ถามโง่ AI มันก็โง่ตามแหละ …
จากรูปหัวโพสต์นี้ เห็นอะไรบ้างไหมครับ ?
เรื่องของเรื่องคือ มีผู้ใช้งานท่านหนึ่ง ไปให้ AI ช่วยเปลี่ยน
พื้นที่ตามรูปซ้าย ให้เป็นห้องแต่งตัว
แล้ว AI ก็เจนมาให้ เป็นรูปทางขวามือ
มองเผินๆก็สวยดี แต่ถามว่าเป็นไปได้ไหม ในความเป็นจริง
ก็ต้องบอกว่าได้ แต่คงไม่มีใครทำ
เนื่องจาก AI เปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากผนังเป็นตู้ทั้งหมด
แม้ทำได้ หากบริเวณนั้นไม่มีโครงสร้างรับน้ำหนัก
แต่การทำแบบนี้ หมายถึงการทุบกระจุยกระจาย
โดยไม่คำนึงถึงการใช้งานของพื้นที่ข้างเคียง
มันจึงไม่มีใคร ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ
หรือแย่กว่านั้น หากนี่คือส่วนของผนังรับน้ำหนัก
การไปทุบแบบนั้น ย่อมสร้างความวิบัติให้อาคาร
…โดยรวม มันจึงหมายถึงว่า เป็นไปไม่ได้….
…และบอกเราได้ว่า AI บางทีมันก็ไม่ได้ฉลาดอะไรนัก….
…แม้แต่ตัวที่เราคิดว่าดีที่สุดก็ตาม….
สิ่งที่ผู้ใช้ AI ต้องเข้าใจ คือ การตั้งคำถามนั้น สำคัญที่สุด
เนื่องจาก AI จะประเมิน bias ของผู้ใช้งาน จากรูปประโยค
ที่ถาม และ digital footprint ต่างๆ ของ user
เพื่อให้คนถามนั้น ได้รับคำตอบที่พึงพอใจที่สุด
ใช่ครับ AI ไม่มีอคติ
แต่มันประเมินอคติของผู้ถามเสมอ
จนมีรายงานถึงการให้คำตอบผิดเพี้ยน เอาใจผู้ถามเกินไป
ของ AI ที่ว่ากันว่าดีที่สุด อย่าง chat GPT
ที่เป็นแบบนั้น เพราะเหตุผลทางการตลาด
ที่จะต้องมีคำตอบเอาใจ เพื่อดึงดูดลูกค้านั่นเอง
เนื่องจาก AI ส่วนมากที่เราใช้กัน มีลักษณะเป็น chat bots
หรือก็คือ มันถูกออกแบบให้เป็นคู่สนทนา
ก็เหมือนกับเด็กดริ้งค์แหละ ถ้าไปตอบคำถามแบบขัดใจ
คนที่สนทนาด้วย มันก็เสียลูกค้า
ดังนั้น แม้ AI จะฉลาดแค่ไหน มันก็จะถูกกรอบ bias
ของผู้ใช้งานตีไว้ ในการหาคำตอบนั่นเอง
หรือ หมายความได้มากกว่านั้น คนถามสิบคน
ก็จะได้คำตอบที่อาจแตกต่างกันนั่นเอง
นอกจากคำถาม ที่มีคำตอบเชิงประจักษ์ชัดเจนแล้ว
AI มีแนวโน้มสูงมาก ที่จะบิดเบือนคำตอบ
หรือหาชุดข้อมูลที่ตรงใจคนถามมาเอาใจ
การให้ AI มาวิเคราะห์อะไรที่คลุมเครือ
หรือการถามนำ AI มันจึงได้คำตอบที่ไม่น่าเชื่อถือนัก
…อย่างที่บอกครับ AI จะวิเคราะห์จากบริบทของประโยค
ที่เราถาม และวิเคราะห์จากข้อมูลการใช้งานของเรา
เพื่อประเมิน bias ก่อนตอบออกมา ซึ่งสิ่งนี้สร้างปัญหา
เอามากๆ และผู้พัฒนาทุกเจ้า ก็กำลังแก้ปัญหานี้กันอยู่
เพื่อความเป็นกลางและน่าเชื่อถือของข้อมูล …..
ยกตัวอย่างแรกตามรูปล่างครับ
อันนี้ชัดเจนมากว่า AI พยายามเอาใจผม ซึ่งเป็นกองเชียร์เชลซี
มันเลือกบทวิเคราะห์จากเว็บไซด์ ที่ให้เปอร์เซ็นต์เชลซีชนะ
มากที่สุดมาตอบผม ซึ่งเปอร์เซ็นต์มันสูงกว่าค่าเฉลี่ย
เมื่อเราดูจากเว็บอื่นประกอบ ที่ให้โอกาสชนะของเชลซี
ราวๆ 10-15% เท่านั้น
…ถ้าถามว่า AI รู้ได้อย่างไรว่าผมเชียร์เชลซี…
…ก็ตอบได้ว่า เพราะการใช้งาน AI ใดๆ คือเราต้องล็อกอิน
ด้วย account อยู่แล้ว ดังนั้น AI จะรู้ ว่าเราสนใจอะไร อย่างไร
จากการประเมินการใช้งานของเรานั่นเอง…
…สิ่งนี้แหละ ที่ AI จับ bias ของเราได้ จนข้อมูลมันไม่น่าเชื่อถือ
หรือถูกต้องไปทั้งหมด …
จุดอ่อนด้านการมองบริบทโดยรวม คือปัญหามากๆของ AI
อย่างรูปหัวโพสต์นี่ถือว่าชัดเจนมาก ถึงการตอบแบบ
ไม่ดูบริบททางโครงสร้าง และการทำจริงๆ
เพื่อเอาใจคนถามเป็นหลัก
หากถามอะไรที่ลึกกว่านั้นใช้เชิงเทคนิค ก็จะยิ่งมีปัญหา
หากไม่อธิบายตัวแปรต่างๆทุกอย่างให้ชัดเจนและละเอียด
อย่างรูปด้านล่างนี้ ผู้เขียนลองถามโง่ๆ ถึงการเลือกใช้
เสาเหล็กH beam ในการต่อเติมระเบียงดู
ว่าควรมีขนาดเท่าไหร่ ก็ได้คำตอบมา ตามรูปนี้
ถามว่า มันตอบถูกต้องและคำนวณถูกหรือไม่
ก็ต้องบอกว่าใช่
แต่เนื่องจากเราถามแบบโง่ๆ ไม่บอกถึงลักษณะการกระจาย
แรงของพื้น และลักษณะของคานหลัก คานซอย
การคำนวณในลักษณะนี้ จึงเป็นในลักษณะของการเอาใหญ่
เข้าว่า เพื่อรองรับ Slab เสียมากกว่า
ซึ่งในทางปฏิบัติจริง เราคงไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ
อันนี้ คือผู้เขียนจงใจถามแบบโง่ๆ เพื่อดูคำตอบ
ซึ่งก็พบความจริงแหละ ว่า AI นั้นจะฉลาด
ก็ต่อเมื่อตั้งคำถามกับมันอย่างถูกต้อง มีรายละเอียดพอเท่านั้น
…การใช้คำถามโง่ๆกับ AI คุณก็จะได้คำตอบ โง่ๆ….
…และถ้าคุณเชื่อมัน เพียงเพราะคำตอบนั่นน่าพอใจสำหรับคุณ.
…มันก็จะกลายเป็นทำให้คุณโคตรโง่เลยล่ะนะ….
มีผู้เชี่ยวชาญเคยเปรียบเทียบว่า AI. นั้นมีลักษณะ
คล้ายกับ “อัจฉริยะออทิสติก”
ซึ่งผมเห็นด้วยนะ
คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ AI มีแนวโน้มที่จะหมกมุ่น
กับคำถาม และจุดประสงค์เฉพาะเรื่อง เพื่อตอบสนอง
bias ของผู้ถาม เพื่อผลทางการตลาด
ตามวัตถุประสงค์ที่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการตลาด
ดังนั้น การถาม AI จึงสำคัญมาก
การใช้ AI ในการหาข้อมูล จึงต้องมีคำถามที่ชัดเจนอย่างมาก
และไม่คลุมเครือจนเกินไป
การถามลักษณะเหวี่ยงแห มักให้คำตอบที่ดีกว่า
การถามแบบเฉพาะเจาะจง
หมายถึงว่า คุณจะถามมันรอบเดียวจบไม่ได้
แต่ต้องให้มันตอบกว้างๆก่อน แล้วคุณค่อยตีวง
ให้เฉพาะเลยจากคำตอบแรกของ AI เอง
เพื่อให้ได้ข้อมูล ที่ต้องการอย่างถูกต้องที่สุด
AI จะฉลาด ก็ต่อเมื่ออยู่กับ user ที่ฉลาด ถามเป็นเท่านั้น
AI อาจถูกมองว่าง่าย ใครๆก็ใช้ได้
ซึ่งความคิดแบบนี้ผิดมากๆ
ปัจจุบัน ตามองค์กรต่างๆเริ่มมีการระบุคุณสมบัติ
ในการเลือกบุคคลเข้าทำงาน ด้วยคำว่า
“มีความสามารถด้าน AI” เข้าไปกันแทบทั้งนั้น
กับบางคน อาจงง ว่ามันคืออะไร เนื่องจากมองว่า
ใครๆก็เข้าถึง และใช้งานมันได้ง่ายๆ
แต่ในความเป็นจริง คุณสมบัติบุคคลที่มีความสามารถ
ด้าน AI ที่องค์กรต้องการ
หมายถึงการตั้งคำถามกับมัน
รวมถึงการเขียน prompt ในระดับที่ดีพอ
ที่จะได้ขัอมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ต่างหาก
ไม่ใช่แค่เข้าไปถามแบบชุ่ยๆ โง่ๆเป็น แบบนั้นลิงก็ทำได้
ซึ่งในปัจจุบัน คนที่ใช้ AI ได้ในระดับนั้น ยังมีไม่มากนัก
โดยเฉพาะในไทย ซึ่งมีปัญหาด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งจะให้
คำตอบที่ถูกต้องที่สุดได้
มันจึงกลายเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ต้องระบุ ด้วยเหตุนี้เอง
ผู้เขียนใช้ AI ช่วยในการทำงานมากพอสมควรในปัจจุบัน
ในงานออกแบบ ผมใช้ AI เฉพาะทาง อย่าง midjourney ,
stable diffusion และ เฉพาะกว่านั้นอย่าง Maket AI
ในการทำงานมานานแล้ว
รวมถึง AI ที่ซ่อนอยู่ในโปรแกรมทำงานต่างๆ
AI เฉพาะทางเหล่านี้ ให้ผลที่ดีและน่าเชื่อถือกว่า
AI บ้านๆ ที่เป็น chat bots มาก
ส่วนตัว คิดว่าพอจะมีความรู้ด้านนี้ในระดับหนึ่ง
จากการทำงานกับมันมานาน
ทำให้พอสรุปได้ว่า กับ chat bots มันสำคัญมาก
ที่จะตั้งคำถามกับมันให้ถูกต้อง
และถ้าจะให้ถูกต้อง เจาะจงทางเทคนิค คุณต้องใช้
AI ที่ทำเฉพาะทางเท่านั้น จึงจะได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด
ดังนั้น AI chat bots จึงไม่ใช่แก้วสารพัดนึก
ไม่ใช่พหูสูต ที่จะรู้ และตอบทุกสิ่งอย่างได้ถูกต้อง
ในทางเทคนิคของมันแล้ว AI จะประเมินคำถาม bias
และเลือกข้อมูลจากโลกไซเบอร์ทั้งหมด โดยเลือกคำตอบ
ที่มันคิดว่าคนถามจะพอใจมาตอบ
เปรียบก็เหมือนเราค้นกูเกิลมาตอบใครสักคนนั่นแหละ
เราย่อมต้องเลือกเว็บอ้างอิง ที่จะสนับสนุนความคิดของเรา
ซึ่งแน่นอน ว่าความคิดเหล่านี้อาจไม่ถูกต้องก็ได้
การใช้ AI จึงมีข้อควรระวัง และไม่ใช่ว่าเชื่อถือได้ทั้งหมด
การยึดติดกับข้อมูลจาก AI มีโอกาสสูงมากที่จะผิดพลาด
โดยเฉพาะว่า คุณตั้งคำถามมันไม่เป็น ไม่ตรงประเด็น
คำถามต่อ AI จึงบ่งบอกทิศทางของข้อมูลแต่แรก
คำถามโง่ๆ มากับคำตอบโง่ๆ เปี่ยมอคติเสมอ
…มันจะเป็นลักษณะนั้น…
ที่สำคัญ นอกจากเชื่อถือไม่ได้แล้ว…
…การใช้ AI ในการสนทนากับผู้คนบนโลกออนไลน์
ยังเป็นสิ่งที่ถือว่า ไร้มารยาทอย่างมาก…
เข่น การตอบบทความใน BD นี้ก็เหมือนกัน มันไม่ควรทำ
ทุกโพสต์ ทุกบทความในนี้ เหล่า blockers ทั้งหลาย
เขาหาข้อมูลมา ก่อนจะแปรเปลี่ยนมันเป็นบทความตามสไตล์
ของตัวเอง แล้วนั่งพิมพ์นั่งเขียนกันออกมาให้เราได้อ่านกัน
ไม่ว่าคนอ่านจะเห็นด้วยไหมกับบทความของใคร
มันควรรึเปล่าล่ะ ที่จะไปก็อปข้อความ AI มาทั้งก้อนแบบโง่ๆ และไม่ลงทุนเพื่อสนับสนุนความคิดของตัวเอง ?
…ไม่รู้นะ ผมว่าแบบนี้ มันโคตรมารยาททรามเลยล่ะ ….
…จะเถียงกับใครเขา ก็เอาสิ่งที่มีในหัวเถอะครับ…
…หรือถ้าในหัวมันไม่มีอะไรเลย ก็ไม่ต้องพูดดีกว่าไหม ?….
Social media มีเพื่อให้คนคุยกันครับ
การยืนยันข้อมูลนั้นไม่ผิดหรอก
แต่จะอย่างไร มันต้องเป็นคำตอบจากคนก่อนในเบื้องต้น
แล้วถ้าจะหาข้อสรุปจากเรื่องที่สนทนา ค่อยมาว่ากัน
จะแปะลิงก์หรืออะไรก็ได้
แต่อย่าใช้วิธีครอป AI มาตอบ มันแย่ และไร้มารยาทมาก
…บอกอีกทีนะครับ ถ้าในหัวมันไม่มีอะไร ก็หุบปากซะเถอะ…
…ไม่ต้องเอาความ กลวง โง่ แบบนั้นมาอวดออนไลน์หรอก….
หมายเหตุ : การใช้ AI ทำงานทางเทคนิค เป็นเรื่องที่ทำได้
แต่ต้องด้วย AI เฉพาะทางเท่านั้น เช่น การใช้วิเคราะห์โครงสร้างของอาคารและการออกแบบ ก็ต้องใช้ AI เฉพาะ
ทางของมันเท่านั้น ซึ่ง AI พวกนี้ มักซ่อนอยู่ในโปรแกรมทำงาน
เฉพาะด้านเช่นกัน การใช้ chat bot กับงานลักษณะนี้
ถือว่าใช้ไม่ได้ และอาจมีอันตรายนะครับ….
งานนี้ผมใช้ AI เจนมา ก่อนมาประบขนาด วัสดุ ให้เหมาะสมกับบ้านเราแล้วขึ้นเป็น floor plan และโมเดล จนนำไปสร้างจริงได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
