ทำความรู้จัก “Le beurre bordier” สุดยอดแบรนด์เนยจากฝรั่งเศสที่ร้านมิชลินสตาร์ทั่วโลกเลือกใช้
Le Beurre Bordier (เลอ เบอร์ บอร์ดิเยร์) เป็นแบรนด์เนยที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกในด้านคุณภาพที่ยอดเยี่ยม และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผลิตจากนมวัวพันธุ์ท้องถิ่นของฝรั่งเศส และผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ได้เนยที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม รสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
.
เรื่องราวของ Le Beurre Bordier เริ่มต้นขึ้นในแคว้น Brittany ภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์นมคุณภาพสูง บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดย Jean-Yves Bordier ลูกชายของครอบครัวพ่อค้าชีส
.
เดิมที Jean-Yves Bordier มีความฝันอยากเป็นกะลาสีเรือ ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตในการทำงานเป็นทหารเรืออยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็พบว่าสิ่งนี้คงไม่ใช่แนวทางที่เขาใฝ่ฝันจริง ๆ จากนั้นจึงหันกลับไปทำธุรกิจผลิตภัณฑ์นมตามรอยครอบครัว โดยการเข้าซื้อกิจการ “La Maison du Beurre” ร้านเนย และชีสที่ก่อตั้งขึ้นมาอยู่แล้วตั้งแต่ปี 1927 ใจกลาง Saint-Malo ในแคว้น Brittany
.
หลังจากซื้อกิจการในปี 1985 เขาก็เริ่มฝึกฝนเทคนิคการผลิตเนยจนมีความชำนาญ และผลิตเนยขาย โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด และใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ซึ่งการผลิตจะใช้วงล้อโต๊ะไม้ทรงกลมขนาดใหญ่ช่วยในการนวดเนย และใช้ไม้ตบ ๆ เพื่อไล่น้ำออก ทำให้เนยมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม และมีกลิ่นหอมละมุนตามธรรมชาติ ซึ่งทุกขั้นตอนในการผลิตตั้งแต่การนวด การปั้น ไปจนถึงการขึ้นรูป ล้วนทำด้วยมือทั้งหมด
.
สาเหตุที่ Jean-Yves Bordier เลือกผลิตเนยแทนที่จะผลิตชีสตามรอยครอบครัวนั่นก็เพราะว่าเขาเห็นว่าในฝรั่งเศสมีชีสคุณภาพเยี่ยมมากมาย แต่เนยแท้เริ่มหายาก ดังนั้นเขาจึงหันมาผลิตเนย โดยพยายามรักษา และยกระดับเทคนิคการผลิตเนยแบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสเอาไว้
.
ในอดีตการผลิตเนยของฝรั่งเศสจะทำด้วยมือ และต้องใช้ความประณีตเป็นเวลานาน แต่ด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคนิคเหล่านี้ก็เริ่มหายไป ถูกแทนที่ด้วยการผลิตทางเลือกอื่น ๆ ในเชิงอุตสาหกรรม Jean-Yves Bordier จึงต้องการฟื้นคืนกระบวนการแบบดั้งเดิมนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
.
จุดเด่นของเนย Le Beurre Bordier ก็คือบริษัทเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพสูงในการผลิต โดยจะใช้น้ำนมคุณภาพสูงสุดจากฟาร์มออร์แกนิกในแคว้น Normandy และ Brittany ที่เหล่าแม่วัวพันธุ์ดีจะถูกเลี้ยงด้วยดอกไม้สด และสมุนไพรในช่วงฤดูร้อน แต่หากเป็นฤดูหนาวก็จะถูกเลี้ยงด้วยถั่วแอลแฟลฟา ซึ่งจะช่วยให้แม่วัวผลิตนมที่มีความเข้มข้น และมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
.
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเนย Le Beurre Bordier คือมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย โดย Jean-Yves Bordier เป็นคนแรก ๆ ที่ทดลองใส่ส่วนผสมต่าง ๆ เช่น สาหร่าย กระเทียม มะเขือเทศ โหระพา คาเวียร์ เกลือรมควัน กระเทียม และกลิ่นวานิลลาลงในเนยของเขา ซึ่งส่วนผสมต่าง ๆ เหล่านี้เองที่ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรม ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในวิธีการแบบดั้งเดิม
.
ความแตกต่างของเนย Le Beurre Bordier กับเนยทั่วไปคือ เนย Le Beurre Bordier ใช้เวลาในการบ่มนานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าเนยทั่วไปถึง 12 เท่า เนื่องจากเนยทั่วไปจะใช้เวลาในการบ่มประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เนย Le Beurre Bordier จึงมีรสชาติที่เข้มข้น และซับซ้อนมากขึ้น
.
นอกจากนี้การผลิตเนย Le Beurre Bordier บริษัทยังเลือกใช้พิมพ์ไม้ในการขึ้นรูปเนยอีกด้วย เพื่อให้ได้เนยที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนเนยทั่วไป อีกทั้งบริษัทยังรับจัดทำเนยรูปทรงตามสั่งให้กับร้านอาหารต่าง ๆ อีกด้วย
.
ปัจจุบัน Le Beurre Bordier กลายเป็นแบรนด์เนยที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากร้านมิชลินสตาร์ทั่วโลก ซึ่งเชฟชื่อดังหลายท่านก็เลือกใช้ โดยมีให้เลือกทั้งเนยธรรมดา และเนยปรุงรสหลากหลายรสชาติ อาทิ Bordier Butter with Roscoff Onion, Seaweed Bordier Butter, Bordier Unsalted Butter, Bordier Semi-Salted Butter, Bordier Butter with Smoked Salt, Bordier Butter with Lemon Olive Oil และอื่น ๆ อีกมากมาย
สามารถหาซื้อเนย Le Beurre Bordier หลากหลายรสชาติได้ที่ริมปิงสาขานิมซิตี้นะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
