3 พ.ค. เวลา 08:52 • หนังสือ

แบบจำลองมาตรฐานของอนุภาคพื้นฐานและปฏิสัมพันธ์ทฤษฎีควอนตัม

“แบบจำลองมาตรฐาน”
อธิบายทฤษฎี
ควอนตัม
รวมถึงทฤษฎีปฏิสัมพันธ์
ที่แข็งแกร่ง
(โครโมไดนามิกส์เชิงควอนตัมหรือ QCD)
และทฤษฎีรวมของปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอ
และแม่เหล็กไฟฟ้า
(อิเล็กโทรวีค) แรงโน้มถ่วงรวมอยู่ในแผนภูมินี้
เนื่องจากเป็นปฏิสัมพันธ์พื้นฐานอย่างหนึ่ง
แม้ว่าจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของ “แบบจำลองมาตรฐาน” ก็ตาม
#Naruepon Pengon Translate and compile
ปฏิสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่เหลืออยู่
เฟอร์มิออน
(อนุภาคมูลฐานที่เกิดจาก
โปรตอน นิวตรอน)
มีทั้งหมด 24 ตัวได้แก่
ควาร์ก 6 ตัว
และเลปตอน 6 ตัว
รวมกับปฏิยานุภาค ควาร์ก 6 ตัว
และปฏิยานุภาค เลปตอน 6 ตัว
รวมเป็น 24 ตัว
#Naruepon Pengon Translate and compile
เฟอร์มิออน เลขสปินควอนตัมเป็นจำนวนเต็มคี่แบ่งครึ่ง มีทั้งหมด 24 ตัวแบ่งเป็น ควาร์ก 6 ตัวและเลปตอน 6 ตัว รวมกับปฏิยานุภาคของมันเป็น 24 ตัว
กับการจับกันอย่างแน่นหนาของโปรตอน
และนิวตรอนที่เป็นกลางสีสมมติ
เพื่อสร้างนิวเคลียส
เกิดจากปฏิสัมพันธ์
ที่รุนแรงระหว่างองค์ประกอบ
ที่มีประจุสี
ซึ่งคล้ายกับปฏิสัมพันธ์ทางไฟฟ้าที่เหลือ
ซึ่งจับอะตอมที่เป็นกลางทางไฟฟ้า
เพื่อสร้างโมเลกุล อนุมานว่าเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่าง
มีซอนกับฮาดรอน
โบซอนสองตัวเกิดจากโปรตอนสองตัวที่ชนกัน โบซอนมีสปินเป็นจำนวนเต็ม
โบซอนเกจ
ทำหน้าที่เป็น
"พาหะ" ของแรงพื้นฐาน
ได้แก่
แม่เหล็กไฟฟ้า
แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม
และแรงนิวเคลียร์แบบอ่อน
ยกเว้นแรงโน้มถ่วง
#Naruepon Pengon Translate and compile
ดังนั้น เฟอร์มิออน
ทั้ง 24
ตัวมีปฏิกิริยากันและกัน
ผ่านการแลกเปลี่ยนโบซอนเกจ
#Naruepon Pengon Translate and compile
โบซอนฮิกส์
Higgs boson
กระตุ้นควอนตัมของ สนามฮิกส์
ทำให้อนุภาคมูลฐานบางตัวที่สมมาตรมีมวล
ตามสมการอนุภาคมูลฐานบางตัวที่สมมาตร
ควรจะไม่มีมวล
เช่น โฟตอน
มีการแลกเปลี่ยนโฟตอน
ในแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
ระหว่างอนุภาคที่มีประจุ 2 ตัว
โฟตอนมีความเร็วแสง จึงไม่มีมวล
และกลูออน 
อนุภาคมูลฐานแลกเปลี่ยน
(หรือเกจโบซอน)
ของอันตรกิริยาอย่างเข้ม
ระหว่างควาร์ก
ก็ไม่มีมวล
#Naruepon Pengon Translate and compile
สมมติฐาน
จากการทดลองการชนระหว่างอนุภาคโปรตอนสองตัว ในเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่ของเซิร์น
อาจทำให้เกิดสัญญาณ
การมีตัวตนของอนุภาคฮิกส์
เมื่อค้นพบอนุภาคใหม่ที่มีมวลระหว่าง 125 ถึง 127 GeV/c2;
#Naruepon Pengon Translate and compile
นักฟิสิกส์สงสัยว่ามันเป็นฮิกส์โบซอน
อนุภาคที่แสดงออกที่จะประพฤติ,
โต้ตอบ,
และสลายตัว
เป็น parity
เป็น even และมีสปินเป็นศูนย์
อนุภาคฮิกส์เป็น โบซอน ที่ไม่มีสปิน, ไม่มีประจุไฟฟ้าหรือประจุสี นอกจากนี้มันยังไม่เสถียรอย่างมาก การสลายตัวไปเป็นอนุภาคอื่น ๆ เกือบจะเกิดขึ้นได้ในทันที
#Naruepon Pengon Translate and compile
การค้นพบควาร์กท็อป
และการชาร์จสี
แต่ละควาร์ก
จะมีประจุ
"แรง"
หนึ่งในสามประเภท
ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "ประจุสี"
ประจุเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสีของแสง
ที่มองเห็นได้
กลูออนมีประจุสีได้แปดประเภท
แปดทิศโบราณของจีน
เช่นเดียวกับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า
ที่โต้ตอบกันโดยการแลกเปลี่ยนโฟตอน
อนุภาคที่มีประจุสีที่
โต้ตอบกันอย่างรุนแรง
ก็จะแลกเปลี่ยนกลูออน
เลปตอน
โฟตอน
โบซอน
W
และ Z
ไม่มีประจุสี
ดังนั้นจึงไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่รุนแรง
ไม่สามารถแยกควาร์กและกลูออนออกจากกันได้ เนื่องจากถูกจำกัดไว้ในแฮดรอน
ที่เป็นกลางของสี การจำกัดนี้
(การจับ)
เกิดจากการแลกเปลี่ยนกลูออนหลายครั้ง
ระหว่างวัตถุที่มีประจุสี
การกักขัง
เมื่ออนุภาคที่มีประจุสี
(ควาร์กและกลูออน)
แยกออกจากกัน
แรงสีระหว่างอนุภาคทั้งสอง
จะเข้าใกล้ค่าคงที่
และพลังงานในสนามแรงสี
จะเพิ่มขึ้น
ในที่สุดพลังงานจะถูกแปลง
เป็นคู่ควาร์ก-แอนตี้ควาร์ก 
เพิ่มเติม
วัตถุที่ปรากฏออกมาในที่สุดคือกลุ่มของอนุภาคที่มีสีเป็นกลาง
เรียกว่า
แฮดรอน 
(มีซอนและแบริออน)
#Naruepon Pengon Translate and compile
การแสดงเหตุการณ์ที่เป็นตัวเลือกสำหรับการผลิตบอซอน W+ สองตัวผ่านการกระเจิงของบอซอนเวกเตอร์ ตามด้วยการสลายตัวเป็นมิวออนสองตัวและนิวตริโนมิวออนสองตัว มิวออนแสดงด้วยเส้นสีแดงในเครื่องตรวจจับด้านในและเครื่องสเปกโตรมิเตอร์มิวออน และเจ็ตทั้งสองแสดงด้วยกรวยสีเหลือง ทิศทางของพลังงานตามขวางที่ขาดหายไปที่เกี่ยวข้องกับนิวตริโนสองตัวแสดงด้วยเส้นประสีเทา (เครดิต: ATLAS/CERN)
#Naruepon Pengon Translate and compile
ที่มาภาพ ATLAS/CERN
ฟิสิกส์อนุภาค ปฏิสัมพันธ์
แม่เหล็กไฟฟ้าและปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอ
เป็นสองด้านของเหรียญอันเดียวกัน คล้ายอี้จิ้ง
ทั้งสอง
รวมกันเป็นปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าอ่อน
เชื่อกันว่าปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าอ่อนเกิดขึ้นทันทีหลังจากจุดเริ่มต้นบิ๊กแบง
เมื่อจุดกำเนิดจักรวาลร้อนจัด
แต่สมมาตรระหว่างปฏิสัมพันธ์ทั้งสอง (อี้จิ้ง)
ถูกทำลายลงด้วยเหตุผลบางประการ
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
เนื่องจากตัวพาของปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอ
ซึ่งก็คือ
มวลโบซอน W
และ มวลโบซอน Z
ถูกสังเกตพบว่ามีมวลมาก เมื่อเทียบกับโฟตอน
ในขณะที่โฟตอน ไม่มีมวล
แต่มีความเร็วเท่าแสง
โฟตอนเป็นตัวกลางของปฏิสัมพันธ์แม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่มีมวล
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
การทำลายสมมาตรนี้เกิดขึ้นได้ในแบบจำลองมาตรฐานผ่านกลไก
ของบรูต-เองเลิร์ต-ฮิกส์ (BEH) การค้นพบโบซอนฮิกส์
ถือเป็นการยืนยันกลไกนี้ในเชิงทดลองครั้งแรก ขั้นตอนต่อไป
ในปี ค.ศ. 2030
คือการวัดคุณสมบัติของอนุภาคใหม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
อนุภาคใหม่
มีปฏิสัมพันธ์กับอนุภาคพื้นฐานอื่นๆ มากเพียงใด
ปัจจุบัน
การวัดเหล่านี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยืนยันว่ามวลของอนุภาคพื้นฐานนั้นเป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์กับสนาม BEH เช่นกัน
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
อนุภาค W โบซอนมีมวล
อนุภาค Z โบซอนมีมวล
อนุภาค W มีมวลและ Z โบซอน
ก็มีมวล
ประกอบกัน
เกิดเป็นสสาร
ในหลายรูปแบบ ทั้งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น
#Naruepon Pengon Translate and compile
อนุภาค โพลาไรเซชันหมายถึง
ทิศทางที่สปิน
ของอนุภาคถูกวางในอวกาศ
(เต๋า = วิถีทาง)
อนุภาคที่มีโพลาไรเซชันตามยาวจะมีสปินตั้งฉากกับทิศทางของโมเมนตัม
ซึ่งเป็นไปได้เฉพาะกับอนุภาค
ที่มีมวลเท่านั้น
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
การมีอยู่ของโบซอน W
และโบซอน Z
ที่มีโพลาไรเซชันตามยาว
(แทนค่าด้วย
W L
และ Z L )
เป็นผลโดยตรงจากกลไก BEH และวิธีที่สถานะเหล่านี้โต้ตอบกันจึงเป็นการทดสอบที่ละเอียดอ่อนมากว่าสมมาตรไฟฟ้าอ่อน
ถูกทำลายอย่างไร
การศึกษาปฏิสัมพันธ์นี้ควรช่วยให้นักฟิสิกส์บอกได้ว่า
การทำลายสมมาตรเกิดขึ้นผ่านกลไก BEH ขั้นต่ำหรือไม่
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
ทฤษฎีอิเล็กโตรวีค (electroweak) อนุภาคฮิกส์เป็นตัวผลิตมวลให้กับอนุภาคเลปตอน (อิเล็กตรอน
มิวออน
เทา)
และควาร์ก
ปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอเกิดจากโฟตอนที่มีมวลมาก ได้แก่ โบซอน W ที่มีประจุและโบซอน Z ที่เป็นกลาง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีความเกี่ยวพันอย่างแยกไม่ออกกับโฟตอนของแม่เหล็กไฟฟ้า โบซอน W ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนแอซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดเรียงประจุไฟฟ้าใหม่ ในขณะที่โบซอน Z เป็นวิธีที่อนุภาคที่ไม่มีประจุโต้ตอบกันผ่านแรงอ่อน
#Naruepon Pengon Translate and compile
ที่มา cern
ปฏิสัมพันธ์
W L -W L
สามารถตรวจสอบได้โดยการทดลองในการชนกันของโปรตอน-โปรตอนโดยศึกษาขั้นตอนที่เรียกว่าการกระเจิงของเวกเตอร์
-โบซอน (VBS)
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
กระบวนการ VBS หรือการกระเจิงของเวกเตอร์
-โบซอน (VBS)
สามารถมองเห็นได้เป็นควาร์กในโปรตอนขาเข้าแต่ละตัว
ที่ปล่อยโบซอน W และโบซอน W สองตัว
ที่โต้ตอบกันเอง ทำให้เกิดโบซอน W หรือ Z หนึ่งคู่
สามารถระบุ VBS ได้โดยมองหาการชนกันที่มีผลิตภัณฑ์สลายตัว
ของโบซอนสองตัวร่วมกับควาร์กสองตัวที่เข้าร่วมในการโต้ตอบ
ซึ่งสร้าง
เจ็ตอนุภาคสองลำที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกัน
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
สปินคือ โมเมนตัมเชิงมุม ที่แท้จริงของอนุภาค
สปินมีหน่วยเป็น h-bar
ซึ่งเป็นหน่วยควอนตัมของโมเมนตัมเชิงมุม
โดยที่ hbar=h/2pi = 6.58*10^-25 GeV s = 1.05*10^-34 J s
ประจุไฟฟ้ามีหน่วยเป็นประจุของโปรตอน
ในหน่วย SI ประจุไฟฟ้าของโปรตอนคือ 1.60 * 10^-19 คูลอมบ์
#Naruepon Pengon Translate and compile
หน่วยพลังงานของฟิสิกส์อนุภาคคืออิเล็กตรอนโวลต์ (eV)
ซึ่งเป็นพลังงานที่อิเล็กตรอนหนึ่งตัวได้รับเมื่อเคลื่อนที่ผ่านความต่างศักย์ไฟฟ้าหนึ่งโวลต์มวลมีหน่วยเป็น GeV/c^2 ( จำ E = mc^2ไว้) โดยที่ 1 GeV = 10^9 eV = 1.60 * 10^-10 จูล
มวลของโปรตอนคือ 0.938 GeV/c^2 = 1.67*10^-27 กก.
#Naruepon Pengon Translate and compile
สมบัติของการโต้ตอบ
กลูออน ไม่มีมวล
สสารและปฏิสสาร
สำหรับอนุภาคแต่ละประเภทจะมีแอนติอนุภาคประเภท
ที่สอดคล้องกัน
โดยแสดงด้วยแถบเหนือสัญลักษณ์ของอนุภาค
อนุภาค
และแอนติอนุภาคมีมวล
และสปินเท่ากัน แต่มีประจุตรงข้ามกัน
โบซอนที่เป็นกลางทางไฟฟ้าบางชนิด (เช่น Z0,
แกมมา
และ eta_c = c cbar
แต่ไม่ใช่ K0 = ds) เป็นแอนติอนุภาคของตัวเอง
#Naruepon Pengon Translate and compile
ที่มาของไดอะแกรมเป็นแนวคิดของศิลปินเกี่ยวกับกระบวนการทางกายภาพ ไดอะแกรมเหล่านี้ไม่ชัดเจนและไม่มีมาตราส่วนที่มีความหมาย พื้นที่แรเงาสีเขียวแสดงถึงกลุ่มของกลูออนหรือสนามกลูออน เส้นสีแดงแสดงถึงเส้นทางของควาร์ก และเส้นสีดำแสดงถึงเส้นทางของเลปตอน
นิวตรอนสลายตัวเป็นโปรตอน อิเล็กตรอน
และแอนตินิวตรอน
ผ่านโบซอน W เสมือน
(ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย)
นี่คือการสลายตัวของนิวตรอนแบบบีตา
การชนกัน
ซึ่งโบซอน W
ทั้งสองสลายตัวเป็นอิเล็กตรอน
หรือมิวออน
และนิวตริโนตามลำดับ คล้ายคัมภีร์เต๋าเต๋อจิง บทที่ 42 เต๋าให้กำเนิดหนึ่ง,สอง,สาม
และสรรพสิ่ง
เพื่อระงับพื้นหลัง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตคู่ควาร์กท็อป เลปตอนทั้งสอง
จะต้องมีประจุไฟฟ้าเท่ากัน
(อี้จิ้ง)
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
LHC หรือเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่
Large Hadron Collider ทดลองพบว่า ควาร์กบน ซึ่งเป็นอนุภาคพื้นฐานที่มีน้ำหนักมากที่สุดและมีอายุสั้นที่สุด สามารถจับคู่กับแอนตี้แมตเตอร์ ในชั่วขณะหนึ่ง เพื่อสร้างวัตถุที่เรียกว่าโทโพเนียม
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
จากการชนกันของโปรตอนที่มีพลังงานสูงที่ LHC มักจะสร้างคู่ควาร์ก-แอนติควาร์กด้านบน (tt-bar) ควาร์กท็อปที่มีมวลเอกภพมากที่สุด ซึ่งมีน้ำหนัก 184 เท่าของมวลโปรตอน
ควาร์กท็อป
สลายตัว
เป็นคู่ควาร์กท็อป -แอนตี้ควาร์ก หรือโทโพเนียม
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
ควาร์กที่มีมวลมากสองตัวจะแตกออกเป็น "เจ็ต" ของอนุภาค
ควาร์กโคเนียม ซึ่งเป็นคำเรียกสถานะควาร์กที่ไม่เสถียรและแอนตี้ควาร์กที่เกิดจากการจับคู่ของควาร์กชาร์ม ควาร์กบอตทอม และควาร์กท็อปที่หนักกว่า ชาร์โมเนียม (ชาร์ม–แอนตี้ชาร์ม)
ชาร์โมเนียมและบอตโตเนียมมีขนาดประมาณ 0.6 และ 0.4 เฟมโตเมตร
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
หนึ่งเฟมโตเมตรเท่ากับหนึ่งในล้านของนาโนเมตร เชื่อกันว่าบอตโตเนียมเป็นแฮดรอนที่เล็กที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา เนื่องจากมีมวลมากขึ้น โทโพเนียมจึงคาดว่าจะมีขนาดเล็กกว่ามาก จึงจัดเป็นแฮดรอนที่เล็กที่สุดที่รู้จัก
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
สถานะที่ถูกผูกไว้กับโทโพเนียมนั้นไม่น่าจะถูกตรวจพบในการชนกันของแฮดรอน-แฮดรอน
ควาร์กบนจะสลายตัวเป็นควาร์กล่างและโบซอน W
ในระยะเวลาที่แสงเดินทางเพียง 0.1 เฟมโตเมตร
ซึ่งเล็กกว่าขนาดของอนุภาคเอง
ดังนั้น
โทโพเนียมจึงมีลักษณะเฉพาะตัวในบรรดาควาร์กโคเนีย
เนื่องจากการสลายตัวของโทโพเนียม
จะถูกกระตุ้นโดยการสลายตัวโดยธรรมชาติ
ของควาร์กที่ประกอบเป็นหนึ่งเดียว
แทนที่จะเกิดจากการทำลายล้างซึ่งกัน
และกันขององค์ประกอบสสารและปฏิสสารของมัน
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
ลายเซ็นการทดลอง
จึงเป็นเลปตอนที่มีประจุไฟฟ้าเท่ากันคู่หนึ่ง
(อิเล็กตรอน-อิเล็กตรอน
มิวออน-มิวออน หรืออิเล็กตรอน-มิวออน)
สองอนุภาค "เจ็ต" ที่มีทิศทางตรงข้ามกันที่เกิดจากการสลายตัวของควาร์ก
และชี่,พลังงานที่ขาดหายไปจาก
นิวตริโน
(อนุภาคผี)
ที่ตรวจจับไม่ได้
ที่มาบทความ CERN
#Naruepon Pengon Translate and compile
อธิบายคล้าย
“ไท่จี๋ คือ
หนึ่งเดียว
ก่อนที่จะประกอบด้วยหยินและหยางตามวิถีที่สมดุล
(วิถีสายกลาง,
ค่าเฉลี่ย สามคนเดินมาจักต้องมีหนึ่งคนเป็นครูของเราคำกล่าวของขงจื้อ)
หรือ สาม
เต๋า ให้กำเนิด
หนึ่ง (หยาง)
บวกกับ
สอง (หยิน)
หรือ สาม
[หยินและหยาง
=สาม]
และสามให้กำเนิดสรรพสิ่ง
(ที่มา คัมภีร์
เต๋อเต๋อจิง บทที่ 42)
เต๋า คือ
วิถีทาง,หนทาง
เต๋า มีความหมายใกล้เคียงกับ มรรค
เต๋า มีความหมายใกล้เคียงกับ ธรรม
เพราะ ธรรม เกิดไม่ปรากฏ เป็นนิรันดร์
แต่ประวัติศาสตร์บันทึกว่า คัมภีร์เต๋าเต๋อจิงเล่มแรกเขียนเมื่อ 2,500 ปีก่อน คัดลอกโดยนายด่านหานกู
ก่อนส่งต่อให้จักรพรรดิ์ราชวงศ์โจว
บันทึกเต๋าเต๋อจิงเล่มสองแผ่นไม้,ไม้ไผ่
พบในแคว้นฉู่บ้านเกิดเล่าจื้อ 2,300 ปีก่อน
และบันทึกเต๋าเต๋อจิงเล่มสามม้วนไม้ไผ่
พบในราชวงศ์ฮั่น 2,200 ปีก่อน
คัมภีร์ธรรมเล่มแรกของโลก
พบในศรีลังกา และอัฟกานิสถาน เมื่อ กว่า 2 พันปีก่อน
(สมัยพุทธกาลถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
เป็นบทสวดท่องจำ ยังไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร)
การเข้าถึงเต๋า คือ เข้าถึงจิตใจบริสุทธิ์ในตัวเรา คล้ายดั่งจิตบริสุทธิ์ของทารากแรกเกิด ไม่ละโมบ
ไม่โมโห ไม่ลุ่มหลงมายาภาพ
ไท่จี๋ นั้นมีมาก่อน
อู่จี๋
อู่จี๋ คือ ความว่างที่ไร้ขอบเขต
เต๋า คือ ไร้การเกิด
หรือเกิดไม่ปรากฏ
ไร้การการดับ
หรือนิรันดร์
ไท่จี๋ คือ ขอบเขตที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของโลก
นับรวมถึงจุดสิ้นสุดจักรวาล
(คำว่า จักรวาล นี้มีบันทึกในคัมภีร์จวงจื่อ สาวกรุ่นหลานของเล่าจื้อ ผู้ประพันธ์ เต๋าเต๋อจิง 81 บท)
ไท่จี๋ คือ เต๋า”
อู๋จี๋ คือ อี้จิ้ง
ไท่จี๋ตู คือ หยิน,หยาง
อู๋จี๋ คือ การเปลี่ยนแปลง
และอี้จิ้งแปลว่า การเปลื่ยนแปลง
จากว่าง ก็เป็นเต็ม เรียกว่าไท่จี๋ Taiji
หรือความเต็ม ความสมบูรณ์ของหยิน-หยาง Yin-Yang
หรือ เต๋า
ความไม่สมมาตรของอนุภาคมูลฐานของธรรมชาติ
ทำให้เต๋า หรือไท่จี๋เปลื่ยนแปลง
ดังนั้น จึงมีบันทึกไว้ว่า เต๋าคล้อยตามธรรมชาติ
อู๋จี๋ เป็น ไท่จี๋ ไท่จี๋เป็น ไท่จี๋ตู
อู่จี๋ คือ
คือ ความว่างเปล่า
ที่สัญลักษณ์ทั้งหมดปรากฏอยู่
กลไกของทั้งการเคลื่อนไหวและความสงบ
มันตั้งอยู่ก่อนความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวและความสงบ ในกาลอวกาศ
(อี้จิ้ง)
หยินคือสสาร หยางคือชี่
หรือพลังงาน
อู่จี๋ WUJI
คือ ความว่างเปล่าที่ไม่รู้จัก รับรู้ไม่ได้ แต่มีสสารหยินและพลังงานหยาง
อิเล็กตรอนและโพซิตรอน
(แอนตี้อิเล็กตรอน)
ที่ชนกันที่พลังงานสูงสามารถทำลายล้าง
และผลิตมีซอน D+ และ D-
ผ่านทางโบซอน Z เสมือน
หรือโฟตอนเสมือน
ควาร์ก c
และ cbar
ในมีซอน eta_c
จะสลายตัว
เป็นกลูออนเสมือน การผลิตคู่ควาร์กในคลาวด์กลูออน
บางครั้งจะให้ผลลัพธ์เป็น
pi+,
K0
และ K-
เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
โครงการศึกษาฟิสิกส์ร่วมสมัย
แผนภูมิ
จาก
โครงการการศึกษาฟิสิกส์ร่วมสมัยสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่จัดทำขึ้นเพื่อเสริมแผนภูมิ
(หนังสือ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ฟิล์ม CPEP, MS 50-308 Lawrence Berkeley Laboratory, Berkeley, CA 94730)
ขอบคุณข้อมูลจาก 
Peter Berglund
แปลเรียบเรียงและตีความ
โดย #Naruepon Pengon
หมายเหตุ
ไทเก๊ก
คือการผสานแนวคิดของขงจื๊อและเต๋าแบบดั้งเดิมของจีน
การเปลี่ยนแปลง
ธาตุทั้งห้าของอี้จิ้ง
กระบวนท่าเปลื่ยนแปลงไม่สิ้นสุด
เหมือนวัฏจักรของจักรวาล
ประกอบด้วย
แสง,ดิน,น้ำ,ทองและไม้
ก้าวเดินบนดิน
ตามองตามแสง
กระบวนท่าอ่อน,กลาง,แข็ง
ดังไอน้ำ,น่ำ,
น้ำแข็ง
ใช้ทองสยบไม้
ใช้ไม้ฝึกฝนตน
ไม้ลู่ลม
ไม้อ่อนอายุยืน
ไม้แข็งใกล้ตุย
ไท้เก็ก
ใช่ทฤษฎีเส้นลมปราณ
ใน ศาสตร์การแพทย์แผนจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น
และเทคนิคการหายใจ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว “เส้นเอ็นทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของข้อต่อ” และ “หน้าอกและช่องท้องเป็นผนังที่กักเก็บช่องท้อง” นี่หมายถึงโครงสร้างของร่างกายมนุษย์
การถือศีลอด เต๋าอิน และกายเบา
ในตำราการแพทย์ชื่อดัง “ Huangdi Neijing ”
ภาพจากพิพิธภัณฑ์มณฑลหูหนาน สถาบันโบราณวัตถุและโบราณคดีมณฑลหูหนาน: "ราชวงศ์ฮั่นหมายเลข 2 และหมายเลข 3 ในหม่าหวางตุย ฉางซา (รายงานการขุดค้นทางโบราณคดีภาคสนาม เล่มที่ 1)" สำนักพิมพ์โบราณวัตถุ 2547 หน้า 363 87.
#Naruepon Pengon Translate and compile
อ่านบทความเพิ่มเติมความสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน
"ควอนตัม"
คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของพลังงาน
, ชี่
"ควาร์ก" คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของสสาร, ไท่จี๋, อี้จิง
อ่านบทความเพิ่มเติมพลังแข็งแกร่ง ทั้งแปดทิศแทนด้วยกลูออน
เกจโบซอน มีพลังอันแข็งแกร่งเรียกว่ากลูออน เกจโบซอน มีสถานะ
สมมาตรเกจเฉพาะที่
ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชนิด
(ปากั้วแปดทิศ)
มีประจุที่แข็งแกร่ง
ทั้งแบบสีและแบบต้านสี
(ทวิลักษณ์คู่ตรงข้าม หยินหยาง)
#Naruepon Pengon Author and interpreter
อ่านบทความเพิ่มเติม5,000 ปีก่อน
"เซน" คือ อนิจลักษณะ ของอี้จิง กำเนิดห้าธาตุ
หนึ่งในนั้นคือ ธาตุไม้
(ห้าธาตุอี้จิ้ง ดิน น้ำ ไม้ ทอง การสันดาป) ในที่นี้ผู้เขียนขอแทนการสันดาปด้วยแสงสว่าง เพราะมีทั่วเอกภพ
ขณะเดียวกัน
ความเชื่อนอกประเทศจีน นิยม ธาตุสี่ คือ ดิน น้ำ ลม การสันดาป แต่ไม่มีธาตุไม้
ที่ใดในเอกภพ หากขาดขาดไม้แล้ว ย่อมไม่มีชีวิต
อี้จิ้ง ให้กำเนิดห้าธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ทอง แสงสว่าง และไม้ จึงให้กำเนิดชีวิตในเอกภพ หนึ่งเดียวที่คล้อยตามเต๋า คือ โลก
#Naruepon Pengon Author and interpreter
อ่านเพิ่มเติม ดังนั้น คนสามารถให้คุณให้โทษแก่ธาตุทั้งห้า
1. คนจึงสร้างและทำลายธาตุแสงสว่าง เช่น ชาวจีนสร้างพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์เทียม,ทำลายด้วยแสงเลเซอร์, ชาว
2. จีนแปรรูปทอง ใช้ทองเป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, 3. ชาวจีนสมัยราชวงศ์ฉิน กว่า 2,300 ปี สร้างเขื่อนกั้นน้ำ สมัยราชวงศ์ฮั่น 2,200 ปีก่อน แม่ทัพหานซิ่นใช้น้ำจากเขื่อนทำลายทัพของฉ้อปาอ๋อง
4. ชาวจีนตัดไม้ทำเรือค้าขาย
5. ชาวจีนถล่มภูเขาถมทะเล เจาะอุโมงค์ภูเขา สร้าง High-speed rail
#Naruepon Pengon Author
โฆษณา