ผู้อำนวยการ WTO เตือนการค้าเสรีโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤต ขณะเยือนญี่ปุ่น หวังญี่ปุ่นร่วมฟื้นฟูระบบพหุภาคี
World trade chief warns global free trade is ‘in crisis’ during Japan visit, urges reform of WTO
📌 สาระสำคัญของข่าว
📍 การค้าโลกกำลังเข้าสู่ “ภาวะวิกฤต”
ดร.งอซี โอคอนโจ-อิเวอาลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าระบบการค้าเสรีโลกกำลังเผชิญความท้าทายอย่างรุนแรง เนื่องจากแนวทางนโยบายที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีและการผลักดันแนวคิด “ผลิตในอเมริกา”
📍 เรียกร้องให้ญี่ปุ่นเป็นผู้นำฟื้น WTO
โอคอนโจ-อิเวอาลาเรียกร้องให้ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็น “แชมป์ของระบบการค้าพหุภาคี” มีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษา เสริมสร้าง และปฏิรูป WTO เพื่อให้สามารถรับมือกับวิกฤตการค้าในยุคใหม่นี้ได้
📍 ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และจีน
แม้ว่าสหรัฐฯ และจีนจะตกลงลดภาษีชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเพื่อเจรจาต่อรอง แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ โดยญี่ปุ่นยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงลดภาษีกับสหรัฐฯ ในสินค้าเช่น รถยนต์ เหล็กและอลูมิเนียม
📍 WTO เคยเป็นเสาหลักของการค้าโลก
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา WTO ช่วยรื้อกำแพงการค้าแบบกีดกัน และเปิดทางให้จีน ญี่ปุ่น และประเทศกำลังพัฒนาอีกมากมาย กลายเป็นฐานการผลิตส่งออกของโลก ทว่าภายใต้ทรัมป์ นโยบายกีดกันกลับถาโถมอย่างหนัก
📍 ภารกิจเยือนญี่ปุ่นเพื่อเสริมความร่วมมือ
โอคอนโจ-อิเวอาลาเข้าพบผู้นำญี่ปุ่นหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรี ชินการุ อิชิบะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โยจิ มุโตะ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจโลก
🌍 วิเคราะห์ผลกระทบระดับโลกและต่อไทย
🧭 ผลกระทบระดับโลก
การส่งสัญญาณว่า “การค้าเสรีอยู่ในภาวะวิกฤต” มีแนวโน้มทำให้ประเทศต่างๆ ต้องหันมาเร่งเจรจาระดับทวิภาคีมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพากลไก WTO ซึ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านภาษีและการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตจะรุนแรงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายทรัมป์
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย
ไทยอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในระบบการค้าโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออก เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและอาหารแปรรูป การลดบทบาทของ WTO หมายถึง ไทยต้องเจรจาตรงกับประเทศคู่ค้าแบบทวิภาคีมากขึ้น ซึ่งใช้ทรัพยากรและกำลังเจรจามากขึ้น
💹 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
📌 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่
➤ กลุ่มส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน เช่น
SAT, STANLY, AH จะเผชิญแรงกดดันหากสหรัฐฯ ยังคงใช้ภาษีนำเข้ากับรถยนต์จากเอเชีย
➤ กลุ่มโลหะและเหล็กกล้า เช่น
MILL, TMT, SAM อาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนด้านภาษีเหล็ก-อลูมิเนียมที่สหรัฐฯ ใช้เป็นเครื่องมือทางการค้า
➤ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มี supply chain เชื่อมโยงกับจีน เช่น
KCE, HANA, DELTA อาจเห็นการย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากจีนมาไทยเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญความผันผวนด้านต้นทุนและคำสั่งซื้อ
➤ กลุ่มโลจิสติกส์และท่าเรือ เช่น
PSL, SJWD, LEO จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากความไม่แน่นอนของอัตราภาษีโลก และการชะลอตัวของระบบห่วงโซ่อุปทาน
🧭 สรุปทิศทาง & ข้อเสนอแนะ
⚠️ ไทยควรเตรียมพร้อมรองรับระบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของการเจรจา FTA รายประเทศ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เสี่ยงกระทบ
💡 ภาคเอกชนควรจับตาการเปลี่ยนแปลงของ WTO และนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อวางกลยุทธ์การส่งออกและกระจายความเสี่ยงอย่างทันสถานการณ์
📌 Hashtags:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #WTOวิกฤตการค้า #TradeCrisis #JapanWTO2025 #นโยบายทรัมป์ #TrumpTradePolicy #หุ้นไทย #ตลาดหุ้นSET #ผลกระทบต่อไทย #WorldScope #เศรษฐกิจโลก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
