“AI ไม่ใช่เวทมนตร์” เมื่อโครงสร้างทีม AI ต้องเปลี่ยนทั้งองค์กร ไม่ใช่แค่เพิ่มฝั่งวิศวกร
ในวันที่องค์กรทั่วโลกต่างขับเคลื่อนเข้าสู่ยุค AI-first อย่างจริงจัง Gartner ได้แสดงวิสัยทัศน์ผ่านแผนผัง “one AI team” to a multi-role operating system” ว่า
* ขณะที่ AI Ethicist ช่วยตั้งคำถามในเชิงจริยธรรม เช่น เราควรให้ AI ตัดสินใจแทนมนุษย์ในสถานการณ์ไหนบ้าง และต้องมีการชดเชยหรือกลไกรับผิดอย่างไรหากเกิดผลเสีย
3. Monitoring & Ops Line
* ได้แก่ MLOps Engineer, AI Architect, Model Validator ซึ่งดูแลระบบหลังบ้านให้มั่นคง เช่น MLOps Engineer
* ต้องออกแบบ workflow ที่ทำให้โมเดลสามารถ retrain ได้เมื่อข้อมูลเปลี่ยน, AI Architect ต้องวางโครงสร้างให้ระบบ AI สามารถ scale ได้โดยไม่เกิด bottleneck
* และ Model Validator มีหน้าที่ตรวจสอบว่าโมเดลยังให้ผลแม่นยำและเป็นธรรมอยู่เสมอในสภาวะแวดล้อมจริง
📌 AI คือ “การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร” ไม่ใช่ “การจ้างเพิ่ม”
องค์กรในไทยส่วนใหญ่ยังติดกับการมอง AI เป็นเพียงเครื่องมือด้าน IT หรือ Data Science — แต่ Gartner ชี้ชัดว่า "การปรับใช้ AI ที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มที่ การออกแบบองค์กรใหม่"
* "การออกแบบบทบาทงานใหม่ ” เช่น การเพิ่มตำแหน่งเฉพาะทางที่ไม่เคยมีมาก่อน อาทิ AI Translator ซึ่งเชี่ยวชาญในการเชื่อมระหว่างภาษาธุรกิจกับภาษาทางเทคนิคของ AI, Decision Engineer ที่สามารถวิเคราะห์กระบวนการตัดสินใจแล้วออกแบบโมเดลหรือระบบให้ AI มีบทบาทอย่างเหมาะสม ไปจนถึง AI Ethicist ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบด้านจริยธรรมของการใช้งาน AI
* "การ Reskill ตำแหน่งเดิม" เช่น Product Manager ต้องสามารถวิเคราะห์ความแม่นยำของโมเดลและเข้าใจการใช้ AI ใน flow ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์, หรือ Legal ต้องสามารถวางกรอบด้าน AI Governance เช่นการประเมินว่าการใช้งาน AI สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลหรือไม่
* 6–12 เดือน: ฝึกอบรม “AI Translator” ให้เข้าใจทั้งฝั่ง Business และ Tech พร้อมเริ่มนำ AI ไปใช้ใน use case แรกที่วัดผลได้ง่าย เช่น Customer Support หรือ Internal Document Search และสร้าง Prompt Library กลาง ที่ให้ทุกทีมสามารถ reuse ได้ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อน และย่นเวลาในการพัฒนา
* 12–18 เดือน: เริ่ม Deploy ระบบ MLOps เช่น pipeline สำหรับ training – validation – deployment โดยอัตโนมัติ พร้อมตั้งทีม ModelOps Cell ที่ดูแล production เช่น คอย monitor model drift, ตรวจสอบ fairness, retrain โมเดลเมื่อมีข้อมูลใหม่เข้า หรือวิเคราะห์ความเสถียรของระบบ AI เพื่อให้ใช้งานจริงได้อย่างยั่งยืน
* 18–24 เดือน: ประเมินผลการใช้ AI ทั้งองค์กรด้วยตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น ROI จากแต่ละ use case, การลดต้นทุน, การเพิ่มประสิทธิภาพ, หรือ NPS ที่เพิ่มขึ้นจากฝั่งลูกค้า และเริ่มวงจร iterate ใหม่ โดยใช้บทเรียนจากรอบแรกมาปรับปรุง strategy สำหรับ use case ถัดไป
===
🎯 ดังนั้น อย่าปล่อยให้ AI เป็น “ของเล่น” ของทีม IT เท่านั้น