11 พ.ค. เวลา 15:00 • ธุรกิจ

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีผลบังคับใช้ 1 ตุลาคม 2568 - นายจ้าง

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นมาตรการใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกจ้างที่ออกจากงาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุเกษียณอายุ ลาออก หรือถูกเลิกจ้าง
เราจะวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของกองทุนดังกล่าวในมุมมองของนายจ้าง
ข้อดี (อ้างอิงจากหน่วยงานภาครัฐ)
1. เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรและการดึงดูดบุคลากร
2. เพิ่มความจงรักภักดีและลดอัตราการลาออก
3. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
4. การกระจายความเสี่ยงด้านค่าชดเชย
5. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ซึ่งหากมาพิจารณาคิดว่าสิ่งที่ถูกต้องน่าจะเป็นเพียงข้อ 3 เนื่องจากเป็นกฏหมายบังคับ ดังนั้นทุกบริษัทฯก็จะเหมือนๆกัน ดังนั้นเรื่องแรงจูงใจในการทำงานกับนายจ้าง ยังไม่ตอบโจทย์
ข้อเสีย
1. ภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น - เพราะต้องจ่ายในส่วนของนายจ้างด้วย
2. ภาระงานด้านการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น- มีการหักเงินพนักงานและเรื่องนำส่งก็เพิ่มงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง
3. ความไม่ยืดหยุ่นในการบริหารต้นทุน เนื่องจากเงินที่หักนำส่งไปแล้วเอาออกมาให้ไม่ได้
4. ความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการที่มีอยู่ บางบริษัทฯมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นภาคสมัครใจ คนที่ไม่เข้าของบริษัทฯ จะต้องมาเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแทน
นายจ้างควรเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการวางแผนการเงินล่วงหน้า ปรับโครงสร้างสวัสดิการ ปรับปรุงระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล สื่อสารกับพนักงานอย่างชัดเจน และใช้ประโยชน์จากสิทธิทางภาษีอย่างเต็มที่ การเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบจะช่วยให้นายจ้างสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างราบรื่นและได้รับประโยชน์สูงสุดจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
ในครั้งถัดไปจะมาเล่าว่าในส่วนของลูกจ้าง มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
โฆษณา