6 พ.ค. เวลา 14:22 • ประวัติศาสตร์
สหราชอาณาจักร

ประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรกของโลกคือใคร? คำตอบอยู่ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม!

ก่อนจะมีการจัดอันดับ HDI หรือ GDP โลกเคยมีแค่ประเทศเดียวที่เรียกว่า “พัฒนาแล้ว” และมันเปลี่ยนโฉมหน้ามนุษยชาติทั้งโลก! 🌍 ใช่แล้ว เราพูดถึงสหราชอาณาจักร (United Kingdom) หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “อังกฤษ” นั่นเอง ประเทศที่เป็นจุดกำเนิดของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกของโลกในช่วงปี 1760-1840 และกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
จุดเริ่มต้นของประเทศพัฒนาแล้ว: ปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ 🏭
การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ที่ทำให้เราก้าวจาก “ยุคอารยธรรมเกษตรกรรมที่ครอบงำโดยระบบเศรษฐกิจธรรมชาติ” ไปสู่ “ยุคอารยธรรมอุตสาหกรรมที่ครอบงำโดยระบบเศรษฐกิจการตลาด” 🚀 ในศตวรรษที่ 18 อังกฤษได้กลายเป็นมหาอำนาจสมัยใหม่แห่งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมและครองความเป็นผู้นำของโลก
นักประวัติศาสตร์อย่าง Eric Hobsbawm เชื่อว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นในอังกฤษในช่วงทศวรรษ 1780 และเริ่มส่งผลอย่างเต็มที่ในทศวรรษ 1830 ในขณะที่ T.S. Ashton เชื่อว่ามันเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 1760-1830 แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ทุกคนต่างเห็นพ้องว่าอังกฤษคือจุดกำเนิดแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเป็นประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรกของโลก 🥇
ทำไมต้องเป็นอังกฤษ? เหตุผลที่ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรก 🤔
มีหลายปัจจัยที่ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกที่เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ซึ่งนักประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้หลายประการ
1. การปฏิวัติเกษตรกรรมที่มาก่อน 🌾
การปฏิวัติเกษตรกรรมในอังกฤษส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของประชากร ประชากรที่มากขึ้นนี้สร้างแรงงานจำนวนมากสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และยังสร้างตลาดสำหรับสินค้าที่ผลิตในโรงงานเหล่านั้นด้วย 👨‍👩‍👧‍👦
2. แหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ ⛏️
อังกฤษมีแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการอุตสาหกรรม เนื่องจากถ่านหินใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องจักรไอน้ำที่ใช้ในรถไฟ เรือ และเครื่องจักรอื่นๆ ไม่เพียงแต่อังกฤษจะมีถ่านหินจำนวนมาก แต่ยังหาได้ง่ายอีกด้วย ไม่เหมือนประเทศในยุโรปอื่นๆ ถ่านหินในอังกฤษอยู่ค่อนข้างใกล้กับพื้นผิว ทำให้คนงานเหมืองสามารถค้นหาและสกัดได้ง่าย 🏗️
3. ภูมิศาสตร์ของประเทศ 🗺️
อังกฤษเป็นเกาะที่มีท่าเรือธรรมชาติมากมาย ทำให้การขนส่งสินค้าทำได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำที่เชื่อมต่อกันทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้การขนส่งสินค้าจากโรงงานไปยังท่าเรือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 🚢
4. บรรยากาศทางการเมืองที่เอื้ออำนวย 🏛️
ในศตวรรษที่ 18 อังกฤษมีรัฐบาลที่มั่นคงหลังจากผ่านสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติในทศวรรษก่อนหน้า ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังประสบกับการปฏิวัติของตนเองในช่วงปลายทศวรรษ 1780 และ 1790 (การปฏิวัติฝรั่งเศส) ซึ่งทำให้ไม่สนใจการพัฒนาอุตสาหกรรมและมุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งภายในประเทศแทน
รัฐบาลอังกฤษยังเปิดกว้างต่อแนวคิดทุนนิยมเสรีซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม รัฐบาลส่งเสริมนโยบายการค้าเสรีกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งช่วยสร้างตลาดสำหรับสินค้าที่ผลิตในอังกฤษ
5. จักรวรรดิอาณานิคมขนาดใหญ่ 🌐
เมื่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้น อังกฤษอยู่ในช่วงยุคจักรวรรดินิยม ซึ่งเห็นประเทศในยุโรปสำรวจและครอบครองพื้นที่กว้างใหญ่ทั่วโลก อังกฤษมีจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศที่เข้าร่วมในยุคจักรวรรดินิยม สิ่งนี้สำคัญเพราะทำให้อังกฤษเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาลที่สามารถนำมาใช้ในโรงงานที่พัฒนาขึ้นระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม อาณานิคมยังให้สิทธิ์การค้าแต่เพียงผู้เดียวกับอังกฤษกับประชากรหลายร้อยล้านคน ส่งผลให้อังกฤษมีตลาดขนาดใหญ่สำหรับขายสินค้า 🛒
ประเทศพัฒนาแล้วคืออะไร? นิยามที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา 📚
ในปัจจุบัน เราใช้เกณฑ์หลายอย่างในการกำหนดว่าประเทศใดเป็น “ประเทศพัฒนาแล้ว” แต่ในยุคแรกของการปฏิวัติอุตสาหกรรม คำว่า “พัฒนาแล้ว” หรือ “อุตสาหกรรม” ยังไม่มีการนิยามอย่างชัดเจน
ปัจจุบัน ประเทศพัฒนาแล้วมักมีลักษณะดังนี้
• มีเศรษฐกิจหลังอุตสาหกรรม ซึ่งหมายความว่าภาคบริการมีความสำคัญมากขึ้น และภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญน้อยลง 🏢
• มีอัตราการเกิดและการตายที่มั่นคง ไม่มีอัตราการเกิดที่สูงมากเพราะมีการดูแลทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานการครองชีพสูง ทำให้อัตราการตายของทารกต่ำ 👶
• มีผู้หญิงทำงานมากขึ้น ผู้หญิงที่มุ่งเน้นอาชีพเหล่านี้อาจเลือกที่จะมีครอบครัวขนาดเล็กหรือหลีกเลี่ยงการมีบุตรทั้งหมด 👩‍💼
• ใช้ทรัพยากรของโลกในสัดส่วนที่ไม่สมดุล ในประเทศพัฒนาแล้ว มีคนขับรถยนต์ บินเครื่องบิน และใช้ไฟฟ้าและแก๊สในบ้านมากกว่า 🚗
• มีระดับหนี้สินที่สูงขึ้น ประเทศที่มีเศรษฐกิจกำลังพัฒนาไม่สามารถได้รับการจัดหาเงินทุนที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว 💰
ประเทศพัฒนาแล้วลำดับต่อมา: เบลเยียมและการแพร่กระจายของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 🌱
หลังจากอังกฤษ ประเทศแรกที่เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมคือเบลเยียม ตามมาด้วยเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และประเทศในยุโรปตะวันตกอื่นๆ การแพร่กระจายของการปฏิวัติอุตสาหกรรมจากอังกฤษไปยังประเทศอื่นๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยภายในปี 1840 การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้แพร่กระจายไปยังยุโรปแผ่นดินใหญ่และสหรัฐอเมริกาแล้ว 🚂
ตามที่ Jeffrey Sachs กล่าวไว้ การแบ่งแยกปัจจุบันระหว่างโลกที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ของศตวรรษที่ 20 แต่รากฐานของความแตกต่างนี้เริ่มต้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
บทเรียนจากประวัติศาสตร์: สิ่งที่ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเรียนรู้ได้ 📖
การศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้วให้บทเรียนสำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในปัจจุบัน
1. การพัฒนาสถาบันต้องใช้เวลา ⏳
ประเทศพัฒนาแล้วใช้เวลานานในการสร้างสถาบันในช่วงแรกของการพัฒนา สถาบันมักใช้เวลาหลายทศวรรษและบางครั้งหลายรุ่นในการพัฒนา ตัวอย่างเช่น ความจำเป็นของธนาคารกลางเป็นที่รับรู้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แต่ธนาคารกลาง “จริง” แห่งแรก คือ Bank of England (ก่อตั้งในปี 1694) ถูกจัดตั้งขึ้นโดย Bank Charter Act of 1844 ซึ่งเกือบสองศตวรรษต่อมา
2. ประเทศพัฒนาแล้วในอดีตมีสถาบันที่ไม่ซับซ้อนเท่าประเทศกำลังพัฒนาในปัจจุบัน 🏛️
เมื่อเปรียบเทียบระดับความซับซ้อนของสถาบันในประเทศพัฒนาแล้วในอดีตกับประเทศกำลังพัฒนาในปัจจุบัน พบว่าในปี 1820 สหราชอาณาจักรอยู่ในระดับการพัฒนาที่สูงกว่าอินเดียในปัจจุบันเล็กน้อย
แต่ไม่มีสถาบัน “พื้นฐาน” หลายแห่งที่อินเดียมีในปัจจุบัน ไม่มีการเลือกตั้งทั่วไป (แม้แต่การเลือกตั้งทั่วไปของผู้ชาย) ธนาคารกลาง ภาษีเงินได้ ความรับผิดจำกัดทั่วไป กฎหมายล้มละลายทั่วไป ระบบราชการมืออาชีพ ระเบียบหลักทรัพย์ที่มีความหมาย และแม้แต่ระเบียบแรงงานขั้นพื้นฐาน (ยกเว้นระเบียบเกี่ยวกับแรงงานเด็กที่น้อยและแทบไม่ได้บังคับใช้)
3. การใช้ภาษีศุลกากรและเงินอุดหนุนอย่างแพร่หลาย 💸
ประเทศรวยเกือบทั้งหมดในปัจจุบันใช้การคุ้มครองภาษีศุลกากรและเงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมในช่วงแรกของการพัฒนา สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสองประเทศที่ควรจะไปถึงจุดสูงสุดของเศรษฐกิจโลกผ่านนโยบายตลาดเสรีและการค้าเสรี แท้จริงแล้วเป็นประเทศที่ใช้การคุ้มครองและเงินอุดหนุนอย่างรุนแรงที่สุด
ตรงกันข้ามกับตำนานที่เป็นที่นิยม อังกฤษเป็นผู้ใช้นโยบายเชิงรุกอย่างรุนแรง และในบางพื้นที่เป็นผู้บุกเบิกนโยบายที่มีเจตนาส่งเสริมอุตสาหกรรม นโยบายดังกล่าว แม้จะมีขอบเขตจำกัด แต่ย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 14 (เอ็ดเวิร์ดที่ 3) และศตวรรษที่ 15 (เฮนรีที่ 7) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผ้าขนสัตว์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำในเวลานั้น
สรุป: บทเรียนจากประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรกของโลก 🌟
อังกฤษเป็นประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรกของโลกเนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เริ่มต้นในช่วงปี 1760-1840 ความสำเร็จนี้เกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงการปฏิวัติเกษตรกรรม แหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ ภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย บรรยากาศทางการเมืองที่เสถียร และจักรวรรดิอาณานิคมขนาดใหญ่
การศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศพัฒนาแล้วแห่งแรกนี้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในปัจจุบัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาสถาบัน ระดับความซับซ้อนของสถาบันที่จำเป็น และบทบาทของนโยบายการคุ้มครองในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม
ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าไม่มีเส้นทางเดียวสู่การพัฒนา และแต่ละประเทศต้องค้นหาวิธีของตนเองโดยพิจารณาจากบริบทและทรัพยากรเฉพาะของตน 🌈
อ้างอิง
Agarwal, H., & Agarwal, R. (2017). The First Industrial Revolution: Creation of a New Global Human Era.
Allen, R. C. (1992). The British Industrial Revolution, 1760-1860.
Bairoch, P. (1997). A Brief History of Development.
Church, R. (1986). The History of the Coal Industry.
Clark, G. (2007). The Industrial Revolution.
Crafts, N. (1995). The First Industrial Revolution.
Davis, R. (1966). The Rise of Protection in England, 1689-1786.
Landes, D. (1969). The Unbound Prometheus.
List, F. (1856). The National System of Political Economy.
Marx, K., & Engels, F. (1948). The Communist Manifesto.
Mathias, P., & Davis, J. (1989). The First Industrial Revolution.
McCloskey, D. (1981). The Industrial Revolution 1780-1860: A Survey.
Nunn, N. (2020). The Historical Roots of Economic Development.
Sachs, J. (2005). The End of Poverty.
Singh, V. (2015). Technological Advances Through Machines During the Industrial Revolution.
เขียนโดย The Glory Days
หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมกดไลก์ กดติดตาม และแชร์ต่อให้เพื่อนๆ เพื่อส่งต่อความรู้ดีๆ
© The Glory Days | ขอสงวนสิทธิ์ในการนำเนื้อหานี้ไปใช้ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการแชร์ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา กรุณาให้เครดิตพร้อมลิงก์กลับมายังเพจต้นฉบับด้วยความเคารพ
โฆษณา