📰 Prince Harry แพ้อุทธรณ์เรียกคืนการรักษาความปลอดภัยจากรัฐอังกฤษ
Prince Harry loses appeal to restore his UK government-funded security detai
📌 สรุปข่าวเข้าใจง่าย
เจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษ สูญเสียการอุทธรณ์คำตัดสินของรัฐบาลอังกฤษ ที่ตัดสิทธิ์การได้รับ "การรักษาความปลอดภัยจากรัฐ" ขณะพำนักหรือเดินทางในสหราชอาณาจักร หลังจากที่พระองค์และภรรยา (เมแกน มาร์เคิล) ถอนตัวจากบทบาทราชวงศ์อย่างเป็นทางการในปี 2020 และย้ายไปพำนักที่สหรัฐฯ
📍 ศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยเอกฉันท์ ยืนยันว่าคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของรัฐบาลไม่ได้กระทำการอย่างไม่เป็นธรรมต่อเจ้าชายแฮร์รี่ โดยกำหนดให้พิจารณาการให้การคุ้มครองแบบ "รายกรณี" แทนการคุ้มครองถาวรทุกครั้งที่พระองค์เสด็จกลับอังกฤษ
📍 คำพิพากษานี้ยืนตามคำตัดสินของศาลสูงก่อนหน้า ที่ระบุว่า แผนการคุ้มครองแบบ "bespoke" ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายหรือไม่สมเหตุสมผลแต่อย่างใด
📍 ทนายฝ่ายเจ้าชายแฮร์รี่ยืนยันว่า พระองค์ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างแท้จริง โดยยกเหตุการณ์ที่ถูกขู่ฆ่าโดยกลุ่มอัลกออิดะห์ และกรณีถูกปาปารัซซีไล่ล่าที่นิวยอร์ก ขณะที่ฝั่งรัฐบาลย้ำว่าการให้เจ้าชายจ่ายเงินเพื่อจ้างตำรวจมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวนั้นไม่เหมาะสม
⚖️ ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม
กรณีนี้ตอกย้ำคำถามว่า “ผู้ลี้ภัยจากสถานะสาธารณะ” มีสิทธิ์ในการได้รับการคุ้มครองระดับรัฐหรือไม่ แม้จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบุคคลสาธารณะอีกต่อไป แต่ยังคงเผชิญความเสี่ยงจากชื่อเสียงเดิม โดยเฉพาะในยุคที่ภัยคุกคามเกิดได้จากทั้งโซเชียลมีเดียและโลกจริง
📉 ผลกระทบต่อหุ้นไทยในตลาดหลักทรัพย์ SET
ข่าวนี้แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวของราชวงศ์อังกฤษ แต่มี "ผลกระทบแฝงต่อกลุ่มหุ้นสื่อ ท่องเที่ยว และความมั่นคง" โดยเฉพาะในมุมของ "ความน่าเชื่อถือและการเคลื่อนไหวของบุคคลมีชื่อเสียง" ที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมดังกล่าว เช่น:
🔸 หุ้นกลุ่มสื่อ (Media/PR): เช่น MAJOR, WORK, PLANB อาจได้แรงกระเพื่อมทางบวกหากมีการนำเสนอข่าวเชิงวิเคราะห์หรือสร้างสารคดีเกี่ยวกับราชวงศ์ ซึ่งได้รับความนิยมในไทยและทั่วโลก แต่ก็เสี่ยงจากการถูกโจมตีเรื่องจริยธรรมการรายงานข่าวเชิงบุคคล
🔸 หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว/โรงแรม (Tourism/Hotel): เช่น ERW, MINT, CENTEL หากการถกเถียงเรื่องความปลอดภัยกระตุ้นให้เกิดความกลัวในการเดินทางของคนดังหรือกลุ่ม High Net Worth ก็อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวไฮเอนด์โดยเฉพาะจากอังกฤษ
🔸 หุ้นความมั่นคง/ไอที/กล้องวงจรปิด (Security Tech): เช่น SYNEX, SAMTEL อาจได้รับแรงหนุนจากกระแสความสนใจต่อเทคโนโลยีความปลอดภัยส่วนบุคคล (Private Security & Surveillance Tech)
🔸 หุ้นแพลตฟอร์มข่าว/โซเชียล (Digital Media): เช่น COM7 (เกี่ยวเนื่องกับอุปกรณ์สื่อสาร), TRUE, ADVANC (เกี่ยวกับ Data & Streaming) หากข่าวนำไปสู่ความเคลื่อนไหวบนแพลตฟอร์มโซเชียลก็อาจสร้าง Traffic เพิ่มในระยะสั้น
🌍 วิเคราะห์ผลกระทบในบริบทไทย
แม้ไทยอยู่ห่างไกลจากบริบทราชวงศ์อังกฤษ แต่กรณีนี้สะท้อนให้เห็นภาพรวมของความขัดแย้งระหว่าง “สถานะเก่า” กับ “ความเปลี่ยนแปลงใหม่” ซึ่งตรงกับบริบทของคนรุ่นใหม่ในไทยที่เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ และความโปร่งใสจากสถาบันที่เคยเป็นอำนาจสูงสุดในอดีต
กรณีนี้ยังอาจจุดประกายการตั้งคำถามต่อการใช้งบประมาณรัฐเพื่อการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ (VIP) ในไทย รวมถึงเปิดประเด็นเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบความยุติธรรม
Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#สิทธิที่ถูกเผา #RoyalSecurity #PrinceHarry #WorldScope #ScorchedRights #UKLaw #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์หุ้น #ตลาดหลักทรัพย์ไทย #หุ้นสื่อ #หุ้นท่องเที่ยว #ความมั่นคงส่วนบุคคล
📌 Reference:
Hindustan Times (2024). Prince Harry loses appeal to restore his UK government-funded security detail
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
