ไทยกระทบอย่างไร เมื่อทรัมป์ดำเนินนโยบายราคายาใหม่
จากการโพสต์ของโดนอลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวว่าจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร มีผลให้ราคายาตามใบสั่งแพทย์และเภสัชภัณฑ์จะลดลงเกือบทันที ประมาณ 30% ถึง 80%
ทำให้มีหลายฝ่ายคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของยาทั่วโลก
คาดการณ์ผลกระทบหลังการปรับเปลี่ยนราคา
1. แรงเสียดทานภายในประเทศ
การต่อต้านจากบริษัทยาและเภสัชภัณฑ์ขนาดใหญ่ เนื่องจากนโยบายนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และผลกำไรของพวกเขา ซึ่งเป็นผู้ที่คิดค้นพัฒนายาต่างๆออกมา การทำให้ราคายาถูกลงจะทำให้บริษัทขาดแรงจูงใจในการผลิต วิจัย พัฒนา ทำให้อุสาหกรรมยาของสหรัฐอเมริกาในระยะยาวซบเซาลง ราคาหุ้นของบริษัทยาและเภสัชภัณฑ์อาจตกลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรในอนาคต
นอกจากนี้ อาจมีการท้าทายทางกฎหมายต่อคำสั่งฝ่ายบริหารนี้ โดยบริษัทยาอาจฟ้องร้องเพื่อระงับการบังคับใช้ โดยอ้างว่าเป็นการแทรกแซงกลไกตลาดเสรีมากเกินไป เนื่องจากชาวอเมริกาให้ความสำคัญกับแนวคิดเรื่องการค้าเสรี ที่ปราศจากการแทรกแซงจากรัฐบาล
2. ผลกระทบจากต่างประเทศ
ประเทศอื่นๆ อาจไม่พอใจกับการที่ราคายาในประเทศของพวกเขาอาจปรับตัวสูงขึ้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกับสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐไม่ต้องการให้มีพื้นที่ที่เป็นราคาอ้างอิง ซึ่งมีราคาถูกกว่าราคาขายจริงในสหรัฐ ซึ่งภาวะนี้อาจกระทบต่อการเข้าถึงยาและการรักษาในประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ อาจเกิดการเจรจาต่อรองครั้งใหญ่ระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับบริษัทยาและประเทศอื่นๆ เพื่อหาข้อตกลงที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
ไทยกระทบอย่างไรบ้าง?
หากบริษัทยายักษ์ใหญ่ลดราคายาในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักของพวกเขา บริษัทเหล่านี้อาจพยายาม ชดเชยรายได้จากตลาดอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทย โดยอาจลดส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์ที่เคยให้ และปรับราคายาขึ้นในประเทศที่ไม่มีมาตรการควบคุมราคาที่เข้มงวดเท่าสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ในตลาดที่ไม่ใช่ตลาดหลักอย่างประเทศไทย กำไรที่ลดลงอาจทำให้ศักยภาพการแข่งขันของบริษัทยาแต่ละบริษัทลดลง ทำให้ต้องเลือกทำตลาดที่
เป็นพื้นที่เป้าหมายมากขึ้น ทำให้ประเทศไทยที่พึ่งพาการนำเข้ายานำเข้า โดยเฉพาะยานวัตกรรม อาจได้รับผลกระทบหากบริษัทชะลอการส่งออก กระทบการเข้าถึงยานวัตกรรม ยามุ่งเป้าที่มีประสิทธิภาพสูงและผลข้างเคียงต่ำ ในประเทศกำลังพัฒนา
ในวิกฤตยังมีโอกาส
หากราคายาในสหรัฐฯ ลดลงจริงตามที่ประกาศ ราคาตลาดโลกอาจถูกปรับตาม ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้ประเทศไทยเข้าถึงยาต้นแบบในราคาที่ต่ำลง และยังอาจมีผลต่อท่าทีของสหรัฐฯ ต่อการคุ้มครองสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญา (TRIPS, TRIPS-plus) หากไทยใช้โอกาสนี้ในการเป็นแหล่งผลิตยามีประสิทธิภาพที่ราคาเหมาะสม ส่งออกในพื้นที่ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับนโยบายราคายาของสหรัฐฯได้ ก็จะเป็โอกาสทางเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากประเทศไทยเข้าร่วมมาตรฐาน GMP/PICS ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยาของสมาชิกสหภาพยุโรปอยู่แล้ว
ผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจได้รับประโยชน์ในระยะสั้นจากราคายาที่ลดลง แต่อาจมีผลกระทบระยะยาวต่อการวิจัยและพัฒนายาใหม่ๆ หากบริษัทยาปรับลดงบประมาณด้านนี้ลง นโยบายนี้มีความซับซ้อนและอาจส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดของนโยบายและการตอบสนองจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ไทยควรศึกษาอย่างถี่ถ้วนและติดตามเตรียมพร้อม เพื่อลดผลกระทบและมองหาโอกาสในตลาดที่ผันผวน
อ้างอิง
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
