Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
12 พ.ค. เวลา 07:41 • ความคิดเห็น
เก่งคนเดียว...ไปได้ไม่ไกล? ถอดรหัส 'ความเก่งที่แท้จริง' ของผู้บริหารยุคใหม่ 🚀🤝💡
“ผู้นำยุคใหม่ ไม่ใช่คนที่รู้ทุกคำตอบ แต่คือคนที่สร้างพื้นที่ให้ทีมช่วยกันหาคำตอบที่ดีที่สุดร่วมกัน”
ทุกวันนี้ความเก่งส่วนตัวของผู้บริหารไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว สำหรับการบริหารความผันผวนของธุรกิจ คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ “คุณเก่งแค่ไหน?” แต่คือ
“คุณทำให้ทีมคุณเก่งขึ้นได้หรือเปล่า?”
บทความนี้จะพาไปถอดรหัสว่า “ภาวะผู้นำแบบเดี่ยว” อาจไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จอีกต่อไป และ “การดึงศักยภาพคนอื่น” ต่างหากคือทักษะที่แท้จริงของผู้บริหารยุคใหม่ พร้อมตัวอย่างจริง Framework ใช้ได้จริง และคำถามชวนคิดสำหรับผู้อ่านที่อยากเป็นผู้นำที่ก้าวหน้าและยั่งยืน
====
🚫 กับดักของ “คนเก่งมาก” ที่อาจไม่รู้ตัว
หลายองค์กรมีผู้บริหารที่มีโปรไฟล์ยอดเยี่ยม แต่ผลงานของทีมกลับไม่พุ่งตาม บางคนทำเองหมดเพราะ “มั่นใจว่าเร็วกว่า ชัวร์กว่า” หรือ “ไม่อยากเสียเวลารอใคร” โดยไม่รู้ว่ากำลังปิดกั้นศักยภาพคนรอบข้าง
ตัวอย่างเช่น
* Product Manager ที่เขียนสเปกเองทุกบรรทัด เพราะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจบริบทของลูกค้าได้เท่าตัวเอง จึงไม่กล้าปล่อยงานให้ทีม ทั้งที่จริงแล้วการอธิบายบริบทให้ทีมเข้าใจ อาจช่วยสร้างแนวคิดใหม่ๆ ได้มากกว่า
* CEO ที่ตัดสินใจเองแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่งบลงทุนหลักร้อยล้าน ไปจนถึงรายละเอียดในแคมเปญ เพราะคิดว่าทีมยังไม่พร้อมจะตัดสินใจ ทั้งที่ไม่เคยให้อิสระในการลอง และไม่เคยสื่อสารความคาดหวังให้ชัด
* หัวหน้าทีมที่เก็บงานพรีเซนต์ใหญ่ไว้กับตัวเองตลอด เพราะกลัวลูกน้องจะพลาดและทำให้ดูไม่มืออาชีพ จนทีมไม่เคยได้ฝึกฝนและไม่มั่นใจจะเติบโตต่อไปเป็นผู้นำเองได้
* Director ที่ไม่เคยให้ Feedback เชิงพัฒนา เอาแต่ตั้งคำถาม หรือติว่าทีมไม่ดีพอ เพราะคิดว่า “ทีมควรรู้เอง” และ “งานพูดดีๆ คือการโอ๋เกินไป” จนคนในทีมไม่รู้ว่าต้องพัฒนาตรงไหน?
* ผู้จัดการที่ไม่กล้ามอบหมายงานใหญ่ เพราะคิดว่าลูกน้องยังไม่พร้อม ทั้งที่จริงแล้วไม่มีใครได้เก่งขึ้น ถ้าไม่เคยได้รับโอกาสทำงานที่ท้าทาย
“ผลลัพธ์คือองค์กรต้องรอคำตอบจากคนคนเดียวตลอดเวลา และทีมไม่เติบโต”
====
🌱 แท้จริงแล้ว...ความสำเร็จระดับองค์กร ต้องใช้ “พลังทีม”
ผู้บริหารระดับโลกหลายคนที่เปลี่ยนองค์กรได้จริง กลับไม่ใช่คนที่ “ทำเองทุกอย่างได้หมด” แต่คือคนที่ “เปิดพื้นที่” ให้คนรอบตัวเก่งขึ้นและแสดงศักยภาพเต็มที่ได้
4 ตัวอย่างผู้บริหารระดับโลกที่ใช้พลังทีมเหนืออีโก้ส่วนตัว
* Satya Nadella (Microsoft): ไม่เน้นการโชว์อัจฉริยะเหมือน CEO ยุคก่อน แต่เปลี่ยนวัฒนธรรมทั้งองค์กรให้ “เรียนรู้ร่วมกัน” และยอมรับความผิดพลาดได้ เขาปลูกฝังแนวคิด Growth Mindset โดยให้รางวัลกับทีมที่กล้าทดลองและล้มเหลวอย่างมีบทเรียน มากกว่าทีมที่แค่เล่นเกมปลอดภัย
* Indra Nooyi (PepsiCo): กล้าขอความคิดเห็นจากคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการโรงงานหรือฝ่ายออกแบบ เพื่อให้ได้มุมมองที่หลากหลายที่สุดก่อนตัดสินใจ เธอให้ความสำคัญกับ “การฟังจากทุกระดับ” เพื่อสร้างนโยบายที่เป็นจริงและครอบคลุม
* Tony Hsieh (Zappos): เชื่อมั่นในวัฒนธรรมองค์กรแบบไม่มีลำดับชั้น เปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอไอเดียใหม่ๆ และช่วยกันสร้างประสบการณ์ลูกค้า เขาสร้างองค์กรแบบ Holacracy ที่ทุกเสียงมีค่า และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์จากทุกแผนก
* Ken Frazier (Merck): เน้นการสร้างผู้นำรุ่นต่อไปมากกว่าการโชว์ความเป็นผู้นำของตนเอง เขาลงทุนกับการ Coaching คนในองค์กร และเชื่อว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนคือการที่มีคนเก่งรุ่นต่อไปมากพอจะรับไม้ต่อได้
“ภาวะผู้นำในโลกใหม่ ไม่ใช่แค่การเก่งกว่าใคร แต่คือการทำให้คนรอบตัวเก่งขึ้น และมีพลังจะพาองค์กรไปไกลกว่าเดิม”
====
🔄 Framework 3E สำหรับผู้นำยุคใหม่
หากคุณเป็นผู้บริหารที่ต้องการพัฒนาทีมให้เติบโตไปพร้อมกัน ลองใช้โมเดล 3E ต่อไปนี้
1. Empathy (เข้าใจคน)
* ฟังอย่างลึกซึ้ง เข้าใจแรงจูงใจ ความกลัว หรือแรงผลักดันของแต่ละคน
* ถามคำถามแทนการสั่ง เช่น “คุณคิดว่าเราควรแก้ปัญหานี้อย่างไร?”
* ลองมองจากมุมของอีกฝ่ายก่อนตอบกลับทุกครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
2. Empowerment (ให้อำนาจ)
* ปล่อยให้คนได้ลองผิดและเรียนรู้จากความพลาด
* อย่าแก้ให้ทุกเรื่อง แต่ช่วยเขาคิดให้เป็น
* มอบหมายงานที่ใหญ่พอจะท้าทาย แต่ไม่ใหญ่เกินไปจนรู้สึกถูกทอดทิ้ง
3. Elevation (ยกระดับศักยภาพ)
* ให้ feedback อย่างจริงใจแต่ไม่ทำลายความมั่นใจ
* หาพื้นที่ให้คนในทีมได้โชว์ เช่น พรีเซนต์งานกับผู้บริหาร, นำประชุมสำคัญ, ทำโปรเจกต์ข้ามทีม
* สร้างโอกาสให้คนในทีมได้ Mentorship จากภายนอกหรือข้ามสายงาน
“ภาวะผู้นำที่ดีไม่ใช่การควบคุมทุกอย่าง แต่คือการเสริมพลังให้คนอื่นเก่งขึ้น”
====
🧠 วัด “ความเก่ง” ของผู้นำในมุมใหม่
ลองตอบคำถามนี้ดูครับว่า…
* วันนี้คุณใช้เวลาไปกับ “ตัดสินใจเอง” กี่เปอร์เซ็นต์? แล้ว “ฟังทีมแล้วปล่อยให้เขาตัดสินใจ” กี่เปอร์เซ็นต์?
* คนในทีมคุณเคยได้เวทีแสดงความสามารถในที่ประชุมใหญ่หรือยัง?
* มีใครบ้างที่คุณยังไม่เคยให้โอกาสเขา “แสดงฝีมือ”?
* คนในทีมคุณมีใครกล้าบอกคุณว่า “ไม่เห็นด้วย” หรือเสนอแนะที่แตกต่างไหม?
* คุณเคยย้อนดูไหมว่าใครในทีม “เติบโตขึ้นจริง” ในปีที่ผ่านมา เพราะคุณให้โอกาสและสนับสนุนเขามากพอหรือยัง?
“ความเก่งของผู้นำ = พลังที่สามารถเปลี่ยน ‘ความเก่งส่วนตัว’ ให้กลายเป็น ‘ความเก่งของทีม’ ได้”
====
🔚 ดังนั้น ถ้าอยากเก่งขึ้น...ต้องทำให้คนรอบตัวเก่งขึ้นด้วย
ในยุคที่ไม่มีใครรู้ทุกอย่างได้หมดอีกต่อไป ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่ผู้ที่ “คิดเร็ว พูดเก่ง ตัดสินใจไว” แต่คือผู้ที่ “ฟังลึก เสริมแรง และสร้างทีมให้เก่งกว่าเดิมในทุกวัน”
และในท้ายที่สุด
“ผู้นำที่ดี...ไม่ใช่แค่คนที่มีคำตอบให้ทุกคน แต่คือคนที่สร้างวัฒนธรรมที่ทำให้ทีมอยากช่วยกันหาคำตอบที่ดีกว่าเสมอ”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#LeadershipDevelopment
leadership
ผู้นำ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย