Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
808988
•
ติดตาม
7 พ.ค. เวลา 07:30 • นิยาย เรื่องสั้น
นาฬิกาที่หยุดเดิน
เสียงเม็ดฝนเบา ๆ กระทบกระจกหน้าต่างร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในซอยแคบของเมืองเก่าที่ผู้คนเดินผ่านไปมาโดยไม่รู้แม้แต่การมีอยู่ของมัน มันคือร้านที่ไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีเมนู และไม่มีใครแน่ใจว่าเจ้าของร้านเป็นใคร แต่ทุกคนที่เคยหลงเข้าไป ล้วนกลับออกมาโดยเงียบงัน
โต๊ะไม้ตัวหนึ่งริมหน้าต่าง ชายวัยราวห้าสิบปีนั่งนิ่ง ร่างสูงผอม ใบหน้าเหมือนคนผ่านเรื่องบางอย่างที่ทำให้กาลเวลาไม่มีอำนาจอะไรเหนือเขา เขาสวมสูทเก่าแบบยุโรป ยับบ้างในบางมุม หากมองจากด้านข้างจะเห็นนาฬิกาข้อมือสวิสโบราณสายหนังรุ่น Omega Seamaster Calendar Ref. 2627-3SC ปี 1952 ที่หยุดนิ่งที่เวลา 3:27 น.
หญิงสาววัยใกล้สามสิบ เดินเข้ามาพร้อมแมวสีเทาตัวหนึ่ง เธอนั่งลงตรงข้ามเขาโดยไม่พูดอะไรนอกจากสายตาที่คล้ายคุ้นเคยแต่ไม่แน่ใจ เธอสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียวมะกอก กับรองเท้าหนังทรงผู้ชายแบบวินเทจ ผมเปียกจากฝนเป็นลอนหลุด ๆ จังหวะนั้นเสียงแจ็ซเก่าจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเริ่มคลอขึ้น — "In A Sentimental Mood" ของ Duke Ellington กับ John Coltrane — เหมือนทุกอย่างรอบตัวปรับความถี่ให้เข้ากับการพบกันนี้โดยไม่ได้นัดหมาย
"คุณเชื่อว่าเวลาไม่มีอยู่จริงไหม" เธอถามขึ้นทันที ราวกับรู้ว่าเขากำลังรอคำถามนี้อยู่
เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะมองออกไปที่ฝนที่ยังคงตกต่อ "ถ้าเวลาเป็นจริง ทำไมนาฬิกาผมถึงหยุดเดินมาเกินอายุผมแล้ว แต่ผมยังอยู่ตรงนี้ ในการพบเจอครั้งนี้ ที่เราเคยเจอกันหรือไม่เคยเจอกัน"
เธอยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเทกาแฟดำจากเหยือกแก้วใสลงถ้วยของเขา และของตัวเอง กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นแทรกผ่านเสียงฝนกับเสียงดนตรี เขายกถ้วยกาแฟขึ้นจิบช้า ๆ
"แล้วคุณคิดว่าอะไรคือชีวิต ถ้าไม่ใช่เส้นเวลาที่เราถูกฝังให้เชื่อตามกันมา" เธอถาม
เขาวางถ้วยลงแล้วตอบว่า "คือการมีประสบการณ์กับสิ่งที่ใจเรากำลังรู้สึก โดยไม่ต้องตั้งชื่อมัน ไม่ต้องจำมัน และไม่ต้องกลัวมันเปลี่ยนไป ความต่อเนื่องเป็นแค่ภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้รู้สึกหลงทาง"
แมวสีเทากระโดดขึ้นตักเธอ มันมองเขาอย่างรู้ทันอะไรบางอย่าง เหมือนมันเป็นสักขีพยานของความจริงที่ไม่มีคำอธิบาย
บทสนทนาดำเนินไปอย่างไม่ตั้งใจ แต่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงคำถามหนึ่งที่เธอหยุดชะงักไปพักใหญ่ก่อนจะถามว่า
"คุณเคยฝันถึงฉันไหม"
เขายิ้ม แต่ไม่ตอบ แล้วเอื้อมมือไปปลดนาฬิกาข้อมือของตัวเองออก วางไว้บนโต๊ะระหว่างกัน
"ในความฝันที่ไม่เคยจำได้ว่าเป็นฝันหรือความจริง เราเคยเดินอยู่บนชายหาดที่มีแต่หมอก ไม่มีแดด ไม่มีคืน ไม่มีวัน แต่มีเสียงคุณหัวเราะกับเสียงคลื่นที่ไม่ได้มาจากทะเล"
เธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเบา ๆ ว่า "และในฝันนั้น ฉันเคยบอกคุณว่า อย่าตามฝูงสัตว์ไป ใช่ไหม"
เสียงแผ่นเสียงสะดุดเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงไวโอลินช้า ๆ คล้ายกำลังร่ำไห้ เขามองเธอด้วยสายตาที่มีทั้งความอ่อนโยนและการยอมจำนน
จากนั้น เรื่องราวเริ่มเปลี่ยนเป็นเหมือนบันทึกในจิต เขาและเธอไม่ได้สนทนาอีกด้วยคำพูด แต่ด้วยการสัมผัส การจ้องมอง และการเคลื่อนไหวที่เหมือนการแสดง แต่ไม่ใช่การแสดง
และในช่วงเวลาที่เวลาไม่มีอยู่จริงนั้นเอง — ทั้งสองเปลือยเปล่าในมิติของจินตนาการ ร่างกายกลายเป็นแสงสีหมุนวนเข้าหากันในจังหวะแจ็ซที่ไม่มีโครงสร้าง พวกเขาไม่ได้แตะต้องกันในแบบที่โลกนี้เข้าใจ แต่เคลื่อนผ่านกัน เหมือนเสียงคลื่นวิทยุสองคลื่นที่สอดประสานจนไม่อาจแยกออก เสียงเปียโนที่บรรเลงถูกหลอมรวมเข้ากับเสียงหายใจและหัวใจของทั้งคู่ เหมือนหมอกซึมเข้าหากันจนไม่รู้ว่าฝั่งใดเป็นต้นทาง
หลังจากนั้น ทั้งสองดื่มกาแฟเข้มซึมลึกถึงเส้นประสาท แล้วแลกเปลี่ยนอาหารง่าย ๆ — ขนมปังเปลือกหนากับเนยจืด และองุ่นแช่เย็นในจานแก้ว — ที่เหมือนพิธีกรรมแห่งการยอมรับความว่างเปล่าของทุกสิ่ง ทุกคำที่กินคือการแตะขอบเขตใหม่ของความเข้าใจ
เธอพูดว่า "บางทีการจะเข้าใจทุกข์ ไม่ใช่การพยายามหลีกเลี่ยงมัน แต่คือการอยู่กับมันอย่างที่มันเป็น จนมันไม่อาจนิยามตัวเราได้อีกต่อไป"
เขาตอบด้วยประโยคจากเพลงที่กำลังเล่น "In a sentimental mood... I can see the stars come through my room..." เสียงเขาเบาราวกับฝน
ฉากแฟลชแบ็คก็แทรกเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว —
ย่านกินซ่า ค.ศ. 1963 เขาเป็นเด็กหนุ่มในชุดสีเทาอ่อน เดินผ่านร้านนาฬิกาโบราณ และเธอ—หญิงสาวที่ดูโตกว่าในชุดกระโปรงยาว—กำลังเลือกนาฬิกาเรือนหนึ่งอยู่ ทั้งสองสบตากันโดยไม่มีคำพูด ก่อนที่เธอจะวางนาฬิกาไว้แล้วเดินจากไป
บูดาเปสต์ ค.ศ. 1984 ในโรงแรมเก่า เขากำลังจดบันทึกบางอย่างในสมุดเล่มเล็ก เธอเปิดประตูเข้ามาในชุดเดรสแดง เล่าถึงแมวที่ตามเธอมาจากสถานีรถไฟ เขายื่นนาฬิกาเรือนเดิมให้เธอ—มันยังเดินได้ในตอนนั้น—และเธอกล่าวว่า "ฉันแค่ต้องการจำ ว่าครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ที่นี่ แม้เวลาจะไม่มีอยู่จริง"
กรุงเทพฯ ค.ศ. 2001 ห้องเช่าชั้นสี่ติดถนน เขาตื่นขึ้นจากฝัน และพบว่าเธอนอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมนาฬิกาข้อมือเรือนเดิมวางอยู่บนอกเธอเหมือนเครื่องหมายว่าสิ่งที่เขาจำได้อาจไม่ใช่ความฝัน
ทุกยุค ทุกแห่งที่พวกเขา 'เคย' พบกัน นาฬิกาเรือนนั้นอยู่ด้วยเสมอ มันทั้งเดิน และหยุด และเงียบงัน—ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนมอง
ห้องเล็กนั้นกลายเป็นพื้นที่นอกเหนือมิติแห่งเวลา กาแฟในถ้วยไม่มีวันหมด ฝนตกไม่มีวันหยุด แมวไม่เคยหลับ และเสียงแจ็ซเล่นซ้ำลูปเดิมไม่รู้จบ
จนกระทั่ง...เช้าวันหนึ่ง ไม่มีใครในร้านนั้นอีกเลย เหลือเพียงนาฬิกาข้อมือสวิสอายุเกิน 60 ปีที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ ริมหน้าต่าง
เข็มยังคงหยุดที่ 3:27 น.
และแมวสีเทานอนอยู่ข้าง ๆ เหมือนมันรู้ว่าใครจะกลับมาก่อนใคร
แล้วเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นในร้านว่างเปล่านั้น — เสียงที่ไม่เหมือนใครแต่เหมือนทุกคนเคยได้ยินมาก่อน
“คุณยังรออยู่เหรอ”
แมวสีเทาลืมตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่างที่ฝนยังคงตก
เข็มนาฬิกาขยับทีละคลิก
…3:28 น.
blockdit
เรื่องเล่า
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย