ครั้งนั้น พระสรีระประดิษฐานอยู่ที่มกุฏพันธนเจดีย์ แคว้นมัลละ ใกล้เมืองกุสินารา เหล่ามัลลปาโมกข์ หรือ ประธานของเจ้ามัลละ ๔ คน พยายามจุดไฟที่จิตกาธานหรือเชิงตะกอนที่วางพระพุทธสรีระ ทำอย่างไรก็จุดไฟไม่ติด
พระอนุรุทธเห็นดังนั้นจึงบอกเจ้ามัลละว่า พระมหากัสสปะพร้อมด้วยภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป กำลังเดินทางมาจากเมืองปาวาเพื่อมาถวายบังคมพระบรมศพ ยังไม่ถึงเมืองกุสินาราเพื่อถวายบังคมแถบพระบาททั้งสอง
เมื่อพระมหากัสสปะเดินทางมาถึง ก็เข้าไปที่จิตกาธาน ห่มจีวรเฉวียงบ่า ปิดบ่าซ้าย เปิดบ่าขวา ประนมอัญชลี กระทำประทักษิณเวียนขวารอบจิตกาธาน ๓ รอบ แล้วยืนถวายบังคมทางด้านพระบาทพร้อมกับเข้าฌาน ๔ อันเป็นฐานของอภิญญา หลังออกจากฌาณแล้วได้อธิษฐานขอให้พระบาทของพระพุทธองค์โผล่พ้นโลงพระศพออกมาให้เห็นด้วยตาของตน ทันใดนั้นพระบาทก็โผล่ออกมาให้เห็น พระมหากัสสปะได้จับพระบาททั้งสองมาประดิษฐานเหนือศรีษะตน พระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ก็ถวายบังคมเช่นเดียวกัน ประชาชนต่างร้องไห้คร่ำครวญยิ่งกว่าครั้งที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพานเสียอีก
พระมหากัสสปะและภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ถวายบังคมครบแล้ว เปลวไฟทุกด้านของจิตกาธานก็ลุกโพลงขึ้นเองด้วยอานุภาพของเทวดา ขณะไฟลุกไหม้พุทธสรีระนั้นไม่มีเขม่าไฟแม้แต่น้อย ผ้าทั้ง ๕๐๐ คู่ที่ใช้ห่อพุทธสรีระไหม้ทั้งหมด เหลือเพียง ๒ ผืน คือ ผืนในสุด กับผืนนอกสุด แม้แต่กิ่ง ใบ ดอก คาคบของต้นสาละที่ล้อมรอบจิตกาธานก็ไม่ไหม้เช่นกัน
ทันใดนั้น มีสายน้ำปรากฏมาอย่างอัศจรรย์ ทั้งที่ไหลมาจากทางอากาศ พลุ่งจากลำต้นสาละและจากพื้นดินโดยรอบ เพื่อดับเปลวเพลิงที่จิตกาธาน เหล่าเจ้ามัลละทั้งหลายก็ร่วมกันดับเชิงตะกอนด้วยน้ำหอม เมื่อเปลวไฟสงบลงพระพุทธสรีระก็เหลือเพียงพระบรมสารีริกธาตุอันมีสีดุจดอกมะลิ แก้วมุกดา และทองคำ
.
✨ ยุวพุทธฯ บ้านแห่งธรรม ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน
ร่วมปฏิบัติธรรม ๑ วันภาวนา
⏰ วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘
ณ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซอยเพชรเกษม ๕๔
☎️ ๐๒ ๔๕๕ ๒๕๒๕
.
ที่มา หนังสือวันพุทธ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ไม่มีในปฏิทิน
โดย รศ.ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์
.
ยุวพุทธฯ บ้านแห่งธรรม
ร่วมสร้าง ”ยุว” ให้เป็น “พุทธะ”
#วันอัฏฐมีบูชา
#ยุวพุทธฯบ้านแห่งธรรม
#YUWAPUT
#Meditation