13 พ.ค. เวลา 03:07 • สุขภาพ

เวลาที่หลายคนมีแฟน สิ่งหนึ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดคือการถูกแฟนนอกใจ

ยิ่งพวกเขาได้ยินเรื่องราวการนอกใจ (ทั้งจากคนรู้จัก ทั้งจากข่าว) มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวมากเท่านั้น
ความกลัวดังกล่าวส่งผลให้ท่าทีที่พวกเขามีกับแฟนเปลี่ยนไป
กล่าวคือ พวกเขาพยายามที่จะเอาอกเอาใจแฟนมากขึ้น (เพราะพวกเขาหวังว่า หากพวกเขาทำให้แฟนสมหวังในทุกๆอย่าง แฟนก็จะไม่อยากนอกใจพวกเขา)
หากมองในระยะสั้น การที่พวกเขาเอาใจแฟนมากขึ้นดูจะเป็นอะไรที่ “ได้ผล” อยู่นะครับ แต่ในระยะยาว การรับมือกับความกลัว (ว่าแฟนจะนอกใจ) ด้วยการเอาใจแฟนเช่นนี้ดูจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก
นั่นเป็นเพราะว่า…
ประการแรก การที่เราต้องเอาใจแฟนหรือพิสูจน์ตัวเองให้แฟนเห็น (ว่าเราดีแค่ไหน) ตลอดเวลานั้น มันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากเลยครับ
ประการที่สอง ยิ่งเราทุ่มพลังงานไปกับการเอาใจแฟนมากเท่าไหร่ มันก็อาจจะยิ่งสร้างความกดดัน (ที่จะต้องทุ่มเทเอาใจแฟนแบบ “จัดหนักจัดเต็ม” ต่อไปเรื่อยๆ) มากขึ้นเท่านั้น (เพราะแฟน “คุ้นชิน” กับการที่เราเอาใจแฟนแบบ “จัดหนักจัดเต็ม” ไปแล้ว หากวันหนึ่ง เราลดระดับการเอาใจแฟนลง แฟนก็อาจจะตีความว่าเรา “รู้สึกเปลี่ยนไป” ได้)
ประการที่สาม หากวันหนึ่ง แฟนดันมารู้เข้าว่าการเอาอกเอาใจของเราไม่ได้เกิดจากความรักเป็นหลัก (แต่เกิดจากความกลัวเป็นหลัก) มันอาจจะส่งผลให้การแสดงความรักของเราทั้งหมด (ทั้งที่แสดงออกเพราะเรารู้สึกรักจริงๆและที่แสดงออกเพราะเรารู้สึกกลัว) ดูมีค่าน้อยลงในสายตาของแฟนได้
แทนที่จะรับมือกับความกลัว (ว่าแฟนจะนอกใจ) ด้วยการเอาอกเอาใจแฟนมากขึ้นอย่าง “ไม่เป็นธรรมชาติ” ผมมองว่าทางเลือกที่ดีกว่าคือการสื่อสารกับแฟนอย่างตรงไปตรงมาเลยครับว่า เรามีความกลัวนี้อยู่ในใจของเรา
ใช่ครับ การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมานี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นที่เรามี (เช่น การเอาอกเอาใจแฟนอย่าง “ไม่เป็นธรรมชาติ”) การหยิบความกลัวในใจเรามา “วางบนโต๊ะ” และพูดคุยกับแฟนอย่างชัดเจนดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเรามองกันในระยะยาว) เยอะเลยครับ
โฆษณา