2 พ.ค. เวลา 10:39 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 243 เอี้ยนชิงยิงห่านป่า

ทางด้านจางชิง ฉยงอิงเข้าประตูตะวันออกไปช่วยซุนอันรบกันชุลมุนอยู่ พอซ่งเจียงมาถึง จึงเข้าประตูตะวันออก เข้ายึดเมือง ชูธงทัพซ่งขึ้นทั้งสี่ประตู
พระมเหสีอุปโลกน์ต้วนซานเหนียง 段三娘 รู้ว่าทัพซ่งเข้าเมืองได้ ก็รีบสวมเกราะถืออาวุธขึ้นม้านำทหารองครักษ์ร้อยกว่าคนออกจากวังมาทางอุทยานหลัง หวังบุกออกจากเมืองทางประตูตะวันตกเพื่อไปยังเมืองหยุนอัน 云安军 แต่มาพบฉยงอิงที่ไล่ล่าเข้ามาทางอุทยานหลังพอดี
ต้วนซานเหนียงโผนม้าแกว่งดาบเข้าหา ฉยงอิงซัดหินใส่แสกหน้าต้วนซานเหนียงตกม้าขาชี้ฟ้า ทหารกรูเข้าไปจับมัดเป็นเชลย พวกมหาดเล็กถูกสังหารสิ้น พวกนางกำนัลในวังบ้างโดดบ่อ บ้างชนผนัง บ้างเชือดคอฆ่าตัวตายไปเสียครึ่ง ที่เหลือถูกจับ ซ่งเจียงให้จำขังไว้รอจับหวางชิ่งดำเนินการพร้อมกัน
ทางด้านหวางชิ่งหนีฝ่าวงล้อมมากับทหารม้าไม่กี่ร้อยนาย มาถึงฟากตะวันออกของหนานเฟิง เห็นในเมืองเกิดการสู้รบ ด้านหลังก็มีทัพไล่ตามมา จึงหนีต่อขึ้นเหนือเพื่อไปหยุนอัน 云安 เหลียวหลังดู เห็นผู้ติดตามเหลือทหารม้าเพียงร้อยกว่าคน ที่เหลือหนีไปหมดแล้ว หวางชิ่งปรารภกับผู้ติดตามว่า
“กว่าเหยิน 寡人 ยังมีเมืองหยุนอัน 云安 ตงชวน 东川 อันเต๋อ 安德 อีกสามแห่ง หาใช่เล็กน้อยในเจียงตง 江东 ยังพอนับเป็นอ๋องอยู่ เจ้าพวกผู้ติดตามที่เคยได้ทั้งลาภทั้งยศ พอเกิดเรื่องกลับมาทิ้งกันไป รอข้ารวมกำลังขับไล่ทัพซ่งเสร็จ ต้องจับเจ้าพวกรักตัวกลัวตายมาลงโทษสับให้ละเอียด (醢ไห่ โทษสับศพให้เป็นบะช่อ)”
หวางชิ่งเร่งเดินทางทั้งคืนโดยไม่พัก พอฟ้าสางก็มองเห็นเมืองหยุนอันแต่ไกล หวางชิ่งอยู่บนหลังม้ากล่าวชื่นชมว่า
“ขุนพลรักษาเมืองนี้ เข้มงวดกวดขันดียิ่งนัก ธงทิวเป็นระเบียบ อาวุธเรียงรายแน่นขนัด”
แล้วเร่งรุดจะเข้าเมือง พอเข้าใกล้เห็นชัดตา ทหารติดตามผู้หนึ่งอ่านหนังสือออกร้องว่า
“แย่แล้วท่านอ๋อง บนกำแพงมีแต่ธงทัพซ่ง”
หวางชิ่งเพ่งมองธงบนประตูเมืองตะวันออกอ่านได้แต่ไกลว่า “ใต้ร่มธงแม่ทัพซ่งปราบประจิม แม่ทัพเรือ น้ำขุ่น…” อักษรข้างล่างลมกระพือพับไว้อ่านไม่ได้ หวางชิ่งจ้องมองตัวแข็งทื่อ ทหารซ่งลงมาจากฟ้าหรืออย่างไร
มหาดเล็กเตือนสติว่า “ท่านอ๋อง รีบเปลี่ยนฉลองพระองค์เถิด”
หวางชิ่งถอดชุดเครื่องทรงแสดงตำแหน่งออก มหาดเล็กที่เหลือติดตามมาก็ถอดชุดไม่ให้ดูออก ทั้งนายบ่าวดูเหมือนชาวบ้านปอนปอนซอมซ่อ ไม่ต่างสุนัขจรจัดข้างทาง หรือปลาที่รอดร่างแห รีบหนีตามทางน้อยเพื่อไปยังตงชวน ทั้งเหนื่อยทั้งหิว รายทางไม่พบชาวบ้านอาศัยขอข้าวขอน้ำสักหยด ด้วยหนีภัยสงครามกันไปหมด เหลียวมองดูผู้ติดตามหนีหายไปอีกเจ็ดสิบกว่าคน
หวางชิ่งกับผู้ติดตามที่เหลือสามสิบกว่าคน หนีมาจนเย็นถึงแดนเมืองไคโจว 开州 ซึ่งยังคงขึ้นกับเมืองหยุนอัน มีแม่น้ำขวางหน้า เรียกว่าแม่น้ำชิงเจียง 清江 มีต้นน้ำอยู่ที่ว่านชิงฉือ เมืองต๋าโจว 达州万顷池 น้ำในแม่น้ำใสเย็นจึงได้ชื่อแม่น้ำชิงเจียง หรือ แม่น้ำใส
หวางชิ่งว่า “จะหาเรือได้จากไหน”
มหาดเล็กผู้หนึ่งชี้ว่า “ท่านอ๋อง พงอ้อที่หาดทางใต้นั่น มีเรือหาปลาอยู่หลายลำ”
หวางชิ่งพาพวกไปยังริมแม่น้ำ เห็นเรือประมงสิบกว่าลำ บ้างทอดแหจับปลาอยู่ บ้างกำลังตากอวน บ้างลอยลำเล่นกำทาย ดื่มสุราชามใหญ่กันอยู่
หวางชิ่งถอนหายใจว่า “ชายหญิงพวกนี้ช่างมีความสุขนัก ไม่เหมือนข้าในวันนี้ พวกนี้ต่างเป็นราษฎรของข้า ช่างไม่รู้ถึงความลำบากของกว่าเหยิน”
มหาดเล็กตะโกนบอกว่า “ชาวประมง ถ่อเรือมารับพวกเราข้ามน้ำหน่อย มีค่าเรือให้”
ชาวประมงสองคนวางชามเหล้าลง กรรเชียงเรือเอี๊ยดๆ อ๊าดๆ เข้ามาใกล้ฝั่ง ชาวประมงที่หัวเรือคว้าถ่อไม้ไผ่มาถ่อเรือชิดตลิ่ง แล้วเพ่งตามองหวางชิ่งจากหัวจรดเท้าแล้วว่า
“สุขใจ สุขใจ มีเหล้าดื่มมีของกิน ขึ้นเรือ ขึ้นเรือ”
มหาดเล็กประคองหวางชิ่งลงจากหลังม้า
หวางชิ่งมองดูชาวประมงผู้นี้ ร่างสูงใหญ่ คิ้วดกหนา นัยน์ตาโต หน้าแดงเคราแข็งดังลวดเหล็ก เสียงกังวานปานระฆัง มือหนึ่งถือถ่อไม้ไผ่ ส่งอีกมือมาพยุงหวางชิ่งขึ้นเรือ แล้วเอาถ่อไม้ไผ่กระทุ้งตลิ่ง เรือลอยลำออกไปจ้างกว่า พวกผู้ติดตามบนตลิ่งตะโกนว่า
“ถ่อกลับมาก่อน พวกเราก็จะข้ามน้ำ”
ชาวประมงผู้นั้นถลึงตาตวาดลั่น
“มาแล้ว โวยวายอะไรกัน”
แล้วหันมารวบตัวหวางชิ่งจับกดลงบนพื้นกระดานเรือ หวางชิ่งพยายามดิ้นให้หลุด คนกรรเชียงเรือกระโดดมาช่วยจับ พวกชาวประมงที่กำลังตากอวน เห็นหวางชิ่งถูกจับ ก็กระโจนขึ้นฝั่ง กรูเข้าจับโจรติดตามสามสิบกว่าคนนั้นเอาไว้ได้หมด
คนถ่อเรือคือมังกรน้ำขุ่นหลี่จวิ้น คนกรรเชียงเรือคือมังกรทะลวงถ้ำถงเวย พวกชาวประมงคือเหล่าทหารเรือ หลี่จวิ้นรับบัญชาแม่ทัพซ่งนำทัพเรือมาทำลายทัพเรือข้าศึก รบกันที่หุบชวีถังเสีย 瞿塘峡 สังหารเหยินสื้อฉง 人世崇 แม่ทัพเรือศัตรู แล้วจับตัวหูจวิ้น 胡俊 รองแม่ทัพเรือไว้ได้ ทัพเรือข้าศึกถูกทำลาย
หลี่จวิ้นเห็นบุคลิกหูจวิ้นไม่ธรรมดาจึงเกลี้ยกล่อมจนยอมสวามิภักดิ์ แล้วช่วยหลี่จวิ้นเปิดประตูน้ำเมืองหยุนอัน เข้ายึดเมืองได้ สังหารเจ้าเมืองซือจวิ้น 施俊 เสีย
หลี่จวิ้นคาดการณ์ว่า หากหวางชิ่งรบกับทัพใหญ่พ่ายแพ้ ต้องหนีมาทางนี้ จึงให้จางเหิง จางซุ่นอยู่รักษาเมือง ตนเองกับถงเวย ถงเหมิ่งปลอมเป็นชาวประมงตระเวนอยู่แถวนี้ ให้สามหย่วนพี่น้องแยกไปดักที่ ยั่นวี่ตุย 滟滪堆 หมินเจียง 岷江 หวีฟู่ผู่ 鱼复浦
หลี่จวิ้นเห็นพวกหวางชิ่งมาก็รู้ว่าต้องเป็นพวกโจรระดับหัวหน้า จึงจับตัวหัวหน้าไว้ พอสอบถามดูรู้ว่าเป็นตัวหวางชิ่งนายใหญ่ ก็ตบมือหัวเราะชอบใจ จับมัดนำตัวเข้าเมืองหยุนอัน แล้วส่งคนไปตามสามหย่วนพี่น้องให้กลับมาอยู่รักษาเมืองกับสองจางพี่น้อง ส่วนตนเองกับหูจวิ้นขุนพลใหม่นำตัวหวางชิ่งมาส่งให้ซ่งเจียงที่เมืองหนานเฟิง
ซ่งเจียงกำลังพะวงอยู่ว่าหาตัวหวางชิ่งไม่พบ พอรับรายงานก็ชอบใจใหญ่ พอหลี่จวิ้นเข้ามาถึงที่ว่าการ ซ่งเจียงก็กล่าวชมว่า
“น้องเราสร้างผลงานไม่น้อย”
หลี่จวิ้นนำหูจวิ้นมาคารวะแนะนำตัว แล้วว่า
“ผลงานเป็นของท่านผู้นี้”
ซ่งเจียงไต่ถามชื่อแซ่ และเรื่องราวการยึดเมืองหยุนอัน
ซ่งเจียงบำเหน็จเหล่าทหารเสร็จ ก็หารือเหล่าขุนพลถึงเรื่องการเข้าตีเมืองตงชวน เมืองอันเต๋อ อีกสองแห่ง
หูจวิ้นขุนพลใหม่ว่า “ท่านแม่ทัพไม่ต้องวุ่นวายใจ ผู้แซ่หูมีวิธีให้ทั้งสองเมืองมาอ่อนน้อม ไม่ต้องเปลืองแรง”
ซ่งเจียงถามว่ามีหนทางใด หูจวิ้นว่า
“ขุนพลผู้รักษาเมืองตงชวนเป็นน้องชายของผู้น้อยชื่อ หูเสี่ยน 胡显 ผู้น้อยขอตอบแทนพระคุณท่านหลี่จวิ้นที่ไว้ชีวิต ไปเกลี้ยกล่อมน้องหูเสี่ยนให้สวามิภักดิ์ จากนั้นเหลือเมืองอันเต๋ออยู่โดดเดี่ยว ย่อมต้องสวามิภักดิ์เอง”
ซ่งเจียงชอบใจยิ่งนัก สั่งการให้หลี่จวิ้นร่วมทางไปด้วย และสั่งการให้เหล่าขุนพลแยกย้ายไปเกลี้ยกล่อมตำบลที่ยังคงแข็งข้อให้ยอมอ่อนน้อม ทั้งให้ไต้จงนำรายงานไปถวายราชสำนัก ให้ดำเนินการขั้นต่อไป พร้อมทั้งส่งรายงานแก่เฉินอันฝู่ และซู่ไท่เว่ย ซ่งเจียงยังสั่งการให้เผาทำลายตำหนักราชวัง เสื้อผ้าเครื่องยศของหวางชิ่งเสียให้สิ้นซาก ทั้งยังส่งคนไปแจ้งจางเหิงที่เมืองหยุนอันให้เผาตำหนักและเครื่องยศทิ้งเช่นกัน
กล่าวถึงไต้จงนำหนังสือมาส่งให้เฉินอันฝู่ที่จิงหนานก่อน เฉินอันฝู่ฝากฎีกาถวายด้วย ไต้จงมาถึงตงจิง นำหนังสือทั้งหมดมอบให้ซู่ไท่เว่ย ซู่ไท่เว่ยนำฎีกาถวาย ฮุยจงฮ่องเต้ทอดพระเนตรแล้วทรงพอพระทัยยิ่ง มีพระราชโองการไปยังไหวยซีให้กุมตัวหวางชิ่งส่งมายังเมืองหลวง พวกที่เหลือทั้งมเหสีและขุนนางอุปโลกน์ให้ประหารเสียที่ไหวยซี ตัดหัวเสียบประจาน แต่งตั้งขุนนางออกปกครองหัวเมืองที่ยึดคืนมาได้ พวกที่ไปทำศึกให้กลับเมืองหลวงมารับพระราชทานรางวัล
ไต้จงรู้ความแล้วนำข่าวกลับมาแจ้งเฉินอันฝู่ก่อน แล้วจึงมาหนานเฟิง ถึงเวลานั้นหูจวิ้นเกลี้ยกล่อมหูเสี่ยนนำเมืองตงชวนมาสวามิภักดิ์แล้ว เมืองอันเต๋อจึงต้องตามทิศทางลมด้วย นับเป็นผลงานของหลี่จวิ้นที่ได้เมืองหยุนอัน ตงชวน อันเต๋อทั้งสามแห่ง แปดเมืองแปดสิบหกอำเภอที่หวางชิ่งยึดครองไป บัดนี้ได้กลับคืนมาหมดสิ้น
ไต้จงกลับมาได้สิบกว่าวัน พระราชโองการก็มาถึงให้เฉินอันฝู่นำตัวนางสกุลต้วน หลี่จู้ และพวกประหารแล้วตัดหัวเสียบประจาน ดีที่ต้วนไท่กงตายไปเสียก่อนตั้งแต่ยังอยู่ค่ายบนเขาห้อง
ต่อมา ทางราชสำนักส่งเจ้าเมืองใหม่ทยอยเดินทางมารับหน้าที่ตามเมืองต่างๆ พวกเฉียวเต้าชิง หม่าหลิง หลี่จวิ้น สองจาง สามหย่วน สองเวย ก็ทยอยกลับมาสมทบที่หนานเฟิงจนครบ ซ่งเจียงให้จัดเลี้ยงที่เสร็จงานพี่น้องอยู่กันครบ แล้วให้กงซุนเสิ้ง เฉียวเต้าชิง ทำพิธีหลอเทียนต้าเจี้ยวเจ็ดวันเจ็ดคืนอุทิศแก่เหล่าทหารหาญที่พลีชีพไป
เสร็จพิธีต้าเจี้ยว มีรายงานว่าซุนอันป่วยถึงแก่กรรม ซ่งเจียงเสียใจยิ่งนักให้จัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ ฝังอัฐิไว้ที่เขาหลงเหมิน เฉียวเต้าชิงนั้นสนิทกับซุนอันมาก เมื่อซุนอันเสียไปแล้วจึงมาขออำลาซ่งเจียง นำอัฐิบางส่วนของซุนอันกลับไปยังเถียนเหย่ 田野 หม่าหลิงเห็นเฉียวเต้าชิงลากลับบ้าน จึงมาขอลากลับด้วย ซ่งเจียงจะรั้งไว้อย่างไร ทั้งคู่ก็ยืนยันที่จะลากลับ ส่วนกงซุนเสิ้งในฐานะอาจารย์ไม่พูดอะไร ทั้งเฉียวเต้าชิงและหม่าหลิงในวันข้างหน้าได้เดินทางมาฝากตัวบำเพ็ญพรตกับหลอเจินเหยินจนสิ้นอายุขัย
เมื่อสมควรแก่เวลา เฉินอันฝู่มีบัญชาให้เดินทางกลับเมืองหลวง การเดินทางทางเรือนั้นสะดวกรวดเร็ว ซ่งเจียงจึงให้ทัพเรือพาเฉินอันฝู่ เสธ.โหว อาจารย์หลอเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ซ่งเจียงให้เซียวย่างเขียนคำสดุดีให้จินต้าเจียนสลักแท่งหินอนุสรณ์การศึกครั้งนี้ตั้งไว้ที่เชิงเขาหลงเหมินทางตะวันออกของเมืองหนานเฟิง
ถึงเวลาเคลื่อนทัพบกกลับเมืองหลวง ซ่งเจียงให้แบ่งออกเป็นห้าขบวนทยอยเคลื่อนทัพตามกันไป เดินทางมาได้หลายวันจนถึงตำบลหนึ่งเป็นท่าข้ามเรียกว่าท่าชิวหลินตู้ 秋林渡 อยู่ทางใต้ของเขาชิวหลิน 秋林山 อำเภอเน่ยเซียง 内乡县 เมืองหว่านโจว 宛州 ทิวทัศน์ที่นี่งดงามนัก เป็นเทือกเขาสูงสูงต่ำต่ำ หินผารูปร่างแปลก มีบ่อน้ำธรรมชาติ
ซ่งเจียงยืนม้าชื่นชมธรรมชาติ แล้วแหงนหน้ามองฟ้าเห็นฝูงห่านป่าบินกันมาแปลกๆ ไม่เป็นแถวเป็นระเบียบเหมือนปกติทั่วไป กลับบินสะเปะสะปะ เป็นแถวที่แหว่งๆ เหมือนตื่นตกใจอะไรบางอย่าง ด้านหน้ามีเสียงร้องชมเชยกันดังเอะอะ ซ่งเจียงจึงให้คนไปดูว่าข้างหน้าเกิดเหตุอันใด ทหารกลับมารายงานว่า คนเสเพลเอี้ยนชิงเพิ่งหัดยิงธนู จึงลองยิงห่านป่าดู ปรากฏว่าถูกทุกครั้งได้สิบกว่าตัว จึงร้องชมกัน ซ่งเจียงจึงบอกให้ไปตามเอี้ยนชิงมาพบ
พอเอี้ยนชิงมาถึงลงจากม้าแล้ว ซ่งเจียงก็ถามว่า
“เมื่อครู่เจ้ายิงห่านป่าหรือ”
เอี้ยนชิงว่า “ผู้น้องเพิ่งหัดยิงธนู เห็นฝูงห่านป่าบินมา จึงทดลองยิง ไม่คิดว่าจะถูกทุกดอก”
ซ่งเจียงว่า “เป็นทหารฝึกยิงธนูเป็นเรื่องสมควร เจ้ายิงถูกนับว่ามีความสามารถ ห่านป่าพวกนี้อพยพหนีหนาวจากเขาเทียนซานลงใต้ไปหาอาหารยังเจียงหนานที่อบอุ่น พอถึงต้นวสันต์ก็บินกลับ
ห่านป่าพวกนี้มีวินัยการุณคุณธรรมปัญญาแลศรัทธา บินกันมาเป็นฝูงละสิบตัวห้าสิบตัว ผู้อาวุโสบินนำ ผู้น้อยบินตามไม่แตกแถว ตกเย็นลงพักยังมีเวรยาม นี่คือมีวินัย ตัวผู้ตัวเมียคู่กันแล้ว ฝ่ายใดล้มตายก่อน อีกฝ่ายไม่จับคู่ใหม่ชั่วชีวิต นี่คือคุณธรรม ห่านโดดเดี่ยวขาดคู่ดูแล ฝูงไม่รังแกทอดทิ้ง นี่คือการุณ
รู้จักหลบหลีกเหยี่ยวและอินทรี คาบกกข้ามด่าน นี่คือปัญญา (ชาวจีนสังเกตห่านป่าบินมาจากทางเหนือมักคาบต้นกกในปาก 衔芦过关) สารทใต้วสันต์เหนือ 秋南春北 บินเช่นนี้ทุกปีนี่คือศรัทธา
ห่านพวกนี้มีคุณความดีครบห้าประการ จะทำร้ายลงได้อย่างไร ฝูงห่านป่าบินผ่านมา เหมือนพวกเราพี่น้อง เจ้ายิงไปกี่ตัว เหมือนเด็ดหัวพี่น้องเราไปกี่คน ในใจเจ้ารู้สึกเช่นไร ต่อแต่นี้น้องเราอย่าได้ทำร้ายฝูงห่านทรงคุณธรรมมีวินัยนี้อีกเลย”
เอี้ยนชิงฟังแล้วได้แต่นิ่ง รู้สึกเสียใจที่ได้ทำบาปไป ซ่งเจียงรู้สึกสะเทือนใจ ร่ายบทกวีบนหลังม้าว่า
山岭崎岖水渺茫,横空雁阵两三行。
忽然失却双飞伴,月冷风清也断肠。
เขาเป็นริ้วขยุกขยิกน้ำลิบลิ่ว
ห่านป่าเหินเป็นทิวสองสามแถว
คู่บินเคียงพลันร่วงไปไหนแล้ว
จันทร์แจ่มฉายพระพายแผ่วยังบาดใจ
ตอนก่อนหน้า : ล่าหวางชิ่ง
ตอนถัดไป : พี่น้องพร้อมขบถ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา