Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Green Garden 101 เรียนรู้เรื่องการปลูกต้นไม้
•
ติดตาม
9 พ.ค. เวลา 04:15 • บ้าน & สวน
วิธีการปลูกเลี้ยง ดูแล และบำรุงรักษาต้นคาเมลเลีย
หากคุณกำลังมองหาไม้ดอกที่สวยงาม สง่า และสามารถสร้างความประทับใจได้ในทุกฤดูกาล คาเมลเลียคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ลองมาดูวิธีการปลูกเลี้ยง ดูแล และบำรุงรักษาต้นคาเมลเลียกัน มีรายละเอียดดังนี้ครับ
1. การปลูกต้นคาเมลเลีย
การเลือกซื้อต้นกล้า: เลือกต้นกล้าที่แข็งแรง มีใบสีเขียวเข้ม ไม่เหี่ยวเฉา ไม่มีร่องรอยของโรคและแมลง
การเตรียมดิน: คาเมลเลียชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี และมีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) หากดินที่บ้านเป็นด่าง ควรปรับปรุงด้วยการผสมพีทมอส ขี้เถ้าแกลบ หรือกำมะถันผง
การปลูกลงดิน:
ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่ารากประมาณ 2 เท่า
ผสมดินปลูกกับวัสดุที่ช่วยระบายน้ำ เช่น เพอร์ไลต์ หรือทรายหยาบ
วางต้นคาเมลเลียลงในหลุม โดยให้ระดับดินเดิมของต้นเสมอกับระดับดินใหม่
กลบดินรอบๆ รากให้แน่นพอประมาณ รดน้ำให้ชุ่ม
คลุมโคนต้นด้วยวัสดุคลุมดิน เช่น เปลือกไม้สับ หรือใบไม้แห้ง เพื่อรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืช
การปลูกในกระถาง:
เลือกกระถางที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของต้น และมีรูระบายน้ำที่ดี
ใช้ดินปลูกสำหรับคาเมลเลียโดยเฉพาะ หรือผสมดินร่วนกับพีทมอส เพอร์ไลต์ และปุ๋ยหมัก
วางต้นคาเมลเลียลงในกระถาง กลบดินให้ระดับดินเดิมเสมอกับระดับดินในกระถาง รดน้ำให้ชุ่ม
วางกระถางในที่ที่มีแสงรำไร
2. การดูแลต้นคาเมลเลีย
แสงแดด: คาเมลเลียชอบแสงแดดรำไร หรือได้รับแสงแดดในช่วงเช้าตรู่และเย็น ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงในช่วงกลางวัน เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้
น้ำ: ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งและร้อน ควรรดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ใช้น้ำที่ไม่มีคลอรีน หรือพักน้ำประปาก่อนนำมารด
ความชื้น: คาเมลเลียชอบความชื้นในอากาศสูง หากอากาศแห้งเกินไป อาจทำให้ขอบใบแห้ง หรือดอกร่วงได้ สามารถเพิ่มความชื้นได้โดยการวางกระถางบนจานรองที่มีน้ำ หรือฉีดพ่นละอองน้ำบนใบในช่วงเช้าหรือเย็น
ดิน: รักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ และตรวจสอบความเป็นกรดของดินเป็นระยะ หากดินเริ่มเป็นด่าง สามารถปรับปรุงได้ด้วยการเติมพีทมอส หรือใช้ปุ๋ยสำหรับไม้ดอกที่ชอบดินเป็นกรด
การพรวนดินและกำจัดวัชพืช: ควรพรวนดินรอบๆ ต้นบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อให้ดินร่วนซุยและอากาศถ่ายเทได้สะดวก พร้อมทั้งกำจัดวัชพืชที่อาจแย่งอาหารและน้ำจากต้นคาเมลเลีย
3. การบำรุงรักษาต้นคาเมลเลีย
การให้ปุ๋ย: คาเมลเลียต้องการปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะในช่วงก่อนและหลังการออกดอก สามารถให้ปุ๋ยสำหรับไม้ดอกที่ชอบดินเป็นกรด ตามอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลาก ทุกๆ 4-6 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงในช่วงที่กำลังจะออกดอก เพราะอาจทำให้มีใบมากแต่ดอกน้อย
การตัดแต่งกิ่ง: โดยทั่วไปแล้ว คาเมลเลียไม่จำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งมากนัก เพียงแค่ตัดกิ่งแห้ง กิ่งที่เกะกะ หรือกิ่งที่เป็นโรคออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่งและอากาศถ่ายเทได้ดี ควรตัดแต่งกิ่งหลังดอกโรย
การเด็ดดอกที่โรยแล้ว: เมื่อดอกเริ่มโรย ควรเด็ดทิ้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรคและแมลง และช่วยกระตุ้นให้ต้นสร้างดอกใหม่
การป้องกันโรคและแมลง: คาเมลเลียอาจพบปัญหาเรื่องโรคเชื้อรา (เช่น ราดำ ราแป้ง) และแมลง (เช่น เพลี้ยแป้ง ไรแดง) ควรสังเกตอาการผิดปกติบนต้น หากพบปัญหาควรรีบทำการแก้ไขด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารกำจัดแมลงหรือสารป้องกันเชื้อราตามคำแนะนำ
เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นคาเมลเลีย
คาเมลเลียมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์อาจมีความต้องการในการดูแลที่แตกต่างกันเล็กน้อย ควรศึกษาข้อมูลของสายพันธุ์ที่คุณปลูกเพื่อการดูแลที่เหมาะสมที่สุด
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว เช่น การย้ายกระถางในช่วงที่กำลังมีดอก อาจทำให้ดอกร่วงได้ ควรหลีกเลี่ยงในช่วงนี้
การให้น้ำที่มีความเป็นด่างสูงเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ใบเหลืองได้
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการปลูกเลี้ยง ดูแล และบำรุงรักษาต้นคาเมลเลียของคุณนะครับ นี่คือแหล่งข้อมูลของจุดเริ่มต้นของคนรักต้นไม้ ก่อนซื้อต้นไม้ ซื้ออุปกรณ์ทำสวน ก่อนไปร้านขายต้นไม้ ร้านขายอุปกรณ์ทำสวน ปุ๋ย ยา ต่างๆ นานา ขอชวนมาเรียนรู้เบื้องต้นก่อนกับ Green Garden 101
เยี่ยมชม
greengaden101.wordpress.com
คุยเรื่องต้นไม้และอุปกรณ์ทำสวน
ก่อนไปร้านขายต้นไม้ ขายอุปกรณ์ทำสวน ขอชวนมาเรียนรู้ร่วมกันก่อนกับ Green Garden 101…
ความรู้รอบตัว
ไลฟ์สไตล์
สาระน่ารู้
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย