16 พ.ค. เวลา 01:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🧊 นักวิทย์พบไมโครพลาสติกในทุกชั้นของมหาสมุทร ภัยเงียบที่อาจเปลี่ยนสมดุลโลก

มหาสมุทร — พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่ครอบคลุมพื้นที่กว่าสองในสามของผิวโลก — กำลังกลายเป็น “หลุมดำของพลาสติก” อย่างเงียบเชียบ ผลสำรวจเกี่ยวกับไมโครพลาสติกได้เผยข้อมูลสุดสะเทือนใจว่า ไมโครพลาสติกถูกตรวจพบ "แทบทุกระดับความลึก" ในมหาสมุทร ตั้งแต่ผิวน้ำจนถึงหุบเหวใต้ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก การค้นพบนี้ไม่เพียงสะท้อนปัญหามลพิษที่สะสมมาอย่างยาวนานเกินควบคุม แต่ยังส่งสัญญาณเตือนถึงผลกระทบที่อาจเปลี่ยนกลไกสำคัญของระบบนิเวศโลก — อย่างความสามารถของมหาสมุทรในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ
🧪 พลาสติกอยู่ในทุกที่ แม้แต่ในความลึกกว่า 7 กิโลเมตร
ดร. Tracy Mincer แห่งมหาวิทยาลัย Florida Atlantic University ในประเทศสหรัฐฯ และคณะนักวิจัย ได้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการวัดปริมาณไมโครพลาสติกในมหาสมุทรจากเกือบ 2,000 จุดทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สิ่งที่น่าตกใจคือ มีการตรวจพบไมโครพลาสติกแทบทุกที่ที่มนุษย์เคยสำรวจ ตั้งแต่บริเวณผิวน้ำในมหาสมุทร ไปจนถึง “ร่องลึกมาเรียนา” (Mariana Trench) ซึ่งเป็นจุดลึกที่สุดในมหาสมุทร ที่ระดับความลึกประมาณ 7 กิโลเมตร พบว่าในน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร มีไมโครพลาสติกมากกว่า 13,000 ชิ้น
ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ “จำนวน” เท่านั้น แต่ยังสะท้อนการกระจายตัวของพลาสติกที่ไม่ธรรมดา เพราะไมโครพลาสติกขนาดเล็กสุด กลับกระจายตัวอย่าง "สม่ำเสมอ" ไปทั่วทุกระดับ — ตั้งแต่ผิวน้ำยันก้นทะเล
"เราเคยคาดว่าจะเจอพลาสติกที่ก้นทะเล และบนผิวน้ำ แต่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ทุกระดับ" ดร. Aron Stubbins นักสมุทรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Northeastern University ในประเทศสหรัฐฯ กล่าวอย่างน่าตกใจ
📉 เมื่อพลาสติกกลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘คาร์บอนในมหาสมุทร’
สิ่งที่นักวิจัยค้นพบเพิ่มเติม คือ พลาสติกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขยะลอยล่องในน้ำ หากแต่ “พอลิเมอร์ในไมโครพลาสติก” กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของอนุภาคคาร์บอนที่ล่องลอยในน้ำ
ในระดับความลึกถึง 2,000 เมตร ซึ่งโดยปกติจะมีการเคลื่อนไหวทางชีวภาพน้อยกว่าบริเวณใกล้ผิวน้ำ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ไมโครพลาสติกคิดเป็นสัดส่วนได้ถึง 5% ของคาร์บอนทั้งหมดที่พบในบริเวณนั้น
ตัวเลขนี้หมายถึงอะไร?
มันหมายความว่า "ขยะพลาสติก" กำลังเข้าไปแทนที่บทบาทของคาร์บอนอินทรีย์ที่มาจากสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ — ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศโลก
🐠 แพลงก์ตอน กับเมนู ‘พลาสติก’ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
หนึ่งในความกังวลที่ใหญ่ที่สุดคือ พลาสติกที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรกำลังถูกแพลงก์ตอนกินเข้าไปแทนอาหารตามธรรมชาติ
โดยปกติ แพลงก์ตอนจะมีบทบาทสำคัญในการนำคาร์บอนลงสู่ก้นทะเล ผ่านกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น การขับถ่ายหรือการตายของแพลงก์ตอนเอง ซึ่งคาร์บอนที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะถูกพาไปฝังไว้ที่พื้นมหาสมุทร — กระบวนการนี้เรียกว่า “Biological Carbon Pump”
แต่หากแพลงก์ตอนกินพลาสติกเข้าไปแทน คาร์บอนที่ควรถูกฝังลึกใต้ทะเลจะไม่ถูกพาไปตามกระบวนการดังกล่าวอีกต่อไป อาจกลายเป็นการทำลาย “กลไกดูดซับคาร์บอน” ของมหาสมุทรโดยตรง
🌐 มหาสมุทรในฐานะ ‘ลมหายใจของโลก’ กำลังถูกปิดกั้น
แม้ว่าปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบเชิงระบบได้อย่างชัดเจน แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้กำลังท้าทายสมดุลของวงจรคาร์บอนโดยตรง
หากกระบวนการ Biological Carbon Pump ถูกทำลาย หรือชะลอลง จะมีคาร์บอนจำนวนมากขึ้นล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ นำไปสู่ภาวะโลกร้อนที่รวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น
การวิจัยในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของคำถามใหญ่อีกมากมาย เช่น
  • ไมโครพลาสติกส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในระยะยาวอย่างไร?
  • สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลตอบสนองต่อสารแปลกปลอมนี้ในระดับโมเลกุลอย่างไร?
  • เราจะสามารถดึงพลาสติกออกจากน้ำในมหาสมุทรได้หรือไม่?
ข้อเท็จจริงสำคัญที่ต้องรับรู้ คือ ไมโครพลาสติกไม่ได้หยุดอยู่แค่ผิวทะเลอีกต่อไป มันแทรกซึมลึกลงไปในเส้นเลือดของโลก — แทรกเข้าไปในกลไกที่เคยควบคุมภูมิอากาศอย่างสมดุลมานานนับล้านปี
📌 สรุปสั้น ๆ
✅ ไมโครพลาสติกถูกพบในทุกระดับความลึกของมหาสมุทร รวมถึงจุดลึกที่สุดในโลก
✅ อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กกระจายอย่างสม่ำเสมอทั่วทุกชั้นน้ำ
✅ พลาสติกกลายเป็นส่วนหนึ่งของคาร์บอนในมหาสมุทร คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 5% ในบางระดับ
✅ พลาสติกที่แพลงก์ตอนกินเข้าไปอาจลดความสามารถของมหาสมุทรในการดูดซับคาร์บอนจากบรรยากาศ
✅ ผลกระทบต่อระบบนิเวศและภูมิอากาศโลกยังไม่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มอันตรายอย่างยิ่ง
🔎 แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
โฆษณา