Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Shoper Gamer
•
ติดตาม
11 พ.ค. เวลา 09:48 • การศึกษา
ต้องใช้ภาษา/เฟรมเวิร์กยอดนิยมในโปรเจกต์หรือไม่?
โดย
คำถามคลาสสิกของนักพัฒนาที่กำลังเตรียมพอร์ตโฟลิโอ: "จำเป็นไหมที่ต้องสร้างโปรเจกต์ด้วยเทคโนโลยียอดนิยม หรือใช้แค่สิ่งที่เราถนัดก็พอ?" บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเผยสูตรเด็ดในการเลือกเทคโนโลยีสำหรับโปรเจกต์ให้โดนใจนายจ้าง
★
1) ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีที่ถนัด
☆ 1.1 แสดงความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
- โค้ดมีคุณภาพสูงกว่า เพราะรู้ลึกถึง Best Practices
- สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้างผลงานที่เสร็จสมบูรณ์จริง
☆ 1.2 เหมาะกับตำแหน่ง Specialist
- ตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น:
- Python Data Engineer
- Embedded Systems Developer
- Game Developer (Unity/C++)
☆ 1.3 กรณีศึกษาจริง
ตัวอย่าง: นักพัฒนาที่ได้งานด้วยโปรเจกต์ Perl ล้วน เพราะบริษัทต้องการผู้เชี่ยวชาญ Perl โดยเฉพาะ
★
2) ข้อดีของการใช้เทคโนโลยียอดนิยม
☆ 2.1 เพิ่มโอกาสได้สัมภาษณ์
- 83% ของประกาศงาน Developer ระบุต้องการ React, Node.js, Python (ข้อมูลจาก Stack Overflow 2023)
- Recruiter มักค้นหาผู้สมัครด้วยคีย์เวิร์ดเทคโนโลยี
☆ 2.2 แสดงความสามารถในการเรียนรู้
- นายจ้างมองว่าคนที่เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้คือผู้ที่ Adapt ได้ดี
☆ 2.3 เหมาะกับตำแหน่ง Generalist
- ตำแหน่งที่ต้องการความหลากหลาย เช่น:
- Full-stack Developer
- Startup Engineer
- Freelance Developer
★
3) สูตรทองคำ 80/20 Rule
☆ 3.1) 80% ของโปรเจกต์: ใช้สิ่งที่ถนัด
- สร้างโปรเจกต์หลักที่แสดงความเชี่ยวชาญ
- เน้นความลึก และ ความสมบูรณ์
☆ 3.2) 20% ของโปรเจกต์: เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่
- สร้างโปรเจกต์ขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยียอดนิยม
- แสดงว่าสามารถเรียนรู้ได้เร็ว
☆ ตัวอย่างโปรไฟล์ที่สมดุล
- โปรเจกต์หลัก 4 ชิ้น: ใช้ Go (ภาษาที่ถนัด)
- โปรเจกต์เสริม 1 ชิ้น: สร้างด้วย React (เรียนรู้เพิ่ม)
★
4) วิธีเลือกเทคโนโลยีสำหรับโปรเจกต์
☆ 4.1 วิเคราะห์ตลาดงานเป้าหมาย
- ค้นหาประกาศงานในบริษัท/อุตสาหกรรมที่สนใจ
- ตรวจสอบเทคโนโลยีที่ปรากฏบ่อยที่สุด
☆ 4.2 ประเมินระดับความเชี่ยวชาญ
○ Beginner เน้นเทคโนโลยีพื้นฐานก่อน
○ Intermediate ผสมระหว่างสิ่งที่ถนัด + เรียนรู้ใหม่
○ Expert แสดงความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
☆ 4.3 เทคนิคการนำเสนอในเรซูเม่
- หากใช้เทคโนโลยีไม่นิยม : เน้นที่ Transferable Skills
```
• พัฒนาระบบ X ด้วยภาษา Y (เน้นการออกแบบ Architecture, Optimization)
```
- หากใช้เทคโนโลยียอดนิยม: เน้นที่ Best Practices
```
• สร้าง Web App ด้วย React (ใช้ Redux, React Hooks, Unit Testing)
```
★
5) กรณีศึกษา ได้งานด้วยเทคโนโลยีที่ไม่นิยม
☆ 5.1 เงื่อนไขที่ทำได้
- บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีนั้นอยู่
- ตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะ
- มีการแสดงผลงานที่น่าสนใจ
☆ 5.2 ตัวอย่างจริง
- นักพัฒนา Elixir ได้งานในบริษัท FinTech เพราะมีโปรเจกต์แสดงให้เห็นการแก้ปัญหา Distributed Systems ได้ดี
★
6) 3 ขั้นตอนสำหรับเตรียมพอร์ตโฟลิโอ
1. สร้างโปรเจกต์หลัก ด้วยเทคโนโลยีที่ถนัด (แสดงความลึก)
2. มีโปรเจกต์เสริม ด้วยเทคโนโลยียอดนิยม (แสดงความสามารถในการเรียนรู้)
3. เน้นการแก้ปัญหา ใน Description โปรเจกต์ (ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ใช้)
✏️ Shoper Gamer
>>
https://linkbio.co/ShoperGamer
เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ จุดเด่นที่แท้จริงคือความสามารถในการแก้ปัญหา
-Shoper Gamer -
2
Credit :
👇
●
https://www.linkedin.com/advice/1/you-have-software-development-project-tackle-wui4c
●
https://www.geeksforgeeks.org/how-to-choose-a-programming-language-for-a-project/
●
https://www.linkedin.com/pulse/how-choose-right-programming-language-your-project-spec-india-2lq2f
เทคโนโลยี
blockditchallengeท้าปล่อยของ
ข่าวรอบโลก
บันทึก
1
4
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย