เมื่อวาน เวลา 10:24 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 246 สอดแนมเขาจินซาน

ฟางล่า 方腊 ก่อการที่เจียงหนาน 江南 มานานปี ค่อยๆ ส้องสุมกำลังจนกลายเป็นมหันตภัยโดยมิคาดคิด ฟางล่าพื้นเพเป็นคนตัดฟืนอยู่บนเขาเมืองเส้อโจว 歙州 วันหนึ่งไปล้างมือริมลำธารเห็นเงาตนเองสวมมงกุฎผิงเทียนก้วน 平天冠 (มงกุฎฮ่องเต้ ด้านบนราบมีพู่ห้อยหน้าหลัง) ชุดมังกรคลุมร่าง จึงกลับมาเล่าให้คนฟังเป็นคุ้งเป็นแควว่าที่บ้านตนมีวาสนาเทียบโอรสสวรรค์
ช่วงนั้น จูเหมี่ยน 朱勔 (ขุนนางขี้ฉ้อ) กำลังใช้ข้ออ้างหาหินประดับรีดนาทาเร้นชาวบ้านอยู่ที่อู๋จง 吴中 (บริเวณเจียงซู เจ้อเจียง) จนชาวบ้านเป็นเดือดเป็นแค้นคิดจะก่อความวุ่นวาย ฟางล่าจึงฉวยโอกาสนี้ก่อกบฏขึ้นที่อำเภอชิงซี 清溪县 สร้างวังและอุทยานในถ้ำใหญ่ที่ปังหยวน 帮源洞 ขี้นกับชิงซี ต่อมามีการสร้างวังสัญจรที่มู่โจว 睦州 เส้อโจว 歙州 แต่งตั้งขุนนางฝ่ายทหารและพลเรือน มู่โจวนี้ภายหลังราชสำนักซ่งเปลี่ยนชื่อเป็นหยันโจว 严州 เส้อโจว เปลี่ยนเป็นฮุยโจว 徽州
ฟางล่าขยายอิทธิพลจนถึงยุ่นโจว 润州 ปัจจุบันคือเจิ้นเจียง 镇江 ครอบครองทั้งสิ้นแปดหัวเมืองยี่สิบห้าอำเภอ แปดหัวเมืองมี เส้อโจว 歙州 มู่โจว 睦州 หังโจว 杭州 ซูโจว 苏州 ฉางโจว 常州 หูโจว 湖州 เซวียนโจว 宣州 ยุ่นโจว 润州 และยี่สิบห้าอำเภอที่ขึ้นกับหัวเมืองทั้งแปด ตั้งตนเป็นอ๋อง
ฟางล่าอ้างลิขิตฟ้า ในคัมภีร์ทุยเป้ยถู 推背图 (คัมภีร์พยากรณ์สืบทอดมาแต่สมัยถัง) มีอักษรสวรรค์จารึกไว้ว่า
“十千加一点,冬尽始称尊。
纵横过浙水,显迹在吴兴。
สิบพันหนึ่งแต้มปรก
ข้างท้ายยกขึ้นเป็นหัว
เจ้อนทีครอบครองทั่ว
สำแดงตัวอยู่ยังอู๋”
สิบพันคือหมื่น อักษรหมื่น 万 เติมข้างบนหนึ่งแต้มคืออักษร ฟาง 方 เดือนสุดท้ายของปีเรียกว่า ล่า 腊 ยกย่องขึ้นมาเป็นปฐม คอบครองลุ่มน้ำเจ้อเจียง 浙江 ทางภาคใต้เดิมคือรัฐอู๋ 吴 ตรงกับ ฟางล่า 方腊 ครอบครองเจียงหนาน 江南 พื้นที่กว้างใหญ่กว่าไหวยซีของหวางชิ่ง
1
ทางด้านซ่งเจียงให้ทัพเรือล่องไปตามลำน้ำสื้อ 泗水 ไปออกแม่น้ำไหวย 淮河 ไปทางเขื่อนเมืองไหวยอัน 淮安军坝 จนถึงจุดนัดพบที่เมืองหยางโจว 扬州 ซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้นำทัพบก แบ่งเป็นห้าทัพทยอยเดินทางตามกันมายังหยางโจวสมทบทัพเรือ ตั้งค่ายลงที่อำเภอไหวยอัน 淮安县 ริมลำน้ำ
ลำน้ำใหญ่สายนี้ยาวเก้าพันสามร้อยลี้ มีแม่น้ำสำคัญสามสายมาบรรจบ คือแม่น้ำฮั่นหยาง 汉阳江 แม่น้ำสวินหยาง 浔阳江 แม่น้ำหยางจื่อ 扬子江 ไหลจากสื้อชวน 四川 ไปออกทะเลหลวง จึงเรียกชื่อว่าแม่น้ำหมื่นลี้ 万里长江 (ว่านหลี่ฉางเจียง ล้อกันกับชื่อกำแพงหมื่นลี้ 万里长城) ไหลผ่านดินแดนฉู่ 楚 และอู๋ 吴 กลางแม่น้ำมีเขาสองลูก ลูกหนึ่งชื่อเขาจินซาน 金山 อีกลูกชื่อเขาเจียวซาน 焦山
บนเขาจินซานมีวัดสร้างคลุมทั่วอาณาบริเวณเขา เห็นแต่วัด จึงเรียกว่า เขาในวัด 寺里山
บนเขาเจียวซานมีวัดตั้งอยู่ในหลืบเขา มองไม่เห็นตัววัด จึงเรียกว่า วัดในเขา 山里寺
เขาสองลูกนี้อยู่กลางลำน้ำตรงตำแหน่ง ปลายฉู่ต้นอู๋ 楚尾吴头 ฝั่งปลายฉู่คือเมืองหยางโจวฟากตะวันออกของแม่น้ำไหวย เรียก ไหวยตงหยางโจว 淮东扬州 ส่วนฝั่งต้นอู๋คือเมืองยุ่นโจวฟากตะวันตกของแม่น้ำเจ้อ เรียก เจ้อซียุ่นโจว 浙西润州 ซึ่งปัจจุบันคือเมืองเจิ้นเจียง 镇江
เมืองยุ่นโจวอยู่ในกำมือของฟางล่า ผู้รักษาเมืองชื่อ หลวี่ซือหนัง 吕师囊 มีตำแหน่งอุปโลกน์เป็น ตงทิงซูมี่สื่อ 东厅枢密使 คนผู้นี้เดิมเป็นคหบดี มอบทรัพย์และเสบียงให้แก่ฟางล่า จึงได้รับอวยยศเป็นตงทิงซูมี่สื่อ เมื่อยังเยาว์เคยร่ำเรียนพิชัยสงคราม ใช้ทวนงูจ้างแปดเป็นอาวุธ เพลงยุทธโดดเด่น มีลูกน้องฝีมือดีสิบสองคนมียศตำแหน่ง ถ่งจื้อ 统制 เรียกรวมว่า สิบสองเทพเจียงหนาน 江南十二神 คือ
1
เสิ่นกัง เทพฉิงเทียน เมืองฝูโจว 擎天神福州沈刚
พานเหวินเต๋อ เทพหยิวหยี เมืองเส้อโจว 游弋神歙州潘文得
อิงหมิง เทพตุ้นเจี่ย เมืองมู่โจว 遁甲神睦州应明
สวีถ่ง เทพลิ่วติง เมืองหมิงโจว 六丁神明州徐统
จางจิ้นเหยิน เทพพีลี่ เมืองเยว่โจว 霹雳神越州张近仁
เสิ่นเจ๋อ เทพจวี้หลิง เมืองหังโจว 巨灵神杭州沈泽
เจ้าอี้ เทพไท่ไป๋ เมืองหูโจว 太白神湖州赵毅
เกาเข่อลี่ เทพไท่สุ้ย เมืองเซวียนโจว 太岁神宣州高可立
ฟ่านโฉว เทพเตี้ยวเค่อ เมืองฉางโจว 吊客神常州范畴
จว๋อว่านหลี่ เทพหวงฟาน เมืองยุ่นโจว 黄幡神润州卓万里
เหอถง เทพเป้าเหว่ย เมืองเจียงโจว 豹尾神江州和潼
เสิ่นเปี้ยน เทพส้างเหมิน เมืองซูโจว 丧门神苏州沈抃
หลวี่ซือหนังมีกำลังทหารห้าหมื่นตั้งอยู่ชายฝั่งน้ำหยางจื่อ มีเรือรบสามพันกว่าลำจอดเรียงรายอยู่ที่กันลู่ถิง 甘露亭 ตรงข้ามกับท่าข้ามเมืองกวาโจว 瓜洲 ทางฝั่งเหนือ
ทางฝ่ายทัพซ่ง ทัพบกทัพเรือมาพร้อมกันที่ไหวยอัน 淮安 เมืองหยางโจว อันเป็นจุดนัดหมาย ซ่งเจียงจึงหารือกับพวกอู๋ย่งว่า “ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำมีพวกโจรเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา ผู้ใดจะอาสาไปสืบหาข่าวยังฟากตรงข้ามว่าสมควรบุกอย่างไร”
สี่ขุนพลขันอาสามี พายุหมุนน้อยไฉจิ้น ขาวคะนองคลื่นจางซุ่น เจ้าสามเสี่ยงตายสือสิ้ว ยมบาลตัวเป็นหยวนเสี่ยวชี
ซ่งเจียงว่า “พวกท่านทั้งสี่แยกกันเป็นสองพวก จางซุ่นไปกับไฉจิ้น หยวนเสี่ยวชีไปกับสือสิ้ว แยกกันไปพำนักยังเขาจินซาน เขาเจียวซานหาข่าวคราวความเคลื่อนไหวของพวกโจรที่ยุ่นโจว แล้วกลับมาหารือกันที่หยางโจว”
ทั้งสี่แต่งตัวเป็นคนเดินทางต่างเมือง พาทหารติดตามฝ่ายละสองคน มาจัดหาอาหารแห้งและของใช้จำเป็นที่หยางโจว แล้วแยกกันไปปฎิบัติหน้าที่ สือสิ้วกับหยวนเสี่ยวชีนำผู้ติดตามสองคนแยกไปเขาเจียวซาน
ทางด้านไฉจิ้น จางซุ่นกับสองผู้ติดตามหาอาหารแห้งติดตัว เหน็บมีดสั้นคนละเล่ม ถือดาบพอเตาเดินทางมายังกวาโจว 瓜洲 ริมน้ำหยางจื่อช่วงต้นวสันต์ แดดอุ่น สดชื่นกลิ่นบุปผา
万里烟波万里天,红霞遥映海东边。
打鱼舟子浑无事,醉拥青蓑自在眠。
นับหมื่นลี้ หมอกคลุมคลื่น เคียงคู่ฟ้า
เบื้องทะเลบูรพา อรุโณทัยไขแสงสาง
เรือหาปลาลำน้อยลอยคลื่นไร้ระคาง
เสื้อฝนฟางคลุมร่างเมาหลับสำราญ
ไฉจิ้น จางซุ่นยืนอยู่ริมน้ำมองข้ามไปยังเขาเป่ยกู้ซาน 北固山 กลางน้ำ เห็นที่เชิงเขามีธงสีเขียวขาวปักเรียงรายอยู่สองสี ริมฝั่งมีเรือหลายลำจอดเป็นแถว แต่บนฝั่งน้ำข้างเหนือนี้ ไม่มีแม้แต่ตอไม้
ไฉจิ้นว่า “ระหว่างทางมากวาโจวนี่ บ้านเรือนเยอะแยะแต่ไม่เห็นคนอาศัย ริมน้ำก็ไม่มีเรือข้ามฟากสักลำ แล้วจะข้ามฟากไปหาข่าวอย่างไร”
จางซุ่นว่า “หาบ้านเข้าไปพักก่อน แล้วผู้น้องจะข้ามน้ำไปฟากเขาจินซาน หาข่าวดู”
ไฉจิ้นว่า “ก็จริงอยู่”
ทั้งสี่เดินเลียบริมน้ำเห็นกระท่อมหญ้าเรียงเป็นแถว แต่ปิดประตูเอาไว้ ผลักเปิดไม่ได้ จางซุ่นจึงอ้อมไปด้านข้าง รื้อผนังแล้วเข้าไปข้างใน เห็นยายเฒ่าผมหงอกขาวผู้หนึ่งรีบลุกขึ้นมาจากข้างเตา จางซุ่นถามว่า
“แม่เฒ่า ทำไมไม่เปิดประตูบ้าน”
ยายเฒ่าว่า “ท่านเป็นคนต่างถิ่น บอกตามตรง ตอนนี้ทางราชสำนักส่งกองทัพมาปราบฟางล่า ที่แถวนี้ต้องรับคลื่นลมโดยตรง คนที่อยู่พากันหลบไปที่อื่นหมด เหลือแต่คนเฒ่าคนแก่อยู่เฝ้าบ้าน”
จางซุ่นว่า “พวกเราสี่คนจะข้ามน้ำ พอจะหาเรือได้ไหม”
ยายเฒ่าว่า “จะไปหาเรือที่ไหน หลวี่ซูมี่รู้ว่ากองทัพใหญ่จะมา ก็เอาเรือข้ามไปยุ่นโจวหมดแล้ว”
จางซุ่นว่า “พวกเราสี่คนพอมีเสบียงติดมาอยู่ จะขออาศัยพักแรมที่บ้านท่านสักสองวัน แล้วจะให้เงินค่าที่พักและจะไม่รบกวนท่านมาก”
ยายเฒ่าว่า “จะพักน่ะได้อยู่ แต่ไม่มีเตียง”
จางซุ่นว่า “เรื่องนั้นเราจัดการกันเองได้”
ยายเฒ่าว่า “อีกไม่นาน กองทัพใหญ่ก็จะมา”
จางซุ่นว่า “พวกเราหลบหลีกได้”
จางซุ่นเปิดประตูให้ไฉจิ้นกับอีกสองคนเข้ามา วางพอเตาและสัมภาระ แล้วนำอาหารแห้งออกมากิน จากนั้นจางซุ่นก็มายังริมน้ำ มองข้ามไปยังวัดบนเขาจินซานที่อยู่กลางน้ำ
江吞鳌背,山耸龙鳞。
烂银盘涌出青螺,软翠帷远拖素练。
遥观金殿,受八面之天风;
远望钟楼,倚千层之石壁。
梵塔高侵沧海日,讲堂低映碧波云。
无边阁,看万里征帆;
飞步亭,纳一天爽气。
郭璞墓中龙吐浪,金山寺里鬼移灯。
สายนที ท่วมหลัง พญาเต่า
ขุนเขาสูงง้ำค้ำเกล็ดมังกร
หอยฝาเขียว กรีดกรายใต้ เพ็ญจันทร
สายน้ำร่อน ไหลตก ฉากหยกขจี
ตำหนักทอง ตั้งรับสาย ลมรอบทิศ
หอระฆัง อิงติดผา พันชั้นถี่
เจดีย์สูง เสียดฟ้า ท้าสุรีย์
อุโบสถ อยู่ต่ำมี เมฆหมอกกลืน
พลับพลาเปิด ชมนาวา ล่องวารี
ศาลามี ขั้นบันได เย็นระรื่น
สุสานกวอผู มีมังกร พ่นฟองคลื่น
กลางคืนวัด จินซานมี ผีย้ายโคม
จางซุ่นมองดูวัดแล้วตรองว่า “หลวี่ซูมี่ที่ยุ่นโจวคงมาที่วัดบ่อย คืนนี้ข้าต้องไปดูสักเที่ยว คงได้ข่าว”
แล้วกลับมาหารือกับไฉจิ้นว่า
“มาถึงที่นี่ ไม่มีเรือสักลำ จะข้ามไปหาข่าวอย่างไร คืนนี้ข้าจะเอาเสื้อผ้าห่อเงินสองแท่งใหญ่ทูนไว้บนหัว แล้วข้ามน้ำไปเขาจินซาน บริจาคเงินให้พระที่วัด หาข่าวกลับไปให้ท่านพี่แม่ทัพ พวกท่านก็รออยู่ที่นี่”
ไฉจิ้นว่า “รีบไปรีบกลับ”
คืนนั้นจันทร์กระจ่าง คลื่นลมสงบ ยามสายัณห์ฟ้ากับน้ำกลืนกันเป็นสีเดียว จางซุ่นถอดเสื้อผ้าออก นุ่งผ้าเตี่ยวสีขาว ใช้ผ้าโพกหัวมัดเงินสองแท่งไว้กับเสื้อผ้า มัดไว้บนหัว คาดมีดปลายแหลมกับเอว ลงน้ำที่กวาโจว แล้วเดินออกมายังกลางแม่น้ำ น้ำไม่เกินระดับอกเหมือนดังเดินอยู่บนบกตรงมายังตีนเขาจินซาน เห็นมีเรือเล็กลำหนึ่งผูกอยู่ข้างเขา จางซุ่นปีนขึ้นเรือ แก้ห่อเสื้อผ้าบนหัว ถอดผ้าเตี่ยวเปียกน้ำมาเช็ดตัว แล้วสวมเสื้อผ้านั่งรอในเรือ
เสียงกลองยามบนฝั่งยุ่นโจวย่ำบอกเวลายามสาม เรือเล็กลำหนึ่งแจวข้ามมา จางซุ่นหมอบลงในเรือโผล่หัวขึ้นมาดู ตรองว่า
“เรือลำนี้มาแปลกๆ ต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากล”
จางซุ่นจะพายเรือออกไป ที่แท้เรือลำนี้ล่ามเชือกไว้แต่ไม่มีพายหรือถ่อ จึงต้องถอดเสื้อผ้า ชักมีดมาถือไว้ โดดลงน้ำอีกหน แล้วย่ำน้ำไปข้างเรือลำนั้น
สองคนบนเรือมัวแต่แจวเข้าเทียบฝั่งข้างเหนือ ไม่สนใจระวังทางใต้ จางซุ่นดำลงใต้น้ำไปยังข้างเรือ จับกราบเรือไว้แล้วใช้มีดขูด สองคนที่แจวเรือ ทิ้งแจวโดดน้ำหนี จางซุ่นโดดขึ้นเรือ ชายสองคนออกมาจากโถงเรือ จางซุ่นฟันตกน้ำไปคนหนึ่ง อีกคนหลบกลับเข้าไปในโถงเรือ
จางซุ่นตวาดว่า “แกเป็นใคร เรือนี่มาจากไหน บอกมาตามตรง จะไว้ชีวิตเจ้า”
ชายผู้นั้นว่า “ท่านผู้กล้าฟังก่อน ผู้น้อยเป็นทนายในบ้านนายท่านเฉิน 陈将士 อยู่ที่หมู่บ้านติ้งผู่ 定浦村 นอกเมืองหยางโจว นายท่านใช้ให้ผู้น้อยไปขออ่อนน้อมส่งเสบียงบรรณาการให้หลวี่ซูมี่ที่ยุ่นโจว เมื่อเสร็จภารกิจ ก็ใช้ให้หวีโห้ว 虞候 ท่านหนึ่งกลับมากับผู้น้อยด้วย มาเพื่อขอให้จัดหาข้าวขาวห้าหมื่นต้าน 石 เรือสามร้อยลำ เป็นบรรณาการ”
จางซุ่นว่า “หวีโห้วนั่นชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
ทนายว่า “หวีโห้วแซ่เย่ 叶 ชื่อกุ้ย 贵 ท่านเพิ่งฟันตกน้ำไปเมื่อกี้”
จางซุ่นว่า “แล้วตัวเจ้าชื่อแซ่อะไร ข้ามไปเจรจาเมื่อไร ในเรือมีของสิ่งใดบ้าง”
ทนายว่า “ผู้น้อยแซ่อู๋ 吴 ชื่อเฉิง 成 ข้ามน้ำไปเมื่อวันที่เจ็ดเดือนอ้ายปีนี้ หลวี่ซูมี่ให้ผู้น้อยไปยังซูโจว เข้าพบท่านอ๋องใหญ่ที่สาม พระอนุชาฟางเม่า 方貌 ได้รับมอบธงสีสัญลักษณ์สามร้อยผืน เอกสารแต่งตั้งนายท่านเฉินให้เป็นเจ้าเมืองหยางโจว นามตำแหน่ง จงหมิงไต้ฟู 中明大夫 เสื้อสัญลักษณ์หนึ่งพันชุด และเอกสารจากหลวี่ซูมี่อีกหนึ่งรายการ”
จางซุ่นถามอีกว่า “นายของเจ้าชื่อแซ่อะไร มีคนในสังกัดเท่าใด”
อู๋เฉิง 吴成 ว่า “กองกำลังมีหลายพัน ม้าร้อยกว่าตัว ครอบครัวมีบุตรชายมีฝีมือสองคน คนโตเฉินอี้ 陈益 คนรองเฉินไท่ 陈泰 นายท่านชื่อเฉินกวน 陈观”
จางซุ่นซักถามรู้ความละเอียดแล้ว ก็ฟันอู๋เฉิงเสียดาบหนึ่งตกน้ำไป หยิบแจวท้ายเรือ แจวกลับกวาโจว
ไฉจิ้นได้ยินเสียงแจวเรือจึงรีบออกมาดู เห็นจางซุ่นแจวเรือมา จึงถามที่มาของเรือ จางซุ่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ไฉจิ้นเข้าไปในโถงเรือ นำเอกสารแต่งตั้งหนึ่งห่อ ธงสามร้อยผืน เสื้อหนึ่งพันชุด มาแบ่งใส่หาบเป็นสองหาบ
จางซุ่นว่า “ข้าจะกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อน”
จางซุ่นแจวเรือกลับไปเชิงเขาจินซาน เก็บเสื้อผ้า ผ้าโพกหัว เงินแท่ง แล้วแจวกลับกวาโจว ฟ้าสางพอดี หมอกลงจัด จัดการเจาะเรือให้รั่วปล่อยให้จมน้ำ กลับเข้าบ้านมอบเงินให้ยายเฒ่าเป็นค่าที่พัก ให้ผู้ติดตามแบกของสองหาบกลับมาพบซ่งเจียง
ซ่งเจียงบัดนี้ย้ายจากหยางอันไปอยู่ที่หยางโจวแล้ว
ตอนก่อนหน้า : ลูกดิ่ง
ตอนถัดไป : เรือเสบียงยึดยุ่นโจว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา