8 พ.ค. เวลา 13:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

"AI Layer Revolution”

เมื่อ Google, Facebook, และธุรกิจไทยต้องปรับตัวให้ “อยู่ในคำตอบ” ไม่ใช่แค่รอคน Click 🌐💡🚀
📍 “จาก Search สู่ AI Layer” เมื่อ “การค้นหา” กลายเป็นการถาม และ “แพลตฟอร์ม” กลายเป็นสิ่งที่ต้องฝังตัวอยู่ในคำตอบ 🤖📱✨
* โลกดิจิทัลกำลังเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุค Web 2.0 ไม่ใช่เพียงเรื่อง “เครื่องมือใหม่” อย่าง ChatGPT หรือ DeepSeek แต่คือการเปลี่ยนแปลงรากฐานของ “โครงสร้างอำนาจข้อมูล” จาก Search Engine และ Social Media แบบเดิมๆ สู่สิ่งที่เรียกว่า “AI Layer” — ชั้นของคำตอบที่ฝังตัวอยู่ในทุกแอป ทุกระบบ ทุกบริบท
* วันนี้ผู้ใช้ไม่ได้ต้องการแค่ ‘ลิงก์’ เพื่อไปหาอะไรสักอย่างอีกต่อไป แต่ต้องการ ‘คำตอบ’ ที่มาเลยทันที และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาคาดหวังให้ AI ทำสิ่งนั้นแทนพวกเขาโดยไม่ต้องถามซ้ำ
====
🔎 เมื่อ Google ไม่ได้เป็นประตูสู่โลกข้อมูลอีกต่อไป 🧭💬📉
* ส่วนแบ่งตลาด Google Search ลดลงต่ำกว่า 90% เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ — และแนวโน้มยังลดลงต่อเนื่อง จากเดิมที่เคยเป็นแหล่งเข้าถึงข้อมูลอันดับหนึ่งของโลก
* คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมจาก “พิมพ์คำค้น” → “ถาม AI” เช่น ChatGPT, Claude, Perplexity, Gemini เพราะได้คำตอบสรุปทันทีโดยไม่ต้อง Click หลาย Link
* รายได้กว่า 56% ของ Google มาจาก Search Ads แต่วันนี้คำตอบมาจากแชต ไม่ได้ Click ผ่านอีกต่อไป ส่งผลให้ Conversion Rate จากโฆษณารูปแบบเดิมลดลง
🎯 ผลกระทบชัดเจน
* การโฆษณาแบบเดิมไร้พื้นที่แทรก เพราะไม่มีใคร Click Link อีกแล้ว โฆษณาต้องเปลี่ยนไปอยู่ใน Prompt หรือแชตของ AI
* เว็บไซต์ SEO-driven ถูกบีบให้หายใจลำบาก เพราะ AI สรุปคำตอบแทน ผู้ใช้อ่านเฉพาะย่อหน้าเดียวที่ AI แนะนำ โดยไม่กดเข้าหน้าเว็บ
* Google พยายามแก้เกมด้วย Gemini และ Search Generative Experience โดยให้ AI สรุปคำตอบพร้อมแสดง Source แต่ยังไม่สามารถกลับมายึดความคุ้นเคยของผู้ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ
📌 กรณีศึกษาบริษัทไทย: เอเจนซี่โฆษณาและ Publisher ที่เคยอยู่ได้ด้วย CTR และ organic traffic ต้องเร่งเปลี่ยน Mindset จาก "สร้างเนื้อหาให้คนค้น" → "สร้างข้อมูลให้ AI หยิบไปอ้างอิง" เช่น
* การเพิ่ม Structured Data
* ทำความเข้าใจว่า AI อ่าน Web Schema อย่างไร?
* และมีการอ้างอิงแบบใดบ้างที่ทำให้ AI เลือกใช้
📌 อีกตัวอย่างคือ การเขียนบทความแบบ Insight-driven หรือ Expert-commentary ที่ AI มองเห็นว่าเป็นแหล่งข้อมูลเชิงคุณภาพ แทนการทำ SEO ซ้ำๆ ด้วยคำค้นยอดนิยม เป็นต้น
====
📱 Meta กำลังแข่งกับ AI ไม่ใช่แค่ Social Platform อื่น 🧑‍💻📉📲
* คน Gen Z และ Alpha ค้นหาข้อมูลผ่าน TikTok, IG, หรือ AI มากกว่า Facebook/Google โดยเฉพาะการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว, รีวิวสินค้า, หรือแม้แต่หาวิธีทำอาหาร — ทำให้ Facebook กลายเป็นเพียงแพลตฟอร์มรองในสายตาคนรุ่นใหม่
* Meta เร่งพัฒนา AI Creative Tools เช่น Ads Generator ที่สร้างคอนเทนต์โฆษณาอัตโนมัติ, AI-Reels ที่แนะนำเทรนด์ตามบริบทของผู้ใช้ เพื่อไม่ให้เสียตลาดครีเอเตอร์ที่กำลังแห่กันไปใช้งานแพลตฟอร์ม AI-first อื่นๆ
====
🎯 Disruption ใหม่
* AI กลายเป็น "Discovery Engine" แทน Search หรือ Social: แทนที่ผู้ใช้จะเลื่อนฟีดหาแรงบันดาลใจ — วันนี้พวกเขาแค่ถาม AI ว่า "ร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดดึกแถวอารีย์มีที่ไหนบ้าง?" แล้วได้คำตอบทันที ไม่ต้องออกจากแชต
* เมื่อ ChatGPT สามารถ Activate Browser และให้คำแนะนำในแชต — ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิด Facebook หรือเข้าเว็บไซต์อีกต่อไป นี่คือการโดน Bypass แบบเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่แย่งเวลาหน้าจอ แต่คือแย่งความสัมพันธ์กับผู้ใช้
📌 กรณีศึกษาธุรกิจไทย - แบรนด์ที่ทุ่มงบโฆษณาบน Facebook/IG ต้องเตรียมกลยุทธ์รองรับ “AI Ecosystem” เช่นการทำให้แบรนด์เป็น “คำตอบ” แรกที่ AI แนะนำในหมวดสินค้านั้นๆ เช่น
* การฝัง Product Review ที่มีคุณภาพในแหล่งที่ AI อ้างอิง
* การสร้าง Content ที่ตอบคำถามเฉพาะทางในฟอรัมหรือ Plugin ที่คนไทยใช้บ่อย เช่น Wongnai, Pantip เป็นต้น
* หรือแม้แต่การ Integrate กับ LLM ที่ใช้ภาษาไทย เพื่อให้แบรนด์ไม่หลุดจากคำตอบ
====
🧠 UX สมัยใหม่ = หนึ่งบรรทัดตอบทุกอย่าง ⚡💬
1. "One-line UX"
* ไม่ต้อง Click…ไม่ต้องโหลด...ไม่ต้องรอคำแนะนำในรูปแบบเมนูหรือโฆษณา AI จะให้คำตอบทันที และคำตอบนี้ยังมีแนวโน้มจะเป็น Personalized หรือเฉพาะบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ
* เช่น การถามว่า “มีร้านข้าวมันไก่แถวอารีย์ไหม?” จะไม่ใช่แค่การแนะนำร้าน แต่ยังรวมถึงรีวิวจากผู้ใช้ที่คล้ายกับเราหรืออยู่ใกล้เราที่สุด
2. “Click คืออดีต แต่ การอยู่ในคำตอบคืออนาคต”
* Brand ที่ไม่ฝังตัวอยู่ในคำตอบของ AI จะไม่มีโอกาสให้ผู้ใช้ “เห็น” อีกต่อไป เช่น หากเราพิมพ์ว่า “แชมพูสำหรับผมมัน กลิ่นไม่แรง” แล้ว AI แนะนำแค่ 2 ยี่ห้อ โดยไม่มีชื่อแบรนด์เราอยู่
* โอกาสที่จะถูกพิจารณาในการซื้อจะเท่ากับศูนย์ทันที แม้เราจะโฆษณาไว้มากแค่ไหนก็ตาม
3. “เวลาคือศัตรู"
* การที่ ChatGPT มีผู้ใช้รายสัปดาห์ 500 ล้านคนในเวลาเพียง 18 เดือน แสดงให้เห็นว่า ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ “เหนือความคาดหมาย”
* และแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้พร้อมจะ “เปลี่ยนพฤติกรรม” ทันทีหากพบว่ามีวิธีที่สะดวกกว่า เร็วกว่า และตรงใจมากกว่า UX เดิมๆ
====
🇹🇭 ธุรกิจไทย - ถ้าไม่อยากถูก AI มองข้าม ต้องเปลี่ยนวิธีคิดทั้งระบบ 🧭💡
1. SEO ≠ การสร้างค่าในยุค AI
* Content ต้องถูกยกระดับจาก “บทความทั่วไป” ไปสู่ “ข้อมูลที่ AI เข้าใจได้”
* เช่นการเขียนในรูปแบบ Structured Data ที่มีการจัดหมวดหมู่หัวข้อ, ใส่ metadata ชัดเจน, มีการอ้างอิง (citation) อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ LLM เห็นว่าเนื้อหานั้นมีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
2. Search Ads ≠ การเข้าถึงผู้ใช้
* ถึงเวลาเปลี่ยนจากการซื้อพื้นที่บน SERP (Search Engine Result Page) ไปสู่การลงโฆษณาในช่องทางที่มี AI-in-the-loop
* เช่น Retail Media Network หรือ Creator-based Content ที่ได้รับการคัดเลือกโดย AI เพราะมี engagement จริง
3. สร้าง AI Layer สำหรับธุรกิจไทยเอง
* แทนที่จะรอใช้ ChatGPT อย่างเดียว ต้องเริ่มพัฒนา AI Agent สำหรับภาคธุรกิจเฉพาะทางของไทย เช่น Smart Travel Planner ที่เข้าใจเส้นทางและเทศกาลของไทย
* หรือ Agent สำหรับแปลเอกสารราชการ/กฎหมาย ที่เข้าใจศัพท์เฉพาะและโครงสร้างภาษาของไทยอย่างแท้จริง
4. ภาครัฐต้องสร้างเงื่อนไขการแข่งขันใหม่
* รัฐบาลควรเปิดพื้นที่ทดลอง (AI Sandbox) ที่ให้บริษัทไทยสามารถใช้ข้อมูลท้องถิ่นในการเทรนโมเดล โดยไม่ละเมิด PDPA และมีสิทธิ์ในโมเดลที่พัฒนา ทั้งนี้อาจร่วมมือกับมหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย หรือสมาคมวิชาชีพ อย่างเป็นรูปธรรม
5. จาก Content สู่ Context
* ในยุค AI การมี “บทความเยอะ” ไม่สำคัญเท่ากับ “บทความที่เข้าใจเจตนา” และสามารถตอบได้ตรงกับสิ่งที่ AI ถูกถาม เช่นการเขียนเนื้อหาที่เจาะลึกเฉพาะทาง พร้อมอธิบายบริบท (Context) เพื่อให้ AI มั่นใจในการเลือกอ้างอิงจากเนื้อหานั้น
* เช่น “ทำไมปลาร้าถึงสำคัญในวัฒนธรรมอาหารอีสาน” หรือ “ข้อควรระวังในการใช้คำไทยในสัญญากฎหมาย” เป็นต้น
====
🏁 “โลกของ Click แบบเดิมๆ ที่ครองโลกจะถูก Disrupt” - โลกจะไม่ต้องรอให้คน Click แต่ต้องฝังอยู่ในคำตอบนั้นตั้งแต่ต้น🔮📍
AI เปลี่ยนโลก ไม่ใช่เพราะมันเก่งกว่า Search หรือ Social แต่เพราะมันกำลังเปลี่ยน พฤติกรรม ของผู้ใช้ไปตลอดกาล ในโลกที่คนไม่ต้อง Search และไม่ต้อง Scroll อีกต่อไป แต่เพียงแค่ “พูดสิ่งที่ต้องการ” — ใครที่อยู่ในคำตอบก่อนจะได้เปรียบ
💥 คำถามที่องค์กรต้องตอบให้ได้ คือ “ในวันที่ไม่มีใครเปิดเว็บคุณ — คุณอยู่ในคำตอบของใคร?”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#DigitalTransformation
#Disruption
โฆษณา