ผลสำรวจเผย คนจีนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังรวมชาติไต้หวัน
Survey Reveals Majority of Chinese Oppose Forceful Unification with Taiwan
📌 เนื้อหาสรุปและวิเคราะห์เชิงลึก
📰 🧠 ความคิดเห็นของคนจีนต่อไต้หวันเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ผลสำรวจล่าสุดโดย The Carter Center ร่วมกับมหาวิทยาลัย Emory ในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า 55.1% ของชาวจีนที่ตอบแบบสอบถาม ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังในการรวมชาติไต้หวัน ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ซึ่งสะท้อนทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากผลสำรวจในปี 2023 ที่ 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามกลับสนับสนุน “การทำสงครามเต็มรูปแบบเพื่อรวมชาติ”
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประชาชนจำนวนหนึ่ง (ประมาณ 24.5%) ที่ยังคงเห็นว่าควรใช้กำลัง และ 18.1% เท่านั้นที่เห็นว่าไม่ควรใช้กำลังเลยแม้แต่ในกรณีสุดท้าย
🗨️ สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนในมุมมองของสาธารณชนจีน ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวจากแนวคิดแข็งกร้าวไปสู่แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวข้องกับสงคราม
🌏 🇨🇳 ความรู้สึกต่อมหาอำนาจอื่นๆ: สหรัฐฯ รัสเซีย อินเดีย
📉 87.6% ของชาวจีนที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า สหรัฐฯ พยายามสกัดกั้นไม่ให้จีนพัฒนา
💥 66.1% สนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน โดยมองว่าเป็นประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของจีน
🛑 79.7% เห็นว่าจีนควรยืนกรานในข้อพิพาทชายแดนกับอินเดีย แม้จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ขณะที่ 20.3% ต้องการแนวทางการทูต
🇹🇭 🔍 ผลกระทบต่อไทย: ความมั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในภูมิภาค
การที่ชาวจีนจำนวนมากเริ่มไม่สนับสนุนการใช้กำลังกับไต้หวัน อาจช่วยลดแรงตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกชั่วคราว ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อสภาพแวดล้อมการลงทุนของไทยและอาเซียนในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกสนับสนุนรัสเซียของสาธารณชนจีน และท่าทีแข็งกร้าวต่ออินเดีย ยังคงเป็น ตัวแปรเสี่ยง ที่อาจนำไปสู่การแบ่งขั้วของภูมิภาค ส่งผลต่อเสถียรภาพด้านโลจิสติกส์ พลังงาน และการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไทยมีส่วนพัวพันอยู่
📉 💹 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย
แม้ไทยจะอยู่ในจุดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน แต่ความผันผวนของนโยบายจีนต่อภูมิภาคยังมีผลทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค:
🔸 STA (Sri Trang Agro-Industry) และ NRF (NR Instant Produce)
ได้รับผลกระทบทางบวกเล็กน้อยในเชิงจิตวิทยา เพราะมีการส่งออกไปจีนและไต้หวัน หากสถานการณ์ผ่อนคลาย นักลงทุนอาจมองว่า โซ่อุปทานจะมั่นคงขึ้น
🔸 PSL (Precious Shipping) และ TTA (Thoresen Thai Agencies)
หากความตึงเครียดลดลง การเดินเรือและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาจฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางผ่านทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงหลัก
🔸 DELTA (Delta Electronics) และ KCE (KCE Electronics)
ยังคงมีความเสี่ยงหากจีนกลับมาใช้ท่าทีแข็งกร้าว เนื่องจากพึ่งพาการส่งออกและวัตถุดิบจากจีนสูง หากเกิดความไม่แน่นอนในภูมิภาค ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อาจสั่นคลอน
🧭 Hashtags:
#WorldNews #ChinaTaiwan #PublicOpinion #Geopolitics #WorldScope
🔗 Reference: Latestly - Survey Reveals Majority of Chinese Oppose Forceful Unification with Taiwan
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
