ประวัติศาสตร์การใช้ "ฮอร์โมนสังเคราะห์"
ฮอร์โมนสังเคราะห์ในพืช(สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช หรือ PGRs) มีจุดเริ่มต้นมาจากการค้นพบฮอร์โมนพืชตามธรรมชาติในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ยุคบุกเบิก ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 - ต้นศตวรรษที่ 20 🌱
- ●ชาลส์ ดาร์วิน และฟรานซิส ดาร์วิน (1880) ได้ทำการตั้งสมมติฐานเรื่อง "อิทธิพล" จากปลายยอดพืชที่ตอบสนองต่อแสง
- ●ฟริตซ์ เวนท์ (1928) สามารถแยก "ออกซิน" ออกมาได้สำเร็จเป็นครั้งแรก แล้วต่อมาพบว่าเป็นกรดอินโดล-3-อะซิติก (IAA)
- ●ตามมาด้วยการค้นพบฮอร์โมนกลุ่มอื่นๆ เช่น จิบเบอเรลลิน (ทศวรรษ 1920-1930 จากโรคบากาเนะในข้าว), ไซโตไคนิน (ทศวรรษ 1940-1950 จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ), เอทิลีน (ระบุในต้นศตวรรษที่ 20 ว่าเป็นสารจากก๊าซที่ส่งผลต่อพืช และยืนยันว่าเป็นฮอร์โมนพืชในปี 1934), และกรดแอบไซซิก (ทศวรรษ 1960 จากการศึกษาสารยับยั้งการเจริญเติบโต)
การสังเคราะห์และการประยุกต์ใช้ยุคแรก ช่วงทศวรรษที่ 1930 - 1950 🌱
- ●ออกซินสังเคราะห์: IBA และ NAA ถูกนำมาใช้เร่งรากกิ่งปักชำ/ตอน อย่างแพร่หลาย และเริ่มใช้ในการป้องกันผลร่วง
- ●2,4-D (ทศวรรษ 1940): ค้นพบว่าออกซินสังเคราะห์ ในความเข้มข้นสูงสามารถใช้เป็นยาฆ่าวัชพืชใบกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการปฏิวัติวงการควบคุมและกำจัดวัชพืช ประเทศไทยเริ่มใช้ 2,4-D ในนาข้าวช่วงปลายทศวรรษ 1940 ถึง 1950
เกิดการวิวัฒนาการและการใช้งานเป็นวงกว้าง ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 - ปัจจุบัน 🌱
- ●ไซโตไคนินสังเคราะห์ (BA, TDZ): มีบทบาทสำคัญในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และการใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ชะลอการเสื่อมโทรมของต้นพืช
- ●สารปลดปล่อยเอทิลีน (เอทีฟอน - Ethephon, สังเคราะห์ปี 1963): ใช้เร่งการสุกของผลไม้ เร่งดอกสับปะรด และใช้กระตุ้นน้ำยางพารา
- ●สารชะลอการเจริญเติบโต (ยับยั้งจิบเบอเรลลิน) คลอร์มีควอท คลอไรด์ (CCC, ทศวรรษ 1950): ใช้ลดความสูงของต้นพืช และป้องกันการหักล้มในธัญพืช
- ●ดามิโนไซด์ (Alar, จดทะเบียนปี 1963): นำมาใช้ในแอปเปิ้ล แต่ถูกจำกัดการใช้งานในภายหลังเนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย
- ●พาโคลบิวทราโซล และ ยูนิโคนาโซล: ใช้ลดความสูงของไม้ดอกไม้ประดับ ชักนำการออกดอกนอกฤดูในไม้ผล
การนำฮอร์โมนสังเคราะห์มาใช้ในประเทศไทย
- ●การใช้ PGRs ในไทยมีบทบาทชัดเจนขึ้นในช่วงการปฏิวัติเขียว (หลังทศวรรษ 1980) และปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายในพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น มะม่วง (พาโคลบิวทราโซล), สับปะรด (เอทีฟอน, NAA), ทุเรียน (เอทีฟอน, เมพิควอท คลอไรด์, พาโคลบิวทราโซล), และยางพารา (เอทีฟอน)
🌱🌱🌱
จากข้อมูลสังเกตได้ว่า "ฮอร์โมนสังเคราะห์" หรือ ฮอร์โมนพืช หรือ ไฟโตฮอร์โมน(Phytohormones), ถูกค้นพบและนำมาใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่เพียงเพราะการใช้งานฮอร์โมนสังเคราะห์ให้ผลลัพย์ค่อนข้างช้า จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมเกษตรระดับกลางขึ้นไป มากกว่าในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
