9 พ.ค. เวลา 10:09 • ไลฟ์สไตล์
ดูลึกๆ การมีกาย ต้องไปหาธาตุนอกมา เสร็จลมร่างกาย พยุงร่างกาย เอาธาตุนอกมาเสริมธาตุใน เสริมน้ำเลือดน้ำหนอง วัวควายหมูหมากาไก่ เค้าก็หา หญ้าหาหนอนมาแปรสภาพเป็นน้ำเลือดน้ำหนองหล่อเลียงกาย ไปเอาข้าว ที่ชาวนาปลูก มันก็มีหยาดเหงื่อแรงกาย มีผู้ที่เกี่ยวข้องมากมาย กว่าข้าว จะวางใส่จาน ให้เราตักกิน มันมีคำว่า พัวพัน อาศัยซึ่งกันและกันอยู่ เราไม่สามารถจะทำทุกสิ่งอย่างได้ เหมือนว่า ต่างคนก็แยกย้ายกันทำมาหากิน มีอาชีพนั้นอาชีพนี้ ได้ปัจจัยเงินทอง เอามาเป็นสมมุติ แลกเปลี่ยนกันไป
คราวนี้ เรื่ิองการพึ่ง ตัวเอง ก็เรื่อบกาย ที่แต่ละคนอาศัย ไปใช้แรงกาย พึ่งแรงกายตัวเอง ไปทำมาหากิน ไม่ใช่ ทำตัวเหมือนแมลงวัน พอมีอาหารมาวาง ก็บินไปโฉบกิน โดยเจ้าของไม่อนุญาติ ไปทำแบบนั้น เจ้าของเค้าหวนของกิน เค้าก็ไม่ชอบใจใจ ตบตีแมลงวันตาย กรือ ก็ไม่ไล่มันออกไป ไปหากินที่อื่น .
คราวนี้ เราอยู่ในหมู่ชน ที่ไม่ใช่แมลงวัน มันก็ไม่มีเรื่องราววุ่นวาย พูดคุย แบ่งปันกันได้ เท่าที่เราให้เค้าได้ พูดจาดีๆ มีอารมณ์เี ไม่หงุดหงิด ก็ให้อารมณ์เป็นทานไป ..เรื่องร้อน เราก็พยายามทำให้มัน้ย็นเข้าไว้ ที่เค้าว่า ใจเย็น คนรอบข้าง เค้าจะได้เย็นไปด้วย บางครั้งมันยิ่งกว่า การแบ่งอาหารการกินเสียอีก
แต่นั่นแหละ มันเป็นสิ่งที่จับต้องเป็นปัจจัยไม่ได้ .เป็นวัตถุสิ่งของไม่ได้ ..ที่เค้าว่า คนมีน้ำใจ บางที่ไปเจอคนกำลังโมโหหงุดหงิด อารมณ์เสีย ..เพียงเราอยู่นิ่ง ไม่วุ่นวาย ..ไม่ส่งเสริมให้เค้าทุกข์ ..ช่วยเตือนสติเค้าเล็กๆน้อย แล้วก็.ไม่ไปยึดถือ เรื่องราวที่เค้าอารมณ์เสีย พูดจาด้วยอารมณ์ .พอเค้ากลับมาเป็นปกติได้ ก็อยู่กันได้เป็นปกติ ไม่ไปยึดอารมณ์กรรมของเค้า มาเป็นเป็นของเราเอง ไปแบกกรรมของเค้าเข้ามา แค่กรรมตัวเอง ยังแก้ไม่หวาดไม่ไหว ที่ต้องแก้ด้วยจิตของตัวเอง สติปัญญาตัวเอง ในสิ่งที่เราอาศัยกายกรรม
โฆษณา