เลือกตั้งสิงคโปร์วัดฝีมือ ‘ลอว์เรนซ์ หว่อง’ ผู้นำรุ่น 4
การเลือกตั้งทั่วไปของสิงคโปร์ในวันนี่ (3 พ.ค.) แม้คาดว่า พรรคกิจประชาชนจะกวาดที่นั่ง 80%-90% เหมือนเคย แต่นี่เป็นการนำทัพครั้งแรกของ “ลอว์เรนซ์ หว่อง” ผู้นำรุ่นที่ 4 จะสร้างผลงานได้ดีแค่ไหน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน พรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ปกครองสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 1959 ก่อนได้รับเอกราช ดูแลการเปลี่ยนผ่านจากประเทศเล็กๆ แค่เมืองเดียวมาเป็นศูนย์กลางการเงินประชากร 6 ล้านคน ด้วยการลงทุนจากต่างชาติ การบริหารบ้านเมืองอย่างมีธรรมาภิบาล และภาคบริการที่มีประสิทธิภาพ จนเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันต้องอิจฉา
การที่พรรคพีเอพีอยู่ในอำนาจได้อย่างยาวนานมาจากความมั่นคงและต่อเนื่อง โหวตเตอร์ยึดมั่นกับพรรคที่พวกเขารู้จักดี เมินพรรคฝ่ายค้านเงินทุนน้อยที่ถึงขณะนี้ยังคงมีไม่กี่คน
“พรรคฝ่ายค้านอ้างว่าแข่งขันไม่เป็นธรรมเพราะทรัพยากรน้อยกว่ามาก เข้าถึงสื่อได้น้อยกว่า และไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากรากหญ้ามากพอ ความเสียเปรียบจริงๆ แล้วอยู่ที่จิตวิทยาของโหวตเตอร์มากกว่า หลายคนยังไม่กล้าเลือกฝ่ายค้านเพราะมองว่า พีเอพีเป็นพรรคที่มั่นคงและประสบความสำเร็จ ต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้นี้” ไซนัล ซาปารี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพีเอพีกล่าว
การเลือกตั้งรอบนี้คาดว่า พรรคพีเอพีภายใต้การนำของนายกฯ หว่องจะอยู่ในอำนาจต่อไป แม้ประชาชนจะไม่พอใจกับการบริหารงานเพิ่มมากขึ้น แตกต่างจากประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ที่พรรครัฐบาลมักร่วงจากอำนาจหลังโควิดระบาดแล้วเงินเฟ้อและค่าครองชีพพุ่งสูง เช่น แนวร่วมพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่นไม่ได้เสียงข้างมากเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีในการเลือกตั้งปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีเพียงพรรคโคโลราโดของปารากวัยที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 1947 พรรคเดียวเท่านั้น ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยยาวนานกว่าพีเอพี
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้พีเอพีเป็นรัฐบาลมาได้อย่างต่อเนื่องคือการตอบสนองข้อกังวลเรื่องคนย้ายถิ่น การคมนาคม ราคาบ้าน และฟองสบู่อุปทาน พร้อมๆ กับการแจกเงินช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบากเพื่อป้องกันไม่ให้ความไม่พอใจลุกลามบานปลาย
ย้อนกลับไปที่การเลือกตั้งปี 2011 พรรคพีเอพีทำผลงานต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อประชาชนไม่พอใจเรื่องราคาบ้าน คนย้ายถิ่น และรถไฟแออัด พรรคได้คะแนนเสียง 60.1% หากเทียบกับประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ นี่ถือว่าแลนด์สไลด์ แต่สำหรับพีเอพีนี่คือสัญญาณเตือน
ลี เซียนหลุง นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องออกมาขอโทษขอโพย แล้วควบคุมราคาบ้าน การอพยพเข้าเมือง และเพิ่มสายรถไฟ
การเลือกตั้งครั้งนี้ราคาบ้านและค่าครองชีพในสิงคโปร์ที่สูงสุดในโลกประเทศหนึ่ง กำลังกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในช่วงที่แนวโน้มเศรษฐกิจเสื่อมถอยจากภาษีของสหรัฐ รัฐบาลสิงคโปร์เตือนถึงความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะถดถอย
อย่างไรก็ตาม หลายคนโต้แย้งกว่าความเหนือกว่าของพรรคพีเอพีมาจากระบบการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้พรรค เขตเลือกตั้งหลายเขตมี ส.ส.มากถึงห้าคน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านหาคนมาลงได้ยาก เงินค่าสมัครสูงลิ่ว 13,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 348,300 บาท) ก็เป็นอุปสรรคเช่นกัน
นักรัฐศาสตร์นาม “จง จา เอียน” มองว่า พรรคพีเอพีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับองค์กรของรัฐแล้วหาผู้สมัครจากองค์กรเหล่านั้น ซึ่งฝ่ายค้านทำแบบนี้ไม่ได้
“มีการบริหารจัดการสื่ออย่างมากด้วย นักวิจารณ์กล่าวว่า การเป็นพรรคใหญ่พรรคเดียวของพีเอพีทำให้ออกกฎหมายและกำหนดกติกาเลือกตั้ง เช่น กำหนดเขตเลือกตั้งให้พรรคได้เปรียบ”
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งกล่าวว่า แม้แทบไม่มีโอกาสที่พรรคพีเอพีจะพ่ายแพ้ แต่จำนวนที่นั่งที่พรรคฝ่ายค้านได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีแนวโน้มเป็นตัวเปลี่ยนพลวัตการเมืองสิงคโปร์ในไม่กี่ปีข้างหน้า เปิดโอกาสให้มีพรรคการเมืองหลากหลายมากขึ้น
การที่พรรคฝ่ายค้านได้ที่นั่งมากขึ้นในช่วงหลังๆ แม้ไม่กี่คนแต่ถูกตีความอย่างกว้างขวางว่า เป็นสัญญาณความไม่พอใจต่อการผูกขาดอำนาจของพีเอพี และสะท้อนถึงความไม่พอใจของชาวสิงคโปร์จำนวนหนึ่งโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวผู้ต้องการการเมืองหลากหลายมากขึ้น มีทางเลือก และมีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้นกว่าเดิม
“ถ้าอะไรๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง ห้าปีหมดเทอมแล้วค่าครองชีพและราคาบ้านยังสูง ผมคิดว่าประชาชนจะไม่เชื่อมั่นและอาจหาทางเลือกอื่นๆ” อินทรจิต ซิงห์ อดีต ส.ส.พีเอพีกล่าว
📌 รู้จักการเลือกตั้งสิงคโปร์ผ่านตัวเลข
-จัดการเลือกตั้งทุกๆ 5 ปี
-ยุบสภาวันที่ 15 เม.ย. เลือกตั้ง 3 พ.ค. มีเวลาหาเสียงแค่ 9 วัน
-จำนวนประชากร 6 ล้านคน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2.76 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 49,000 คน จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2023
-เลือกตั้ง ส.ส.97 คน ผู้สมัคร 211 คน จาก 11 พรรคการเมือง
-ผู้สมัคร 46% มาจากพรรคพีเอพี เป็นพรรคเดียวที่ส่งครบทุกเขตชิง 97 ที่นั่ง
-พีเอพีได้ ส.ส.แล้ว 5 คนเนื่องจากไม่มีใครลงแข่ง เป็นปรากฏการณ์แรกในรอบ 14 ปี
-พรรคแรงงาน ฝ่ายค้านใหญ่ ส่งผู้สมัครเพียงหนึ่งในสี่ ลงชิง 26 ที่นั่ง
-มีเพียง 6 พรรคเท่านั้นที่ส่งผู้สมัครเกิน 10 คน
-เขตเลือกตั้ง 33 เขต ในจำนวนนี้ 15 เขตเป็นแบบเขตเดียวคนเดียว 17 เขตเป็นแบบเขตเดียวหลายคน มีเพียง 5 เขตเท่านั้นที่แข่งกันเกินสองพรรค
-พรรคพีเอพีชนะเลือกตั้งทั่วไปมาแล้ว 13 ครั้งรวด นับตั้งแต่สิงคโปร์เป็นรัฐเอกราชในปี 1965
-การเลือกตั้งในสิงคโปร์ถือเป็นหน้าที่ อัตราผู้ออกไปใช้สิทธิเฉลี่ย 94.2% ตั้งแต่ปี 2001
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
