ใหญ่กว่า ดีกว่า รวดเร็วกว่า.
เท่าที่ผ่านมา สหรัฐ จีน รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ เรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานใช้ความยับยั้งชั่งใจ เพราะสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของปากีสถาน
แล้ว...เหตุใดความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานจึงยากที่จะแก้ไขมานานกว่า 70 ปี?
มีรายงานออนไลน์ว่ามีซากขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ของจีนกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่โฮชิอาร์ปุระ
หมายเลขซีเรียลและช่องที่ระบุว่า "สำหรับการทดสอบ" มองเห็นได้ชัดเจนบนซากปรักหักพัง
รูปภาพดังกล่าวถูกแชร์ว่อนเน็ตหลังจากที่กองทัพอินเดียเปิดฉากโจมตีทางอากาศในเขตแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน จนมีผู้เสียชีวิต
เมื่อวันพุธ การโจมตีทางอากาศครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 38 ราย
และปากีสถานยังอ้างว่าได้ยิงเครื่องบินทหารอินเดียตก 5 ลำอีกด้วย
เหตุการณ์นี้ กองทัพปากีสถาน ใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่สร้างโดยจีนที่มีความเหนือกว่าเครื่องบินขับไล่ของอินเดีย รัสเซีย และฝรั่งเศส
และยังเป็น “มาตรฐานที่น่าเชื่อถือในการวัดความแข็งแกร่งทางทหาร(ของจีน)ในระดับโลก” อีกด้วย
ตกลง...ความขัดแย้งอินเดีย-ปากีสถาน จะกลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างอาวุธของจีนและชาติตะวันตกหรือไม่?
อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และปัจจุบันเป็นนักวิจัยอาวุโสที่ Observer Research Foundation ชี้ให้เห็นว่า
ความขัดแย้งในอนาคตระหว่างอินเดียและปากีสถานจะคล้ายคลึงกับการที่อินเดียใช้อาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ และยุโรป
เพื่อต่อสู้กับอาวุธจีนที่ปากีสถานใช้มากขึ้น
เครื่องบินรบ J-10 เป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 4 ที่พัฒนาโดย Chengdu Aircraft Industry Group และประจำการอยู่ในกองทัพอากาศจีนมาตั้งแต่ปี 2546
และ ปากีสถานเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่นำเครื่องบินรบรุ่นนี้มาใช้จนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในปี 2563 ประเทศไทยเองก็ได้สั่งซื้อเครื่องบิน J-10CE จำนวน 36 ลำ และซื้อขีปนาวุธ PL-15E จำนวน 250 ลูก
และเครื่องบินชุดแรกจำนวน 6 ลำ ถูกส่งมอบไปแล้วในปี 2565 นะครับ
ในปัจจุบันกองทัพปากีสถานก็มีเครื่องบินประเภทนี้ประจำการอยู่ถึง 20 ลำ
จนบางคนถึงกับล้อเล่นว่า “ปากีสถาน และไทยเราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่จีนต้องการทำมาโดยตลอดแต่ไม่เคยมีโอกาส” ฮาาาาา.
สิ่งที่แน่นอนคือ ปากีสถานได้นำอาวุธที่ผลิตในจีนมาใช้ในครั้งนี้ ความสำเร็จใดๆ ที่ปากีสถานได้รับจากความขัดแย้งครั้งนี้
ไม่เพียงแต่มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ต่อปากีสถานเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างที่หายากสำหรับอุตสาหกรรมการทหารของจีนอีกด้วย
แม้ว่าจะดูคึกคักแต่ยังต้องดูกันต่อไปว่าคำกล่าวต่างๆ และภาพถ่ายสาธารณะบนอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นจริงหรือเท็จกันแน่
โดยเฉพาะในขณะที่สถานการณ์สนามรบตึงเครียดและข้อมูลต่างๆ แพร่กระจายไปทั่ว
แต่อย่าลืมว่า สงครามข้อมูลอย่างมีจุดมุ่งหมายและการบิดเบือนความคิดเห็นของสาธารณะโดยทุกฝ่าย และมักทำให้ข่าวจริงและข่าวเท็จพัวพันกันและยากต่อการจัดเรียง
เมื่อพิจารณาจากภูมิหลังนี้ อาจเข้าใจได้ว่าทำไม ชาวจีนจึงมองว่าความขัดแย้งอินเดีย-ปากีสถานรอบนี้เป็น
"การแสดงสด" ของการแข่งขันด้านอาวุธระหว่างจีนและชาติตะวันตก
อย่างไรก็ตาม เมื่อจะโปรโมตอาวุธของตัวเองและแม้กระทั่งออก "คำประกาศชัยชนะ" ล่วงหน้า
พวกเขาควรจำไว้ว่าทั้งสองประเทศที่กำลังจะเกิดสงครามนั้น
เป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ควรตื่นเต้นจนเกินไปนัก(หัดเป็นห่วงพวกตูมั่ง)
และหลังจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่มีผู้เสียชีวิตในแคชเมียร์
ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอินเดียได้จุดชนวนความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานที่ดำเนินมานานกว่า 70 ปี
ให้กลับมาปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ในการต่อสู้รอบใหม่ระหว่างศัตรูเก่าทั้งสองนี้ อุปกรณ์ทางทหารของจีนก็ดูสะดุดตาผมมากเป็นพิเศษจริงๆ.
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
