10 พ.ค. เวลา 11:22 • ข่าวรอบโลก

EP 57 หยวนดิจิทัล ฝันร้ายของดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบันดอลลาร์สหรัฐยังคงครองสถานะเงินสกุลหลักของโลก โดยข้อมูลล่าสุดจาก IMF ไตรมาส 4 ปี 2024 แสดงสัดส่วนดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศที่ 57.80% เพิ่มขึ้นจาก 57.30% ในไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าตัวเลขนี้ยังสูง แต่หลายประเทศเริ่มเคลื่อนไหวท้าทาย "อภิสิทธิ์ของดอลลาร์" (Exorbitant Privilege) ที่ฝรั่งเศสเคยวิจารณ์ตั้งแต่ปี 1965 ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้สหรัฐฯ กู้ยืมจากต่างประเทศโดยไม่มีต้นทุน
1
จีนและรัสเซียเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวลดการพึ่งพาดอลลาร์ โดยสัดส่วนดอลลาร์ในการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศลดลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกในไตรมาสแรกของปี 2020 ธนาคารกลางจีนได้ลงนามข้อตกลงแลกเปลี่ยนเงินตรากับธนาคารกลางมากกว่า 40 แห่งทั่วโลก มูลค่ารวมกว่า 4.16 ล้านล้านหยวน อย่างไรก็ตาม หยวนยังมีสัดส่วนเพียง 2.18% ในทุนสำรองโลก นวัตกรรมอย่างหยวนดิจิทัลและระบบ CIPS คือความพยายามของจีนในการสร้างทางเลือกให้กับระบบการเงินที่นำโดยสหรัฐฯ
กลยุทธ์สหรัฐฯ 2030: ป้องบัลลังก์ดอลลาร์
การปกป้องบัลลังก์ดอลลาร์จากหยวนดิจิทัลและเทคโนโลยีจีน โดยเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่
1
  • รักษาความน่าเชื่อถือเศรษฐกิจและเสถียรภาพการเงิน ด้วยการควบคุมหนี้สาธารณะที่สูงเกิน 100% ของ GDP ในปี 2024 และสร้างภาพลักษณ์ระบบเปิดพร้อมนิติธรรม เพื่อคงสถานะ “safe haven” ของดอลลาร์ในสายตานักลงทุนทั่วโลก
1
  • พัฒนาเทคโนโลยีการเงินใหม่ เช่น เปิดตัวระบบโอนเงินเร็ว FedNow ในปี 2023 และศึกษาการออก Digital Dollar อย่างจริงจัง แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว พร้อมส่งเสริม stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์ เพื่อรักษาอิทธิพลในตลาดคริปโตและระบบการเงินดิจิทัล
  • ควบคุมและจำกัดเทคโนโลยีคู่แข่ง โดยจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงและเทคโนโลยี AI ให้จีน กดดันพันธมิตรไม่ให้ส่งออกเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่าน CHIPS Act เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ลดการพึ่งพาจีน และแยกห่วงโซ่อุปทานทางเทคโนโลยี (decoupling) เพื่อจำกัดศักยภาพทางเทคโนโลยีของจีน
เทคโนโลยีของจีน 2030: ท้าชนทุกมิติ
จีนกำลังพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรเพื่อท้าทายระบบการเงินโลกในปี 2030 โดยมี 3 มิติสำคัญ ได้แก่
  • ระบบชำระเงินดิจิทัล: จีนผสานระบบชำระเงินดิจิทัลที่ครองตลาดกว่า 90% อย่าง WeChat Pay และ Alipay เข้ากับหยวนดิจิทัล (e-CNY) เพื่อให้การใช้เงินดิจิทัลเป็นไปอย่างไร้รอยต่อและควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ล่าสุด e-CNY ได้รับการบูรณาการในแอปทั้งสอง โดยมีการพัฒนาระบบ QR code แบบรวมเดียวที่รองรับทั้ง e-CNY และระบบชำระเงินเดิม เพื่อส่งเสริมการใช้ในทุกสถานการณ์ค้าปลีก
  • เครือข่าย Big Data & AI: จีนใช้ฐานข้อมูลผู้ใช้ขนาดใหญ่จากกิจกรรมดิจิทัลในชีวิตประจำวันเป็นวัตถุดิบฝึก AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในภาคการเงินและการทหาร ส่งผลให้จีนมีศักยภาพทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่แข่งขันได้ในระดับโลก
1
  • Digital Silk Road: จีนขยายโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัลผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) โดยติดตั้งระบบ CIPS และ e-CNY ในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อสร้างเครือข่ายการเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงและลดการพึ่งพาระบบการเงินตะวันตก
กลยุทธ์นี้สะท้อนความพยายามของจีนในการสร้าง ecosystem การเงินดิจิทัลที่ครบวงจรและครอบคลุมทุกมิติ เพื่อท้าทายอำนาจทางการเงินของสหรัฐฯ และขยายอิทธิพลในภูมิภาคและระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
สมดุลเชิงนโยบายการเงินไทยในโลกที่เปลี่ยนแปลง
โลกในทศวรรษหน้าเข้าสู่ยุค “หลายสกุลเงินแข่งกัน” (Multicurrency Competition) ที่ดอลลาร์ยังคงนำแต่ลดบทบาทผูกขาด ขณะที่หยวนมีบทบาทเพิ่มขึ้นในกลุ่ม BRICS และโครงการ BRI ยูโร เยน และ stablecoin ก็เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในระบบการเงินโลก ภายใต้บริบทนี้ ไทยได้ก้าวเข้าร่วมโครงการ mBridge กับจีน ฮ่องกง และยูเออี รวมถึงเซ็น MOU ใช้เงินบาท-หยวนโดยตรง เพื่อขยายช่องทางการค้าและลดต้นทุนทางการเงิน แต่ไทยยังคงถือดอลลาร์เป็นทุนสำรองหลัก
ในสถานการณ์โลกที่มีขั้วอำนาจหลายฝ่ายแข่งขันกัน ไทยควรเดินเกม “สมดุลเชิงสร้างสรรค์” (constructive neutrality) โดยใช้ความยืดหยุ่นทางการเงินและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับสหรัฐฯ และจีน พร้อมเจรจาหาประโยชน์สูงสุดในเวทีโลก โดยไม่เลือกข้างอย่างชัดเจน การรักษาความเป็นกลางเชิงสร้างสรรค์นี้ช่วยให้ไทยสามารถบริหารความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมโยงกับหลายขั้วอำนาจอย่างมีประสิทธิภาพ
Econ Insight: ศัพท์เศรษฐศาสตร์
แม้ดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินหลักของโลก แต่การเคลื่อนไหวของจีนในการพัฒนา “หยวนดิจิทัล” และระบบ CIPS กำลังกระทบโครงสร้างภูมิรัฐศาสตร์การเงินเดิม สหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยยุทธศาสตร์ป้องกันบัลลังก์ดอลลาร์ทั้งทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการเงิน ขณะที่ไทยเลือกใช้ “ความเป็นกลางเชิงสร้างสรรค์” ในการบริหารสัมพันธ์กับสองขั้วมหาอำนาจ ท่ามกลางกระแส multicurrency โลกอนาคตจะมีตัวเลือกการเงินมากขึ้น ความเชื่อมั่นและเสถียรภาพจะเป็นตัวตัดสินว่าใครควบคุม “อำนาจเงิน” ได้ในศตวรรษนี้
1
Exorbitant Privilege (อภิสิทธิ์แห่งเงินดอลลาร์)
สิทธิพิเศษที่ประเทศผู้ออกเงินสกุลหลักของโลก (เช่น สหรัฐฯ กับดอลลาร์) ได้รับ เช่น การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงค่าเงิน หรือพิมพ์เงินใช้หนี้ได้เอง
De-dollarization (การลดการพึ่งพาดอลลาร์)
กระบวนการที่ประเทศต่างๆ ลดการใช้ดอลลาร์ในธุรกรรมระหว่างประเทศ เช่น การค้า การลงทุน หรือทุนสำรอง เพื่อเพิ่มอำนาจอธิปไตยทางการเงิน
Multicurrency System (ระบบหลายสกุลเงิน)
ระบบการเงินโลกที่มีการใช้หลายสกุลเงินหลักร่วมกันในบทบาทสากล เช่น ดอลลาร์ ยูโร หยวน แทนการมีสกุลเงินเดียวครองโลก
Decoupling (การแยกตัวทางเศรษฐกิจ/เทคโนโลยี)
การแยกห่วงโซ่อุปทานหรือการเชื่อมโยงทางเทคโนโลยีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อลดการพึ่งพากันทางยุทธศาสตร์ เช่น สหรัฐฯ แยกตัวจากชิปจีน
โฆษณา