ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีหนังต่างชาติ 100%
ไม่รู้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เกิดหลอนอะไรขึ้นมา ทำให้เมื่อวันอาทิตย์ (4 พฤษภาคม 2025) เขาลุกขึ้นมาโพสต์บนสื่อโซเชียลของตัวเอง ว่าจะขึ้นภาษีภาพยนตร์ต่างประเทศทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมาจากชาติใด 100% เพราะ หนังต่างชาติกำลังทำงานอุตสาหกรรมคนทำหนังของอเมริกาที่ "กำลังจะตาย" อย่างเร็วมาก เนื่องจากหลายประเทศพยายามจูงใจให้ผู้สร้างหนังอเมริกัน หันไปผลิตหนังในประเทศของพวกเขา
ทรัมป์เล่นใหญ่ถึงขนาดบอกว่า ฮอลลิวู้ด และ สตูดิโอหนังอเมริกันในที่อื่นๆ กำลังถูกทำลายโดยต่างชาติ นี่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ยิ่งไปกว่านั้น (หนังต่างชาติ) ยังมีส่วนเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ
ดังนั้นเขาจึงสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการขึ้นกำแพงภาษีภาพยนตร์ต่างชาติทุกเรื่องที่เข้ามาฉายในสหรัฐ ที่ถ่ายทำในต่างแดนเพราะ "เราต้องการให้หนังผลิตในอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง"
ซึ่งคำประกาศของทรัมป์ผ่านโซเชียลในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้แต่งตั้งนักแสดงฮอลลิวูดชื่อดัง อย่าง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, เมล กิ๊บสัน และจอน วอยต์ ให้มาเป็น "ทูตพิเศษ" ช่วยดึงธุรกิจของคนทำหนังอเมริกันที่เสียไปให้กับต่างชาติกลับคืนมา
แต่ทั้งนี้ ทรัมป์ก็ไม่ได้บอกให้เคลียร์ว่า นโยบาย "Made American Movies Great Again" ของเขา ครอบคลุมอะไรบ้าง และจะมีผลกับค่ายหนังอเมริกัน ที่ยกกองไปถ่ายทำในต่างประเทศ หรือ ค่ายหนังต่างชาติที่อุตสาห์ลงทุนบินมาถ่ายทำในสหรัฐ หรือไม่?
รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ อีกเยอะมาก หากผู้สร้างจะผลิตหนังในสหรัฐ แต่ Outsource ทีมงานต่างชาติ หรือ การซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์, ซีรียส์ต่างชาติ มาลงใน Streaming สัญชาติอเมริกัน
เพราะสมัยนี้ มันไม่ได้มีแค่การนำเข้าหนังต่างประเทศ มาฉายในโรงภาพยนตร์สหรัฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็มีส่วนแบ่งตลาดที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับตลาดคนดูหนังในอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 0.2% ของรายได้ตั๋วหนังใน Box Office ของสหรัฐในแต่ละปี ถามว่ารายได้แค่นี้ แย่งตลาดหนังอเมริกันกี่โมง??
ถ้าจะมองว่าค่ายหนังอเมริกัน ย้ายทุนจากกองถ่ายในฮอลลิวูด ไปถ่ายทำในต่างประเทศมากขึ้น รัฐบาลสหรัฐ อาจต้องกลับมาพิจารณาปัญหาในวงการหนังของตัวเองหรือเปล่าว่า ทุนค่าใช้จ่ายสูงเกินไปไหม? หรือมีอะไรจูงใจให้ค่ายหนังอเมริกันไม่ย้ายกองไปต่างประเทศหรือเปล่า? และการตั้งกำแพงภาษีกีดกันหนังต่างประเทศ มันเกาถูกที่คันแน่แล้วใช่หรือไม่??
หากทรัมป์บอกว่าจะขึ้นภาษีหนังต่างชาติ 100% ประเทศอื่นเขาก็มีสิทธิ์ขึ้นภาษีกับหนังอเมริกัน 100% ได้เหมือนกัน ซึ่งภาพยนตร์เป็นสื่อบันเทิง ไม่ใช่เชื้อเพลิง ข้าวสาร อาหารแห้ง เราอดได้ รอได้ ถ้ามันจำเป็น
ซึ่งมูลค่าการส่งออกหนังอเมริกันในตลาดต่างประเทศแต่ละปี ก็ไม่ใช่น้อยๆ โดยสื่อได้ยกตัวเลขรายได้เฉพาะของค่ายดิสนีย์ในตลาดอเมริกันเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ทำรายได้ไป 2.23 พันล้านเหรียญ แต่มีรายได้ในตลาดต่างประเทศสูงถึง 3.23 พันล้านเหรียญ จึงเห็นได้ว่าสัดส่วนของต่างชาติที่นำเข้าหนังอเมริกัน กับอเมริกาที่นำเข้าหนังต่างชาติ มันเทียบกันไม่ได้เลย
ก็ในเมื่อชาวต่างชาติยอมรับหนังอเมริกันในวงกว้าง การที่ค่ายหนังอเมริกันจะลงทุนไปถ่ายทำในต่างแดน ใช้ทีมงาน ใช้นักแสดงต่างชาติบ้าง เพื่อเข้าถึงตลาดต่างถิ่น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นการคืนกำไรให้ประเทศอื่น ที่ซื้อหนังอเมริกันเข้าไปฉาย หลายสิบ หลายร้อยล้านเหรีญในแต่ละปี แล้วมันจะเสียหายตรงไหน?
แต่ฮีทรัมป์ แกจะให้หนังอเมริกัน ต้องลงทุนถ่ายทำในอเมริกาเท่านั้น เน้นหาเงินเข้าประเทศ เงินสักเหรียญเดียว ก็ไม่อยากให้กระเด็นออกไปให้คนอื่น แถมยังขึ้นภาษีกันหนังเมืองนอกไม่อยากให้มาฉายในบ้านตัวเองอีก แหม่!! ช่างเป็นเศรษฐีใจกว๊าง..กว้าง..น่าคบหาสมาคมยิ่งนัก!!! 😅
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 73
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
