6 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🧊 ภูเขาน้ำแข็งขนาดเท่าเมืองเคยลอยอยู่ในทะเลเหนือ ร่องรอยที่จะเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องแอนตาร์กติกา

เมื่อประมาณ 18,000 ถึง 20,000 ปีก่อน พื้นที่บริเวณชายฝั่งของอังกฤษในปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่แนวชายหาดที่เงียบสงบ หากแต่เป็นทางผ่านของภูเขาน้ำแข็งยักษ์ขนาดเท่าเมืองที่ลอยมาจากแผ่นน้ำแข็งที่เคยปกคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่ของยุโรปเหนือ
📍 ภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้ทิ้งร่องรอยไว้ในใต้ก้นทะเลเหนือ (North Sea)
3
ทีมนักวิจัยจาก British Antarctic Survey นำโดย James Kirkham ได้ค้นพบ "รอยครูด" (scour marks) ของภูเขาน้ำแข็งโบราณเหล่านี้บนพื้นทะเล ด้วยการใช้ข้อมูลจากการสำรวจทางแผ่นดินไหว (seismic survey) ซึ่งเดิมทีถูกรวบรวมไว้เพื่อค้นหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
รอยเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแต่หลักฐานของการมีอยู่ของภูเขาน้ำแข็งในอดีตเท่านั้น แต่ยังบอกถึง "ขนาด" ที่น่าอัศจรรย์ของมันอีกด้วย
จากการประเมินของทีมวิจัย รอยครูดบนก้นทะเลบ่งชี้ว่าภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มีขนาดกว้างตั้งแต่ 5 กิโลเมตร ไปจนถึงหลายสิบกิโลเมตร และอาจมีความหนาถึง 200 เมตร
🌍 นี่ไม่ใช่เรื่องปกติในแถบนี้
ปกติแล้ว ภูเขาน้ำแข็งที่มีลักษณะแบบ “แท่งแบนขนาดใหญ่” หรือที่เรียกว่า tabular icebergs จะพบได้ในทวีปแอนตาร์กติกา พวกมันก่อเกิดจากการแตกตัวของ "ชั้นน้ำแข็งลอย" (ice shelves) ซึ่งเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปในมหาสมุทรจากธารน้ำแข็งที่อยู่บนบก
ดังนั้น การค้นพบว่าภูเขาน้ำแข็งลักษณะนี้เคยมีอยู่ในทะเลเหนือ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า “แผ่นน้ำแข็งอังกฤษ-ไอริช (British and Irish Ice Sheet)” ในยุคน้ำแข็ง ก็เคยมีชั้นน้ำแข็งลอยขนาดมหึมาเช่นเดียวกัน
🔁 การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบร่องรอย
ทีมวิจัยยังพบว่า ร่องรอยของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้ถูกทับซ้อนด้วยร่องรอยที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งเกิดจากภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็กจำนวนมากที่เคลื่อนที่ในทิศทางไม่เป็นเส้นตรงเหมือนของขนาดใหญ่ ซึ่ง Kirkham เรียกว่าเป็น “regime change” หรือ "การเปลี่ยนระบอบการเคลื่อนที่ของน้ำแข็ง"
การวิเคราะห์อายุของตะกอนด้วยวิธี Radiocarbon Dating ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 20,000 ถึง 18,000 ปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงที่อุณหภูมิโลกเริ่มอุ่นขึ้น และชั้นน้ำแข็งเริ่มแตกตัวเป็นแผ่นเล็ก ๆ
🧠 บทเรียนจากอดีตเพื่ออนาคตของแอนตาร์กติกา
Kirkham เชื่อว่า ข้อมูลเหล่านี้สามารถเป็นบทเรียนสำหรับการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของแอนตาร์กติกาในอนาคตได้ เพราะภูเขาน้ำแข็งแบบ tabular ในแถบนี้เกิดขึ้นในบริบทของการละลายแผ่นน้ำแข็งแบบเดียวกันกับที่แอนตาร์กติกากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
แต่การเกิดของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ ไม่ได้แปลว่าแผ่นน้ำแข็งกำลังจะพังทลายเสมอไป
Emma MacKie นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Florida สหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาข้อมูลดาวเทียมเกี่ยวกับภูเขาน้ำแข็ง tabular ตั้งแต่ปี 1970s กล่าวว่าการศึกษาของ Kirkham “สนับสนุนผลการวิจัยของเธอ” ซึ่งชี้ว่า การแตกตัวครั้งใหญ่ของภูเขาน้ำแข็ง ไม่จำเป็นต้องเป็นสัญญาณของความไม่เสถียรของชั้นน้ำแข็งเสมอไป
🧊 ภูเขาน้ำแข็ง = วัฏจักร ไม่ใช่หายนะเสมอไป
สิ่งที่เราควรเรียนรู้จากรอยที่ก้นทะเล ไม่ใช่แค่เรื่องของภูมิศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ยุคน้ำแข็งเท่านั้น แต่เป็นการเข้าใจกลไกของการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่ทุกการเปลี่ยนแปลงจะหมายถึงหายนะ
ในบางครั้ง การแตกตัวของสิ่งใหญ่ อาจเป็นเพียง "ขั้นตอนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่าน" สู่ระบอบใหม่ที่ยังยั่งยืนก็ได้
📌 สรุปสั้น ๆ
✅ ภูเขาน้ำแข็งขนาดเท่าเมืองเคยลอยอยู่ในทะเลเหนือเมื่อ 18,000–20,000 ปีก่อน
✅ ร่องรอยจากภูเขาน้ำแข็งถูกค้นพบจากข้อมูล seismic survey
✅ ขนาดของภูเขาน้ำแข็งอาจกว้างหลายสิบกิโลเมตร หนาหลายร้อยเมตร
✅ การมีอยู่ของภูเขาน้ำแข็งแบบ tabular บ่งชี้ว่าเคยมี ice shelf ในทะเลเหนือ
✅ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบร่องรอยชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในอดีต
✅ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจแอนตาร์กติกาและการเปลี่ยนแปลงในอนาคตดีขึ้น
✅ การเกิดภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ไม่ใช่สัญญาณเตือนหายนะเสมอไป
🔎 แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
โฆษณา