8 พ.ค. เวลา 13:04 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

"สุสานคนเป็น: ขุมแห่งความรัก"

สรุปแก่นจาก "สุสานคนเป็น"
โดยพินัยกรรมฉบับนี้มีการระบุไว้
สำหรับผู้ที่โดนหนังมาแล้วเท่านั้น
มิเช่นนั้นวิญญาณอาฆาตของคุณนายลั่นทม
จะมาคร่าเอาชีวิตไปอย่างไร้ปราณี!
.
.
.
1. สิ่งที่เคยใช่ วันหนึ่งอาจไม่ใช่ขึ้นมาก็ได้
โดยเฉพาะเรื่องราวหลังแต่งงานที่ไม่ได้สวยเหมือนภาพวิมานแบบเคยเห็นในละคร ชีวิตคู่ของจริงมันเพิ่งเริ่มจากนี้ไป ยังมีอะไรอีกมากที่จะเข้ามาทดสอบหัวใจคนสองคน
2. บางทีความรักก็เหมือนบ่วง "พันธนาการ" อันร้ายกาจ กักขังหน่วงเหนี่ยวอีกฝ่ายไว้ในโอวาท
ท้ายสุดย่อมกดเก็บทรมานใจจะขาด บาดลึกซ่อนอยู่ในห้วงความรู้สึก
3. ของบางอย่าง แม้จะรู้ว่าไม่ดี ชนิดที่หากลอง "จุดไฟ" ถลำลึกสูบความสัมพันธ์
พิสวาทขึ้นมา สักมวน ก็อาจเสพติดในอารมณ์ ปล่อยให้มันแผดเผาเร่าร้อนชิดชมสมวิญญา กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินรับมือ เธอไม่ใช่แค่ผิดที่นอกกายใจ แต่ตลกร้ายที่ไม่เคยพูดความจริงต่อกันตรงๆ กับคนบางคน ให้โอกาสที่เท่าไหร่ก็คงไม่พอเท่าการลาจาก
4. "ภาพวาด" บางครั้งก็มิอาจลบเลือนไปจากหัวใจได้ แม้จะเก็บซ่อนแค่ไหน หรือลั่นวาจาว่าลืมแล้วยังไง อดีตฝังใจและใครบอกคนมันช่างยากที่จะลบและขีดเขียนภาพใหม่ขึ้นมาได้ มันให้พี่วาดมา 7 ปีแล้ว อย่าให้พี่วาดอีกเลยนะ!
5. "กลิ่นความรัก" ที่สุขสมปนระทม จมอยู่กับความเมล็ดความสัมพันธ์ที่ยากจะนิยาม เมื่อความงดงามในวันวานย่อมต้องมีวันร่วงหล่นเบาบางลงพื้นดิน แม้จะพยายามแตกหน่อผลิบานแดดิ้นยังไง ก็ไม่เท่าดอกไม้แรกแย้มบาน ชูช่ออวบอิ่มทั้งก้านใบ
แม้นใครได้แตะต้องเมียงมองดอก "รสสุคนธ์" เมื่อใด ย่อมตกหลุมรักในรสกลิ่นอันหอมหวานปานจะกลืนกิน อยากจะเด็ดดมชมช่อไปทั้งคืน ต่างจากดอกลีลาวดี หรือในอดีตที่เรียกกันว่า "ดอกลั่นทม" ที่แม้จะเป็นพฤกษามงคลเช่นกัน แต่เมื่อถึงวันที่เธอแผ่กิ่งก้านปกคลุมไปมากมาย จนผู้อาศัยและพื้นที่แห่งรักนั้นถูกจำกัด ไม่เป็นตัวเองอีกต่อไป แม้จะตั้งตระหง่านอยู่ใกล้แค่ไหน ก็คล้ายจะมองไม่เห็น
"สุสานคนเป็น" ในที่นี่ จึงไม่ใช่การที่สองผัวเมียข้าวใหม่ปลามันอย่าง "คุณชีพ-รสสุคนธ์" ต้องใช้ชีวิตอยู่กับศพ "คุณนายลั่นทม" ให้ครบ 100 วันถึงจะได้บ้านและสมบัติไป หากแต่สื่อคล้ายกับชีวิตคู่ที่ต่างฝ่ายต่างต้องทรมานทรกรรม ทำร้ายจิตใจกันไปมาจนเปรียบได้กับการกลบฝังฆ่ากันให้ "ตายทั้งเป็น"
ลั่นทมเมื่อตอนยังมีชีวิต จึงเหมือนคนตาย ที่ยังหายใจ เฝ้าทุกข์ระทมไปวันๆ จนตรอมใจหมดลมขึ้นมาจริงๆ ส่วนชีพเองก็คล้ายถูกฝังอยู่ในสุสานความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะบอกก็เกรงกลัวเมีย ไปมีชู้ให้รู้แล้วรู้รอดไป ตามด้วยรสสุคนธ์ที่แม้จะขึ้นสวรรค๋ในตอนแรก แต่ก็ต้องตกนรกรับกรรมในตอนท้าย อยู่ก็เหมือนตายในรักสามเส้าระหว่างสองคนและหนึ่งดวงวิญญาณ ตามหลอกหลอนทรมานทุกโสตประสาท อาฆาตพยาบาทให้ถึงที่สุด
โดยความหมายจริงๆ ของดอกลั่นทมนั้นหมายถึง "การเริ่มต้นใหม่" แบบที่คุณนายยอมให้อภัยชีพ ทุ่มเททั้งบ้านหลังโตและหัวใจที่พร้อมไปต่อทั้งที่เจ็บเจียนตายแต่อีกมุมหนึ่งหมายถึง "การหมดทุกข์ หมดโศก และกลับมามีความสุข" ซึ่งถ้ามองเผินๆ เหมือนความหมายมันจะดี แต่สิ่งที่เรื่องราวสื่อในที่นี้ "หมดทุกข์" คือการกำจัดชู้รักตัวร้ายออกไป แล้วมา "เริ่มต้นใหม่" ร่วมหอลงโลงที่มีแค่สองเรา เป็นอีกครึ่งของกันและกัน
คนที่ตายจึงกลายเป็นคนที่ "ยังอยู่" หลอกหลอนข้างในใจทุกความรู้สึก ส่วนคนที่เป็นอยู่ก็ดูจะไร้ซึ่งความสุขที่แท้จริง ใช้ชีวิตอยู่ราวกับคนตาย
สุดท้ายความรักที่หมดเยื่อใย ก็ไม่ต่างอะไรจากการยัดหัวใจลงหลุมกลบฝังกันให้ตายทั้งเป็นในสุสานแห่งความสัมพันธ์ อาจเหมือนใจความเหล่านั้นที่ได้ยินผ่านบทเพลง
.
.
.
"หวังจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับชีวิต
เมื่อต้องสูญไป เมื่อต้องเสียไป
ฉันก็คล้ายเหมือนคนที่สิ้นหวัง
.
.
ฉันกับเธอนับจากวันนี้
เป็นแค่ความหลัง
แต่ยังเสียใจ แต่มันเสียใจ
.
.
บอกว่าฉันเสียใจได้ยินไหม!?
รักเธอมากเกิน รักเธอมากไป
รักเหลือเกิน รักจนไม่มีให้ใคร
หวังเธอมากเกิน หวังเธอมากไป
สูญเสียเธอเหมือนจะขาดใจ,,,🖤"
โฆษณา