Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
13 พ.ค. เวลา 02:02 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ภาษีภาพยนตร์ 100% ‘ช่วยหรือฉุด’ ฮอลลีวูด?
แผนเก็บภาษี 100% ต่อภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับวงการ "ฮอลลีวูด" หลายคนยังคงเคลือบแคลงใจ นโยบายนี้จะช่วยชุบชีวิตให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ทรัมป์บอกว่า "กำลังจะตาย" หรือจะช่วยฉุดให้ฮอลลีวูดล่มสลายเร็วขึ้น?
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีแผนเก็บภาษีภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศในอัตรา 100% ถือเป็นการขยายวงนโยบายภาษีจากสินค้าสู่ภาคบันเทิงเป็นครั้งแรก
ทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลเมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.68) ว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนการค้า “เริ่มกระบวนการกำหนดภาษีต่อภาพยนตร์ต่างประเทศทันที” โดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกันกำลังจะตาย
ต่อมาทรัมป์ กล่าวว่า ตนจะปรึกษาบรรดาผู้บริหารในฮอลลีวูดเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะพอใจกับข้อเสนอของตน หลังจากข่าวภาษีภาพยนตร์สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม
📌 หวั่นกระทบหนังถ่ายทำต่างแดน
นโยบายเรียกเก็บภาษี 100% จากภาพยนตร์ผลิตในต่างประเทศทุกเรื่องที่ต้องการเข้าไปฉายในสหรัฐ ได้ก่อให้เกิดคำถามว่า บริษัทภาพยนตร์อเมริกันที่ผลิตสื่อในต่างแดนจะได้รับผลกระทบหรือจะมีผลย้อนหลังหรือไม่
แม้นโยบายภาษีดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน แต่คนในอุตสาหกรรมหนังอเมริกันวิตกกังวลล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เพราะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่สหรัฐผลิตจำนวนมาก มักถ่ายทำนอกอเมริกา เช่น เดดพูลแอนด์วูฟเวอรีน (Deadpool & Wolverine), วิคเค็ด (Wicked), และแกลดดิเอเตอร์ 2 (Gladiator II) ขณะที่ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่นิยมทั่วโลกอย่าง มิชชั่น : อิมพอสซิเบิล (Mission Impossible) ก็ถ่ายทำในต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี คุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับบีบีซีว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับภาษีภาพยนตร์ต่างชาติ และว่ารัฐบาลกำลังสำรวจทางเลือกทั้งหมด ดังนั้นคงต้องจับตาดูสถานการณ์ต่อไป
ทั้งนี้ สาเหตุที่สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ของสหรัฐเลือกถ่ายทำในต่างประเทศนั้น เพราะหลายประเทศมีข้อเสนอหรือมาตรการสนับสนุนที่น่าสนใจ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการผลิตภาพยนตร์ และสร้างงานในประเทศ และหวังเผยแพร่ทิวทัศน์ในประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ และออสเตรเลีย ขณะที่ไทยก็มีมาตรการสนับสนุนจนซีรีส์ชื่อดังอย่างไวท์โลตัสเลือกถ่ายทำซีซัน 3 ในไทย
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ธุรกิจภาพยนตร์เลือกสถานที่นอกสหรัฐ เพราะบางเรื่องจำเป็นต้องใช้สถานที่ ที่พิเศษ มีเอกลักษณ์ และมีฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างในเรื่องมิชชั่น : อิมพอสซิเบิล ตอนปฏิบัติไร้เงา ที่พระเอกของเรื่องอย่าง ทอม ครูซ ไต่ตึกเบิร์จ คาลิฟา ในดูไบอย่างหวาดเสียว
📌 ฮอลลีวูดกำลังจะตาย?
บีบีซีรายงานว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกัน ประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาสองสามปีแล้ว ซึ่งการผลิตภาพยนตร์ต้องยุติลงในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์ดังกล่าวยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเรื่อยมา
บรรดาสตูดิโอฮอลลีวูดใช้งบสร้างหนังไป 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ในไตรมาสสองของปี 2567 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ราว 20% เนื่องจากสตูดิโอยังคงลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัวจากการขาดทุนในช่วงการแพร่ระบาดโควิด และเมื่ออุตสาหกรรมมีท่าทีว่าจะฟื้นตัวได้ จู่ๆ ก็เกิดการหยุดชะงักอย่างรุนแรงจากการประท้วงหยุดงานของนักแสดง และนักเขียนเมื่อปี 2566
ขณะที่หลายปีมานี้ ผู้บริโภคหรือผู้ชมซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มเด็กเท่านั้นต่างหันไปเสพคอนเทนต์ผ่านโลกออนไลน์มากขึ้นเช่น ยูทูบ และแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ
ส่วนจีนก็มีแผนจำกัดการนำเข้าภาพยนตร์ฮอลลีวูด เพื่อตอบโต้นโยบายภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้าจีนในอัตราที่สูงมาก
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ภาพยนตร์ของสหรัฐอาจได้รับผลกระทบทางการเงินเล็กน้อยในตลาดจีน เนื่องจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของฮอลลีวูดในจีนลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ เผยว่า รายได้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดในจีนลดลงตั้งแต่ช่วงโควิด และผู้ชมชาวจีนหันไปสนับสนุนคอนเทนต์ในประเทศมากกว่าคอนเทนต์อเมริกัน
ตอนนี้ฮอลลีวูดยังไม่สามารถสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมในจีนจนทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านหยวน เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันแล้ว และรายได้จาก บ็อกซ์ออฟฟิศทั้งหมดในจีนก็ลดลงจาก 21,040 ล้านหยวน ในปี 2561 เหลือเพียง 5,810 ล้านหยวนในปี 2567
อย่างไรก็ดี นิตยสารวาไรตี (Variety) ระบุว่า รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในสหรัฐปี 2568 เริ่มฟื้นตัวจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน แต่ฮอลลีวูดยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคอีกหลายอย่าง
📌 ‘ภาษี’ ตัวช่วยหรือความเสี่ยง?
บีบีซี ระบุว่า ภาษีอาจเป็นแรงจูงใจให้บริษัทภาพยนตร์ในสหรัฐสร้างภาพยนตร์ในประเทศมากขึ้น แต่ความเสี่ยงคือ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการไปถ่ายทำในต่างประเทศ และภาพยนตร์บางเรื่องอาจต้องยกเลิกแผนสร้าง และแม้มาตรการจูงใจหรือมาตรการลดหย่อนต่างๆ อาจช่วยชดเชยปัญหาด้านต้นทุนได้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่ารัฐบาลสหรัฐจะหารือเรื่องนี้อย่างจริงจังในระดับประเทศหรือไม่
อีริก เดกแกนส์ นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากเอ็นพีอาร์ เรดิโอ เตือนว่า หากมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์มากขึ้น และว่า ประเทศอื่นๆ อาจโต้กลับด้วยการเรียกเก็บภาษีจากภาพยนตร์อเมริกัน ซึ่งอาจส่งผลให้ภาพยนตร์ของสหรัฐสร้างกำไรในต่างประเทศได้ยากลำบาก
1
ลอสแอนเจลิสไทม์ส เผยว่า ผู้ประกอบการในธุรกิจสื่อภาพยนตร์หลายคนมองว่าภาษีอาจทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ล่มสลายเร็วขึ้น มากกว่าจะช่วยปกป้องอุตสาหกรรม เนื่องจากต้นทุนการผลิตอาจสูงขึ้น
นิก วียาส ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการสถาบันห่วงโซ่อุปทานโลก แรนดอลล์ อาร์. เคนดริก มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ภาษีสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากในอุตสาหกรรม
“นี่คือ อุตสาหกรรมเดียวที่เราสร้างความได้เปรียบได้มหาศาล” วียาส กล่าว
ตามข้อมูลจากสมาคมภาพยนตร์ สหรัฐเกินดุลการค้า 15,300 ล้านดอลลาร์ จากการส่งออกสินค้าด้านความบันเทิง
📌 ต่างชาติกังวล ‘อุตสาหกรรมหนังซบเซา’
แน่นอนว่าสหรัฐเรียกเก็บภาษีภาพยนตร์ต่างชาติ 100% อาจทำให้บริษัทผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศมีต้นทุนสูงขึ้นเมื่อต้องการจำหน่ายคอนเทนต์ในตลาดสหรัฐ
ฟิลิปปา ชิลด์ส หัวหน้าสหภาพแรงงานสื่อ และบันเทิงเบ็กทู (Bectu) ในอังกฤษ มองว่า การที่ภาษีภาพยนตร์ของสหรัฐมีขึ้นหลังวิกฤติโควิด-19 และมีขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมซบเซา อาจยิ่งซ้ำเติมอุตสาหกรรมที่กำลังฟื้นตัว และสร้างความกังวลต่อผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ที่มีทักษะหลายหมื่นคนในอังกฤษด้วย
อังกฤษถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดภาพยนตร์โลกร่วมกับสหรัฐ หรือเรียกได้ว่าเป็น “ฮอลลีวูดแห่งยุโรป” ซึ่งเดม แคโรไลน์ ไดเนเนจ ประธานคณะกรรมการวัฒนธรรม สื่อ และกีฬาของรัฐบาลอังกฤษ บอกว่า การที่สหรัฐลงทุนในอุตสาหกรรมสื่อของอังกฤษนั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีต่อทั้งอังกฤษ และสหรัฐเอง
ด้าน เคิร์สตี เบลล์ ซีอีโอโกลด์ฟินช์ บริษัทผลิตสื่อของอังกฤษ เตือนว่า หากภาพยนตร์สหรัฐไม่ผลิตหรือถ่ายทำในอังกฤษ อาจทำให้กลุ่มอาชีพฟรีแลนซ์ต้องไร้งาน
ขณะที่รัฐบาลของออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ออกมากล่าวสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของตนอย่างแข็งขัน หลังมีข่าวสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีภาพยนตร์ต่างชาติ
อ้างอิง:
-
https://www.bbc.com/news/articles/cwy04kjwk09o
-
https://tinyurl.com/4x4nb8kt
-
https://tinyurl.com/rkwwtya7
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย