เมื่อวาน เวลา 09:13 • นิยาย เรื่องสั้น

แม่พาไปหาหมอแหวง เรื่อง สั้น ๆ ไม่ยาว

By.ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
เมื่อก่อน บ้านสี่แยกสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ไฟฟ้า น้ำประปา ยังมาไม่ถึง อีกทั้งถนนลาดยางก็ยังไม่มี ที่มีก็จะเป็นถนนทราย ต้องบอกว่าทรายนะครับ ทรายที่ละเอียดขาวเหมือนชายหาดป่าตองภูเก็ตประมาณนั้น บางที่ผมก็เล่นดินทรายกับน้องสาว ที่เกิดห่างกันตั้ง 7 ปี บางที่ก็วิ่งเล่นบนพื้นทรายบริเวณหน้าบ้าน ล้มก็ไม่เจ็บ เพราะทรายอ่อนนุ่ม รถที่ผ่านมาบางครั้งก็ติดหล่มไปไม่ได้ ก็ต้องลงมาโกยทราย
กว่าจะมีถนนลาดยาง ผมก็เกือบโตเป็นหนุ่ม การคมนาคมลำบาก ทางไปตัวจังหวัดกาฬสินธุ์จะเป็นถนนลูกรัง ถ้านั่งรถไปถึงตัวจังหวัดหัวแดงทุกคน เพราะโดนฝุ่น ด้วยความยากลำบากของถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ผมก็จะได้ข่าวรถคันส่งหลุด ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ มีผู้โดยสารบาดเจ็บบ้าง ล้มตายบ้าง
คันส่งรถยนต์ มันคือตัวบังคับล้อที่เชื่อมต่อกับพวงมาลัย เวลารถยนต์ตกหลุม หลาย ๆ ครั้ง บรรดาน๊อตก็จะคลายตัว หลุดออก พวกข้อต่อก็จะหลุดตามเมื่อรถยนต์ตกหลุม นั่นแหล่ะมันคือความสำคัญของคันส่ง ทุกวันนี้ เราจะไม่ค่อยได้ยินว่ารถยนต์คันส่งหลุด เพราะถนนหนทางลาดยาง วิ่งได้ราบเรียบ ไม่มีหลุมไม่มีบ่อให้รถยนต์ตก
การที่จะเดินทางไปตัวเมืองจึงมีความรู้สึกว่าไกลมาก ทั้ง ๆ ที่มีระยะทางเพียง 40 กิโลเมตร เท่านั้น เวลาผมป่วยเป็นไข้ ไม่ต้องถามหาหมอ ก็แม่นี่แหล่ะ ที่เป็นหมอ คอยเช็ดตัวให้
ผมยังจำได้ว่าสายวันหนึ่ง ราว ๆ 9 โมง ถึง 10 โมง แสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า แม่ใช้ให้ผมไปเอายารากไม้แก้ไข้ ที่บ้านป้าบัวศรี มาฝนกินกับน้ำ ซึ่งยารากไม้นี้เป็นแท่ง ประมาณนิ้วชี้ ผ่านการฝนมานานจนเกือบจะหมดแล้ว ส่วนลักษณะของหินฝนยา จะเป็นหินชนวนเท่าผ่ามือ มีร่องฝนยา เวลาเป็นไข้ก็ใช้รากไม้ฝนกับหินฝนยา โดยใช้ขันน้ำใส่น้ำสะอาด ฝนเสร็จก็เอาน้ำในขันล้างยาออก ก็จะได้ยาผสมน้ำ เสร็จแล้วผมก็ดื่ม ไม่นานนักผมก็หายจากการเป็นไข้
นั่นเป็นยาสามัญขั้นพื้นฐาน ที่แม่นำยารากไม้มาใช้รักษาผมเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนใหญ่ก็หายจากการเป็นไข้ครับ แต่มาวันหนึ่ง ผมเป็นไข้หนักความร้อนของร่างกายสูง ผมเพ้อหนัก ถึงขั้นละเมอ พูดคนเดียวชนิดที่ไม่รู้สึกตัว แม่เล่าให้ฟังว่าแม่ตกใจมาก ก็ได้แต่เช็ดตัวผมเพื่อให้ไข้ลดลง พออาการทุเลา แม่จึงพาผมไปหาหมอแสวง หรือ หมอแหวง บ้านอยู่ติดกัน หมอแหวง แกเป็นคน เวียดนาม คนบ้านผมจะเรียกว่าคน “แกว ” ไม่ไม่เรียกว่าคน ญวน ก็เหมือนกับ คนจีน คนบ้านผมก็จะเรียกว่า “เจ๊ก”
หมอแหวง บอกว่า “เอ้า...ซีดยา เข็มเดียวกะหาย ” แกพูดสำเนียงอีสาน ผสม แกว
แม่ถามว่า “ซีดยา อี หยั๋ง” “ยาเพนสเตปส์เข็มเดียว เซาโลด ” หมอแหวง บอกด้วยความมั่นใจ
หมอแหวง บอกให้ผม เดินไปที่เตียงฉีดยา จากนั้นหมอแหวง แกก็ สาระวน กับยาฉีด “เอ้า..นอนคว่ำลง ให้ซีดข่างใหด ”
ผมบอกไปว่า “ให้ซีดขาซ้าย เด้อ สิได้บ่เจ็บ”
โอ้โห ท่านผู้ฟัง ปวดชิ-หงาย ผมเพิ่งมารู้ก็ตอนเป็นผู้ใหญ่ว่า ยาเพนสเตปส์ เป็นยาปฏิชีวนะ ใช้ฉีดให้กับหมู วัว ควาย เวลามันเป็นไข้ไม่สบาย พ่อผมฉีดให้หมูเป็นประจำ เวลามันป่วย ลองคิดดู ยาฉีดให้หมู แต่เอามาฉีดคน มันต้องหายป่วยแน่ ๆ และไอ้ที่ปวดสุด ๆ นี่แหล่ะ ทำให้ผมจำมาจนถึงวันนี้ ฮ่า ๆ เอิ๊ก
แต่ถ้ากินยารากไม้ฝนผสมกับน้ำ มันก็คงไม่หาย แต่ก็ได้แม่นี่แหล่ะที่พามาหาหมอแหวง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษา
เท่าที่รู้มา หมอแหวง แกมาอยู่สมเด็จพอ ๆ กับครอบครัวผม มีอาชีพเป็นหมอ รักษาคนไข้ ผมก็ไม่รู้ว่าแกจบหมอมาจากไหนไม่มีข้อมูล รู้แต่ว่าแกเป็นคนเวียดนาม หรือที่เราเรียกว่าคนญวน หรือคนแกว ที่รักษาคนไข้ ให้หายได้เหมือนกัน แต่ท่านก็ได้จากพวกเราไปนานหลายปีแล้ว ด้วยโรคชรา อายุมาก ถ้ามีชีวิตอยู่ปานนี้ก็เท่าแม่ผม ก็เกือบ 100 ปีแล้ว
🌿🌿🌿🌿🌿🌿
12พ.ค.68
โฆษณา