🔥 เงินบาทแข็งหรือดอลลาร์อ่อน?
หลังล่าสุด เป็น 32 บาท :1 USD !!
เกมค่าเงินที่นักลงทุนต้องเข้าใจ
ช่วงนี้หลายคนเห็นค่าเงินบาทแข็งขึ้นต่อเนื่อง จนบางสำนักข่าวพาดหัวใหญ่โตว่า “เงินบาทแข็งแรง”
แต่ถ้าแค่ดูบาทอย่างเดียว…อาจพลาดมุมสำคัญ!
👉 เพราะไม่ใช่บาทแข็งอย่างเดียว แต่ “ดอลลาร์อ่อน” ด้วยต่างหาก!
..
📊 Fact เชิงเทคนิค
• USD/THB ดิ่งหลุด 33 บาท (ดูกราฟด้านบน)
• DXY (ดัชนีดอลลาร์เทียบเงินสกุลหลัก) ร่วงลงต่อเนื่องจาก 106 เหลือ 99 จุด → สะท้อน “ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทั่วโลก”
สรุป:
เงินบาทดูแข็งเมื่อเทียบดอลลาร์ แต่เมื่อเทียบกับเงินอื่น เช่น เยน หรือยูโร → แข็งขึ้นไม่มาก หรือบางคู่แทบไม่แข็งเลย!
..
🔍 แล้วทำไมดอลลาร์ถึงอ่อน?
✅ 1) เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย → เงินไหลออกจากดอลลาร์
แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ถดถอย แต่ตลาดเริ่มมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยปลายปี เงินเลยไหลออกไปหาตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)
✅ 2) ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ
การเลือกตั้งปลายปี + ความเสี่ยงเรื่อง “เพดานหนี้” → นักลงทุนขายดอลลาร์ไปหาสินทรัพย์อื่น
✅ 3) จีน-สหรัฐ กลับมาเจรจาการค้า
ความเสี่ยง Trade War ลดลง → นักลงทุนขายดอลลาร์แล้วกลับไปถือ “สินทรัพย์เสี่ยง” ในตลาดเอเชียและยุโรปมากขึ้น
..
💡 ผลกระทบต่อธุรกิจและการลงทุน
✅ ธุรกิจนำเข้าสินค้า → ต้นทุนลด (กำไรดีขึ้น)
เช่น ผู้นำเข้า iPhone, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, น้ำมัน → ค่าเงินบาทแข็งช่วยลดต้นทุน
✅ หุ้นกลุ่ม Domestic → ได้ประโยชน์
เพราะเงินเฟ้อลดลง ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าไม่แพง
✅ นักลงทุนต่างชาติ → เริ่มมองหุ้นไทย
เงินบาทแข็ง → Foreign Fund กล้าเข้ามากขึ้น เพราะความเสี่ยงค่าเงินลด
✅ ธุรกิจส่งออก → ต้องบริหารความเสี่ยงดีๆ
เงินบาทแข็งเกินไป = รายได้จากต่างประเทศแปลงเป็นบาทได้น้อยลง
..
🎯 แนวโน้มต่อไป?
📌 เงินบาท:
• ถ้าเฟด “ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย” จริง → บาทมีโอกาสแข็งต่อ
• แต่ถ้าเศรษฐกิจไทยฟื้นช้ากว่าคาด → บาทอาจแกว่งในกรอบ
📌 ดอลลาร์:
• หากเจรจาสหรัฐฯ-จีนคืบหน้า + เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย → ดอลลาร์จะอ่อนต่อ
• แต่ถ้าเกิดวิกฤตโลก (เช่น ความขัดแย้งใหม่) ดอลลาร์จะกลับมาแข็ง เพราะนักลงทุนหนีไปหา “Safe Haven”
..
🔥 Key Insight สำหรับนักลงทุนพอร์ทระเบิด
✅ หุ้น Domestic Play (ที่ไม่พึ่งส่งออก) → ได้เปรียบช่วงบาทแข็ง
✅ หุ้นนำเข้า (Retail, Auto, Tech) → ต้นทุนลด margin ดีขึ้น
✅ นักลงทุนหุ้นต่างประเทศ → อย่ามองแค่ค่าเงินบาท ต้องดูค่าเงินเปรียบเทียบทั่วโลก
จำไว้:
“ตลาดค่าเงินเหมือนเชือกหลายเส้น เชือกเส้นเดียวไม่ได้บอกทิศทางทั้งตลาด!”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
