13 พ.ค. เวลา 05:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🦈✨ ไขปริศนาทำไมปลาฉลามกรีนแลนด์ถึงมีอายุยืนยาวนับศตวรรษแต่ไม่ตาบอด?

ในทะเลลึกอันมืดมิดที่แสงแดดไม่อาจส่องถึง มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่นานกว่าชั่วชีวิตของมนุษย์หลายรุ่น นั่นคือ “ฉลามกรีนแลนด์” (Greenland shark) สัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก และยังเป็นปริศนาทางชีววิทยาที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามไขความลับ
ฉลามกรีนแลนด์ (Somniosus microcephalus) เป็นปลาฉลามขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำเย็นจัดของอาร์กติกและแอตแลนติกเหนือ สิ่งที่ทำให้มันพิเศษอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ความยาวของลำตัวที่อาจถึง 7 เมตร แต่คือ “ความยาวของชีวิต” ที่อาจนานถึง 400 ปี หรือมากกว่า นี่คือสัตว์ที่เกิดมาก่อนที่เครื่องพิมพ์ดีดจะถูกประดิษฐ์ขึ้น และอาจจะยังมีชีวิตอยู่ตอนที่เราส่งคนไปดวงจันทร์
แต่ในความน่าทึ่งของอายุยืน ก็มีปริศนาอีกข้อที่ยิ่งทำให้ฉลามสายพันธุ์นี้น่าสนใจขึ้นไปอีกขั้น...
👁️ ทำไมฉลามกรีนแลนด์ถึงไม่ตาบอด?
ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เซลล์รับแสงที่อยู่ในจอประสาทตา (retina) จะเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ ทำให้การมองเห็นมัวลง มองไม่ชัด หรือถึงขั้นตาบอด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มักประสบปัญหา “จอประสาทตาเสื่อม”
แต่ในกรณีของฉลามกรีนแลนด์ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมสุดโหด หนาวจัด ลึก และแสงสว่างน้อยมาก นักวิทยาศาสตร์เคยคาดการณ์ว่ามันอาจจะ “ตาบอดโดยธรรมชาติ” เพราะอยู่ในที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้การมองเห็น อย่างไรก็ตามการศึกษาล่าสุดกลับพลิกความเข้าใจนั้นไปอย่างสิ้นเชิง
🔬 การศึกษาทางวิทยาศาสตร์
Lily Fogg นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Basel สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยทีมงาน ได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดจาก “ดวงตา” ของฉลามกรีนแลนด์จำนวน 8 ตัวที่เสียชีวิตแล้ว โดยไม่เพียงแค่ดูโครงสร้างทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังทำการวิเคราะห์ DNA อย่างละเอียดอีกด้วย
ผลการศึกษาพบว่า:
  • ไม่มีสัญญาณของการเสื่อมสภาพของเรตินาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าฉลามแต่ละตัวที่ศึกษาจะมีอายุถึงระดับ “หลายร้อยปี”
  • ฉลามเหล่านี้ยังคงมีโครงสร้างตาและการทำงานของเซลล์รับแสงที่สมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง
นสัตว์มีกระดูกสันหลังทั่วไป (รวมถึงมนุษย์) จอประสาทตาประกอบด้วยเซลล์ 2 ประเภทหลัก:
  • 1.
    Cone cells – รับรู้สีสัน ทำงานได้ดีในแสงมาก
  • 2.
    Rod cells – รับรู้ความสว่างในที่แสงน้อย แต่มองไม่เห็นสี
จากการศึกษาพบว่า ฉลามกรีนแลนด์แทบไม่ใช้ cone cells เลย และมีการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับ cone ต่ำมาก แปลว่าฉลามชนิดนี้พึ่งพา rod cells เกือบทั้งหมดในการมองเห็น ซึ่งเหมาะสมกับการดำรงชีวิตในทะเลลึกที่มีแสงน้อย
🧪 ความลับของการมองเห็นที่ยืนยาว
หนึ่งในไฮไลต์ของการค้นพบครั้งนี้คือ “ยีนชื่อว่า ercc1” ซึ่งมีหน้าที่ในการ ซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย
ในฉลามกรีนแลนด์ พบว่ายีน ercc1 มีกิจกรรมที่ “สูงกว่าฉลามสายพันธุ์อื่น” อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ เนื้อเยื่อในดวงตาของฉลามกรีนแลนด์ไม่เสื่อมสภาพตามอายุ และอาจเป็นกลไกเดียวกับที่ช่วยยืดอายุขัยโดยรวมของพวกมันด้วย
การค้นพบนี้นอกจากจะตอบคำถามเรื่อง “ทำไมฉลามกรีนแลนด์ไม่ตาบอดแล้ว” ยังอาจเปิดประตูไปสู่ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับกลไกการชะลอความแก่ในสัตว์อื่นรวมถึงมนุษย์ด้วย
🌒 จังหวะชีวิตที่ไม่มีแสง
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ นักวิจัยพบว่ายีนที่ควบคุมการผลิตโปรตีนชื่อ melanopsin ซึ่งมีบทบาทในการรับรู้แสงและควบคุมนาฬิกาชีวภาพ (circadian rhythm) ไม่ทำงานในฉลามกรีนแลนด์
ในสัตว์อื่น melanopsin จะช่วยให้ร่างกายรู้ว่าเมื่อใดควรตื่น ควรนอน หรือกินอาหาร ตามจังหวะกลางวัน-กลางคืน แต่สำหรับฉลามกรีนแลนด์ที่อาศัยอยู่ในความมืดตลอดเวลา ดูเหมือนมันจะ “ไม่ต้องใช้แสงในการตั้งเวลา” อีกต่อไป
นักวิทยาศาสตร์จึงคาดว่า มันอาจใช้อุณหภูมิของน้ำในการหากิน หรือสัญญาณอื่นแทนแสงในการควบคุมกระบวนการชีวภาพต่าง ๆ
🌌 ข้อสังเกตสุดท้าย
การศึกษาครั้งนี้เป็นมากกว่าการเข้าใจฉลามพันธุ์หนึ่ง แต่คือการตั้งคำถามใหม่ต่อความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับ “อายุ” และ “การเสื่อมถอยของร่างกาย”
ฉลามกรีนแลนด์ได้สอนเราว่า: “บางครั้ง การมีชีวิตยืนยาวไม่ใช่เรื่องของการหลีกเลี่ยงความเปลี่ยนแปลง แต่คือการมีระบบที่เยียวยาตัวเองได้ แม้ในที่ที่ไม่มีแสงสว่างเลยก็ตาม”
ในโลกที่กำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงวัย การเข้าใจกลไกเช่น ercc1 หรือการใช้ rod cells อย่างมีประสิทธิภาพ อาจนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ในอนาคตที่ไม่เพียงแค่ยืดอายุขัยของมนุษย์ แต่ยังรักษาคุณภาพชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
📌 สรุปสั้น ๆ
✅ ฉลามกรีนแลนด์ (Greenland shark) มีอายุยืนถึง 400 ปี แต่ยังมีดวงตาที่ไม่เสื่อมสภาพ
✅ มันใช้เซลล์ rod เป็นหลักในการมองเห็น เหมาะกับสภาพแสงน้อยใต้ทะเลลึก
✅ ยีน ercc1 มีบทบาทในการซ่อมแซม DNA อาจเป็นกุญแจสำคัญในการชะลอความแก่
✅ ยีน melanopsin ที่ควบคุมนาฬิกาชีวภาพหยุดทำงาน ทำให้ใช้ตัวแปรอื่นกำหนดจังหวะชีวิต
✅ งานวิจัยนี้มีนัยสำคัญต่อความเข้าใจเกี่ยวกับการชะลอความเสื่อมในมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
🔎 แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
โฆษณา