🧼🦠 เครื่องซักผ้าอาจไม่ได้ซักสะอาดอย่างที่คิด ความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้ผงซักฟอก
ใครจะไปคิดว่าเสื้อผ้าที่เราซักด้วยเครื่องซักผ้าที่อุณหภูมิสูงถึง 60°C (140°F) จะยังคงมี “แบคทีเรียอันตราย” หลบซ่อนอยู่?
งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า แม้จะซักผ้าที่อุณหภูมิสูงร่วมกับผงซักฟอก แต่อาจยังไม่เพียงพอในการกำจัดเชื้อจุลชีพบางชนิดออกไปได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในรอบการซักแบบด่วน (Rapid Cycle) ที่ใช้เวลาและพลังงานน้อยลง
🔬 งานวิจัยที่เปลี่ยนมุมมองเรื่อง “ความสะอาด”
ศาสตราจารย์ Katie Laird จากมหาวิทยาลัย De Montfort University ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ปัญหาคือเรา “ไม่รู้จริง ๆ ว่าเครื่องซักผ้ากำลังทำอะไรอยู่” แม้จะตั้งค่าอุณหภูมิไว้ที่ 60°C แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าเครื่องจะ “ร้อนถึง” หรือ “คงอุณหภูมิ” ดังกล่าวได้ตลอดการซัก
เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยนี้ ทีมของเธอได้ทำการทดสอบกับเครื่องซักผ้า 6 รุ่นที่ใช้งานทั่วไปในบ้าน โดยใช้ผ้าทดลองที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย Enterococcus faecium ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ในมนุษย์
ผลลัพธ์ชวนตกใจ…
- ●ครึ่งหนึ่งของเครื่องที่ใช้ “รอบด่วน” ไม่สามารถลดจำนวนแบคทีเรียได้ถึง 90% ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำที่ถือว่า “ผ่านมาตรฐานการฆ่าเชื้อ”
- ●แต่แม้แต่รอบปกติ (Standard Cycle) ก็ยังมีหนึ่งในสามของเครื่องที่ไม่สามารถลดจำนวนแบคทีเรียได้
นั่นหมายความว่า…เสื้อผ้าที่เราคิดว่าสะอาดแล้ว อาจยังเต็มไปด้วยจุลชีพที่มองไม่เห็น!
🌡️ เมื่อเครื่องซักผ้า “แค่แสดงผล” ว่าร้อน
เหตุผลหนึ่งที่เครื่องไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ดี คือเครื่องซักผ้าหลายรุ่น “ไม่สามารถทำความร้อนได้จริง” หรือแม้กระทั่ง “ไม่เคยร้อนถึง” อุณหภูมิที่ผู้ใช้ตั้งไว้
ในเครื่องหนึ่ง ทีมวิจัยพบว่าอุณหภูมิจริงอยู่เพียงแค่ 20°C (68°F) ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับระดับที่ฆ่าเชื้อได้เลย!
🧪 DNA ไม่โกหก: แบคทีเรียเริ่มพัฒนาตัวเอง
ทีมวิจัยยังพบหลักฐานที่น่ากังวลว่า “แบคทีเรียบางชนิดเริ่มพัฒนาความต้านทานต่อผงซักฟอก” หลังการตรวจสอบดีเอ็นเอก่อนและหลังการซักหลายครั้ง
แบคทีเรียเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะวิวัฒนาการกลไกการป้องกันตัวเอง และอาจกลายเป็น “ซูเปอร์แบคทีเรีย” ที่อยู่รอดแม้ในสภาวะที่ควรฆ่ามันได้!
🏥 ผลกระทบต่อเครื่องแบบบุคลากรทางการแพทย์
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาในบ้าน แต่ขยายไปถึงวงการสาธารณสุขด้วย
ศาสตราจารย์ Laird ระบุว่า การซักเครื่องแบบของบุคลากรทางการแพทย์ที่บ้าน อาจเป็น “ปัจจัยเสริม” ที่ทำให้เชื้อโรคในโรงพยาบาลแพร่กระจาย และเร่งให้เกิดการดื้อยาของเชื้อจุลชีพ ทั้งที่ NHS (ระบบดูแลรักษาสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ) แนะนำให้ซักเครื่องแบบที่ 60°C เป็นเวลา 10 นาทีขึ้นไป เพื่อลดจุลชีพให้เหลือน้อยที่สุด แต่ถ้าเครื่องที่ใช้อยู่ไม่ได้ร้อนจริง คำแนะนำนี้ก็อาจใช้ไม่ได้ผลในทางปฏิบัติ
🧯 วิธีลดเชื้อในเครื่องซักผ้า
เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียในเครื่องซักผ้า ศาสตราจารย์ Laird แนะนำแนวทางดังนี้:
- 1.ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับเครื่องซักผ้าเป็นประจำ
- 2.เปิดโปรแกรมล้างถังที่อุณหภูมิ 90°C (194°F) บ้างเป็นครั้งคราว
- 3.ใช้น้ำยาขจัดคราบหินปูน (Descaler) เพื่อไม่ให้หินปูนเกาะขดลวดความร้อน ซึ่งจะทำให้ระบบทำความร้อนไม่ทำงาน
แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดการสะสมของแบคทีเรีย และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากเสื้อผ้า “ที่คิดว่าสะอาดแล้ว”
🧠 เสื้อผ้าที่คุณใส่...สะอาดพอหรือยัง?
เราชินกับกลิ่นหอมของผ้าที่เพิ่งซัก แต่ลืมตั้งคำถามถึงสิ่งที่ตามมาด้วย กลิ่นหอมอาจเป็น “ภาพลวงตา” ที่ซ่อนเชื้อจุลชีพไว้ข้างใน บางที...ความสะอาดที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ที่กลิ่น หรืออุณหภูมิบนหน้าจอเครื่องซักผ้า แต่อยู่ที่ “ความเข้าใจในระบบที่ใช้อยู่”
📌 สรุปสั้น ๆ
✅ การซักผ้าที่อุณหภูมิ 60°C อาจไม่สามารถฆ่าเชื้อได้จริง หากเครื่องไม่ได้ร้อนถึงหรือคงอุณหภูมิได้นานพอ
✅ การซักแบบด่วน (Rapid Cycle) ล้มเหลวในการลดแบคทีเรียถึง 90% ในหลายเครื่อง
✅ เครื่องซักผ้าบางรุ่นอาจทำความร้อนไม่ถึงแม้จะตั้งไว้ 60°C
✅ แบคทีเรียในเครื่องซักผ้ามีแนวโน้มพัฒนาให้ต้านทานต่อผงซักฟอก
✅ การซักเครื่องแบบทางการแพทย์ที่บ้าน อาจเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล
✅ ควรล้างถังซักผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและล้างที่อุณหภูมิ 90°C เป็นระยะ
🔎 แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
