5 พ.ค. เวลา 19:43 • หนังสือ

วันที่เราเดินทางกลับไปเจอตัวเอง

แกเคยเป็นคนที่อยากให้ทุกคนชอบไหม?
อยากมีเพื่อนเยอะๆ
จนบางครั้งไม่กล้าปฏิเสธ
แม้จะต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจ…
ครั้งแล้วครั้งเล่า
เป็น introvert ที่ยอมตกปากรับคำ
ออกไปปาร์ตี้กับคนเยอะๆ เพียงเพราะอยากเข้าสังคม
แม้จะอยากพักผ่อนเงียบๆ คนเดียวมากกว่า
ในช่วงหลังเลิกเรียน/เลิกงาน หรือกระทั่งในวันหยุด
จนวันนึงที่แกทำตามคำร้องขอ
หรือความต้องการของคนอื่นไม่ไหวอีกต่อไป
จำเป็นต้องปฏิเสธไปตรงๆ ซักที
ก่อนที่จะเสียตัวตนไปมากกว่านี้…
วันที่ได้กลับมาอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว
แต่พักดู tiktok
แล้วดันไปเจอคลิปที่เค้าใช้ ChatGPT
เพื่อคุยกับตัวเอง ค้นหาตัวเอง
แกอยากทำตามบ้าง
เพราะนึกสนุก
ว่ามันจะออกมาแบบไหนกันนะ?
เลยลองเล่นดู
แต่กลายเป็นว่า
แกได้เจอสิ่งที่เคยลืมไปแล้ว
ว่ามันเริ่มต้นขึ้นได้ยังไง
เคยนึกมาตลอด
ว่าตัวเองมีจิตวิญญาณใฝ่รู้ กระตือรือร้น
ตามนิสัยของคนเกิดวันพฤหัส
ซึ่งเป็นวันของนักปราชญ์
(ตามที่เคยอ่านเจอในหนังสือทำนายดวงชะตาบ่อยๆ)
เพราะงั้น เลยชอบอ่านหนังสือ
เพราะเป็นนิสัยที่ได้ติดตัวมาตามวันเกิดนี่เอง
แต่เปล่าเลย
.
.
.
โดยไม่ได้เตรียมใจ
ในวัย 30ต้นๆ
แกย้อนกลับไปเจอว่า
สมัยเรียนประถม
เคยโดนครูทำโทษ
โดยการห้ามไม่ให้เพื่อนมาเล่นหรือคุยด้วย
ตลอดทั้งเทอม
ไม่งั้นถ้าครูเจอ หรือมีคนมาฟ้องครู
จะโดนลงโทษไปด้วยอีกคน
ช่วงพักกลางวัน หลังกินข้าวเสร็จ
แกเลยต้องไปขลุกอยู่ที่ห้องสมุด
ที่มีแต่หนังสือ
และไม่มีใครควรคุยกัน
ที่นี่แกไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน
จากนั้น
ก็ต้องหาอะไรที่ไม่น่าเบื่อเกินไป
และพอทำความเข้าใจได้
เอามาทำท่าอ่าน
จะได้ไม่ดูเหงาเกินไป
ช่วงแรก แกอ่านทุกอย่าง
เพื่อดูว่าตัวเองชอบ หรือไม่ชอบอะไร
เริ่มตั้งแต่หนังสือภาพ นิทานอิสป
ที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย น่าดึงดูด
ไปจนหนังสือยากๆ ของผู้ใหญ่
ที่ถือแล้วดูเก่ง ดูเป็นหนอนหนังสือ
แต่พอเปิดอ่านแล้ว อยากปิดลงทันที
พอถึงวัยที่โตมาหน่อย
อ่านมาเยอะ เริ่มเลือกได้ แกพบว่า
แกชอบอ่านหนังสือที่มันฮีลใจ
อาจเพราะช่วงเวลานั้นในอดีต
แกอยากกลับไปปลอบประโลมใจของตัวเองที่สุด
พอโตมาหน่อย
แกอยากพัฒนาตัวเอง
เป็นคนที่ดีขึ้น จะได้เป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ
เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
เพราะไม่อยากกลับไปโดดเดี่ยวขนาดนั้นอีกแล้ว
พอโตมาอีกหน่อย
แกอยากได้หนังสือที่สอนให้ปฏิเสธบ้างเถอะ
ก่อนจะไม่ไหวซะเอง
หนังสือที่บอกว่าการเป็นตัวเองก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
แต่แกไม่เจอหนังสือเล่มนั้นซักที
คงมีแหละ
แต่อาจเพราะซื้อมาแล้วอ่านไม่ค่อยจบ
หรือหยุดอ่านไปซะก่อน
แกเลยอยากเขียนบทความนี้ขึ้นมา
เพื่อที่ว่า
เผื่อใครบางคนผ่านมาเจอ
แล้วอยากลองออกเดินทางกลับไป
เยี่ยมและโอบกอด
ตัวเองในอดีต
ก่อนจะเริ่มทำความเข้าใจ
ว่าจุดเริ่มต้นของบางอย่างในตัวเรา
เกิดจากอะไร
เพื่อจะยอมรับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น
แล้วพาตัวเองกลับมา
เริ่มเปิดใจ
ตั้งใจใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดี
ให้ตัวเองในอดีตได้ภูมิใจ
ส่งท้าย
ถึง ตัวฉันในอดีต
“ ยังไม่เป็นไร ถ้าเธอจะไม่มีเพื่อนในตอนนี้
การไปไหนมาไหนคนเดียว
แรกๆ อาจจะน่ากลัว
แต่การกล้าทำคนเดียว
ในวัยที่ทุกคนมีเพื่อนและเข้าสังคมกันหมด
มันจะทำให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้นในภายภาคหน้า
เธอจะไปขลุกอยู่ที่ห้องสมุด
อ่านหนังสือคนเดียว
แล้วเธอจะรักการอ่านตั้งแต่นั้นมา
ก่อนจะค่อยๆ ฝึกเขียนไดอารี
บันทึก เรียงความ
หรืออะไรก็ตามอีกเยอะแยะในอนาคต
เธอไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะ
เพราะพอเธอโตขึ้น เพื่อนที่เธออยากมีนักหนา
ก็จะเหลืออยู่ในชีวิตแค่ไม่กี่คน
เธอจะเจอผู้คนอีกมากมาย
หนังสือที่เธออ่าน ทุกอย่างที่เธอได้เรียนรู้
จะนำพาคนดีดีที่คู่ควรอยู่ในชีวิตของเธอเข้ามา
เธอไม่จำเป็นต้องหวงแหน
คนที่ไม่คู่ควรกับการมีเธออยู่ในชีวิต
และเธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง
ทำเป็นว่าโอเคกับคุณครูคนนั้น
ที่ลงโทษเธอ ด้วยสิ่งที่เธอรู้สึกว่ามันไม่แฟร์
และโหดร้ายเกินไป สำหรับเด็กในวัยเธอ
มันไม่เป็นไร
เธอไม่ต้องอยากเก็บทุกคนที่ผ่านเข้ามาไว้ในชีวิต
เพราะพอเธอกลับไปที่บ้าน
เธอจะมีครอบครัวที่รักเธอมากเกินพอ
และพยายามเข้าใจเธอ
พร้อมสนับสนุนเธอทุกอย่าง
ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างจะผ่านไป
แล้วเธอจะโตขึ้นมาเป็นคนที่ดีมากๆคนหนึ่ง
คนที่รักเธอ และคนที่เธอรัก
ทุกคนจะภูมิใจในตัวเธอ“
จาก
ตัวเธอในอนาคต
5/5/2025
โฆษณา