสต์และกับอัครทูตเปาโลเอง
พี่น้องที่รักครับ พระธรรมฟิลิปปี บทที่ 1 เป็นเหมือนขุมทรัพย์ฝ่ายวิญญาณที่สอนให้เราเข้าใจว่า ความชื่นชมยินดีที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก แต่หยั่งรากลึกในความสัมพันธ์ของเรากับพระเยซูคริสต์ และการมีส่วนร่วมในพระราชกิจของพระองค์กับพี่น้องร่วมความเชื่อ
เราเรียนรู้จากท่านเปาโลว่า พระเจ้าทรงสามารถใช้ทุกสถานการณ์ แม้แต่ความทุกข์ยาก เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ และชีวิตที่มีความหมายอย่างแท้จริงคือชีวิตที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง ดังคำกล่าวที่ว่า "การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์" ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า สมกับข่าวประเสริฐที่เราได้รับ
ขอให้เราอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้า ใคร่ครวญพระวจนะตอนนี้เพิ่มเติม และที่สำคัญที่สุดคือ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำให้เราสามารถนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตจริง เพื่อที่เราทุกคนจะสามารถมีประสบการณ์ในความชื่นชมยินดีที่เต็มล้นซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ในทุกๆ วัน เหมือนดังมานาที่หล่อเลี้ยงประชากรของพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แหล่งอ้างอิง:
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่, จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี บทที่ 1
โฆษณา