เมื่อวาน เวลา 06:28 • สิ่งแวดล้อม

AI กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

🤖 AI เข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่ Generative AI อย่าง ChatGPT ไปจนถึง AI บนคลาวด์ อุปกรณ์ IoT และ Edge Computing ที่ทำงานใกล้แหล่งข้อมูล แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น แต่เบื้องหลังก็มี "ต้นทุนสิ่งแวดล้อม" 🌱 ทั้งด้านพลังงาน น้ำ และมลพิษคาร์บอน
🏭☀️ 1. พลังงานและก๊าซเรือนกระจก
AI ต้องใช้พลังงานมหาศาล โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่ทำงาน 24 ชม. เช่น ChatGPT เพียงอย่างเดียวปล่อย CO₂ กว่า 260,000 กก./เดือน เทียบเท่าเที่ยวบินข้ามมหาสมุทร 260 เที่ยว แม้การโหลดหนึ่งหน้าจะปล่อยคาร์บอนเพียง ~1.6 กรัม แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มีมหาศาล ทำให้ผลกระทบโดยรวมพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
📊 ข้อมูลจาก IEA และ Gartner คาดว่า ภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะใช้ไฟฟ้า 3–3.5% ของทั้งหมด หากยังใช้พลังงานฟอสซิล ก็ยิ่งซ้ำเติมโลกร้อน
💧🤖 2. การใช้น้ำปริมาณมหาศาลเพื่อรองรับ AI
เบื้องหลังการทำงานของ AI ต้องใช้น้ำจำนวนมหาศาล ทั้งในการผลิตไฟฟ้าและหล่อเย็นเซิร์ฟเวอร์ งานวิจัย “Making AI Less Thirsty” พบว่า การฝึกโมเดล GPT-3 เพียงโมเดลเดียว ใช้น้ำมากถึง 185,000 แกลลอน เทียบเท่ากับการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หนึ่งเครื่อง หรือผลิตรถ BMW 370 คัน
การถาม ChatGPT เพียง 20–50 คำถาม ใช้น้ำ ~500 มล. เมื่อรวมกับการใช้งานทั่วโลก ปริมาณน้ำที่ต้องใช้จึงสูงจนน่าตกใจ ข้อมูลสถิติปี 2014 เผยว่า ศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ ใช้น้ำ ~626,000 ล้านลิตร และคาดการณ์ว่าในปี 2027 ระบบ AI ทั่วโลกจะใช้น้ำพุ่งถึง 6.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร (6.6 ล้านล้านลิตร) เสี่ยงกระทบระบบนิเวศและชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำจืดขาดแคลน
🖱🕹 3. IoT และขยะอิเล็กทรอนิกส์
ภายในปี 2025 คาดว่าจะมีอุปกรณ์ IoT (เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะและสมาร์ทแกดเจ็ต) กว่า 41 พันล้านชิ้นทั่วโลก (เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ที่มีอยู่ ~12 พันล้านชิ้น) ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล เช่น ในปี 2020 อุปกรณ์ IoT ใช้ไฟฟ้าเทียบเท่าการใช้ไฟของทั้งประเทศฝรั่งเศสในหนึ่งปี
"Edge Computing" จึงถูกนำมาใช้เพื่อช่วยลดภาระการส่งข้อมูลเข้าสู่คลาวด์ โดยประมวลผลบางส่วนที่ขอบเครือข่าย (เช่น บนอุปกรณ์หรือเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น) ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง ~30% และเอื้อต่อการใช้พลังงานหมุนเวียนในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี การติดตั้งอุปกรณ์ Edge จำนวนมากก็อาจไม่ช่วยลดผลกระทบทางพลังงานได้อย่างที่ควร
นอกจากนี้ "ขยะอิเล็กทรอนิกส์" จากอุปกรณ์ IoT ที่มีวงจรชีวิตสั้น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปี 2022 มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกถึง 62 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 82 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030 หากไม่มีระบบรีไซเคิลที่เหมาะสม สารพิษจากขยะเหล่านี้จะปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ในวงกว้าง
⭕️ แม้ AI จะยกระดับชีวิตเราอย่างก้าวกระโดด แต่ถ้าไม่เร่งคิดและจัดการอย่างรอบคอบ เทคโนโลยีที่พัฒนาเร็ว อาจกลายเป็นแรงเร่งให้โลกเข้าสู่วิกฤตเร็วกว่าที่คาด
การพัฒนา AI อย่างยั่งยืนจึงไม่ใช่แค่สร้างสิ่งล้ำสมัย แต่คือการออกแบบอนาคตให้ “โลก” และ “เทคโนโลยี” เดินไปด้วยกันอย่างสมดุลและรับผิดชอบ
🌎 อยากรู้จักเรามากขึ้น คลิก www.futuretaleslab.com
หรือติดตามที่ https://www.blockdit.com/futuretaleslab
#FutureTalesLab #FutureUpdate #AI #enviroment #EWaste #globalwarming
โฆษณา