12 พ.ค. เวลา 05:48 • ข่าวรอบโลก

📰 ตลาดหุ้นทั่วโลกและค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น จากความหวังในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

🌐 World stocks, dollar up on US-China trade hope
📈 สรุปเนื้อหาแบบเข้าใจง่าย
💼 ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปลอดภัย หลังมีสัญญาณบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งหลายฝ่ายหวังว่าจะช่วยเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้
🤝 เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้ง 2 ประเทศต่างกล่าวในทำนองเดียวกันว่า มี “ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” และบรรลุ “ฉันทามติที่สำคัญ” โดยเตรียมตั้งเวทีเจรจาเศรษฐกิจรอบใหม่ แม้ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนเรื่องภาษีนำเข้า
🗣️ Michael Brown จาก Pepperstone ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือกรอบเบื้องต้นของการเจรจาระยะยาว ซึ่งยังไม่มีผลลัพธ์จริงในเรื่องการลดหรือยกเลิกภาษี
🇺🇸 นักลงทุนจับตาว่าทำเนียบขาวจะลดภาษีสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 60% ตามที่ทรัมป์เคยประกาศหรือไม่ แม้ทรัมป์ยังคงยึดแนวคิดภาษีกว้างอยู่ก็ตาม
🌍 ตลาดการเงินโลกตอบรับทันที
📊 ดัชนีล่วงหน้าหลายแห่งบวกแรง:
S&P 500 +1.2%, Nasdaq +1.4%, EUROSTOXX 50 +0.9%, FTSE +0.4%, DAX +0.7%
🇯🇵 ญี่ปุ่น +0.3%, 🇰🇷 เกาหลีใต้ +0.4%
💵 ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน (+0.4% ที่ 145.90), ค่าเงินหยวนทะลักลงเล็กน้อยที่ 7.2278
📉 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 100.60
💶 ยูโรอ่อนค่าลง 0.2% ที่ $1.1224
📉 ผลกระทบจากภาษียังต้องจับตา
📦 ราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายนของสหรัฐฯ ที่จะประกาศสัปดาห์นี้ อาจสะท้อนผลของภาษีนำเข้า
🛒 ยอดขายปลีกของสหรัฐฯ คาดว่าจะทรงตัว หลังพุ่งขึ้นก่อนการขึ้นภาษีในเดือนมีนาคม
🏬 Walmart เตรียมรายงานผลประกอบการ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าของจีนในชั้นวางกำลังจะหายไปหรือไม่
📉 นักวิเคราะห์จาก ANZ คาดว่าอิทธิพลของภาษีต่อเงินเฟ้อน่าจะปรากฏชัดในข้อมูล CPI เดือนพฤษภาคม ไม่ใช่เดือนมิถุนายน และเฟดน่าจะรอถึงไตรมาส 3 (อาจเป็นกันยายน) ก่อนจะพิจารณาลดดอกเบี้ย
🪙 ตลาดทองคำและน้ำมันเคลื่อนไหวสวนทาง
🥇 ความเสี่ยงลดลง ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำ ราคาลดลง 1.7% เหลือ $3,268/ออนซ์ (จากจุดสูงสุด $3,500)
🛢️ น้ำมันขยับขึ้น: Brent +$0.23 ที่ $64.14, WTI +$0.25 ที่ $61.27/บาร์เรล
แม้ OPEC+ เตรียมเพิ่มการผลิต แต่ตลาดยังเชื่อมั่นว่าหากการค้าฟื้น เศรษฐกิจจะไม่ถดถอยหนัก
🇹🇭 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในไทย
📌 หากสหรัฐฯ-จีนบรรลุข้อตกลง แม้เพียงบางส่วน อาจช่วยกระตุ้นการส่งออกจากไทยผ่าน supply chain และคลายความกังวลเรื่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์
📦 ค่าเงินบาทอาจผันผวนต่อเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ทำให้กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนเช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หรือส่งออกอาจกลับมาเด่นขึ้น
📉 กลุ่มที่เคยรับผลจากการเก็บภาษีสินค้าจีน เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ supply chain ของจีน อาจได้แรงหนุนหากมีการลดภาษี
📊 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่อาจได้รับผลกระทบ
🔹 HANA, KCE, DELTA — บริษัทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มี supply chain เชื่อมโยงกับจีนและสหรัฐฯ อาจได้อานิสงส์จากการลดความตึงเครียดทางการค้า
🔹 CPF, TU, STA — กลุ่มส่งออกอาหารและยาง หากค่าเงินบาทอ่อนตามทิศทางดอลลาร์แข็ง จะได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา
🔹 WICE, SONIC — กลุ่มโลจิสติกส์ที่มีฐานการขนส่งระหว่างประเทศ อาจเห็นปริมาณงานเพิ่มขึ้น หากการค้าระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัว
🔹 PTTGC, IVL — ผู้ผลิตปิโตรเคมี หากความตึงเครียดคลี่คลาย ความต้องการสินค้าขั้นกลางและน้ำมันดิบอาจฟื้นตัวตามภาคอุตสาหกรรม
🔖 Hashtags:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #USChinaTrade #หุ้นโลก #เงินเฟ้อ #WorldScope #เศรษฐกิจโลก #ตลาดหุ้น #ดอลลาร์แข็งค่า
📌 Reference: Narromine News Online

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา