📰 อินเดียเตรียมเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ ตอบโต้ภาษีเหล็ก-อลูมิเนียม
🇮🇳 India considers counter duties on US products, notice to WTO shows
📌 อินเดียแสดงท่าทีเข้ม เตรียมตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากอเมริกา เพื่อชดเชยผลกระทบจากการที่รัฐบาลวอชิงตัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเก็บภาษี 25% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า ซึ่งเป็นการขยายมาตรการเดิมที่เริ่มตั้งแต่ปี 2018
📄 จากเอกสารอย่างเป็นทางการที่อินเดียส่งให้กับองค์การการค้าโลก (WTO) ระบุว่า
“มาตรการตอบโต้ของอินเดียอยู่ในรูปของการระงับสัมปทานทางภาษี โดยการเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการ”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่าสินค้าใดจะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติม
💰 อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กดิบอันดับ 2 ของโลก ยังระบุเพิ่มเติมว่ามูลค่าของสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ นั้นสูงถึง 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สหรัฐฯ เองยังขู่จะเก็บภาษีตอบโต้ 26% กับสินค้าจากอินเดียอีกด้วย
⚙️ ทั้ง 2 ประเทศกำลังอยู่ระหว่างเจรจาการค้าทวิภาคี โดยอินเดียเสนอจะลดช่องว่างภาษีนำเข้าที่สูงมากของตนลงถึง 2 ใน 3 เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงร่วมกัน
🔩 ด้านหนึ่ง อินเดียก็มีมาตรการภาษีของตนเองเช่นกัน โดยเพิ่งเก็บภาษีนำเข้าเหล็กชั่วคราวที่ 12% เพื่อสกัดการทุ่มตลาดจากจีน
🌐 การเคลื่อนไหวครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการพยายามต่อรองเชิงยุทธศาสตร์ของอินเดียทั้งในเวที WTO และการเจรจาแบบทวิภาคี เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของตนทั้งจากภายในและจากเวทีโลก
📉 ผลกระทบต่อไทยและหุ้นที่เกี่ยวข้องในตลาดหลักทรัพย์ (SET และ mai)
🇹🇭 แม้ไทยจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงในข้อพิพาทครั้งนี้ แต่สถานการณ์ภาษีตอบโต้ระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ อาจส่งแรงกระเพื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานเหล็กและการส่งออกสินค้าวัตถุดิบโลหะทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกที่มีความเชื่อมโยงกับอินเดียในฐานะผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่
📌 หุ้นในกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบหรือโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้า ได้แก่:
หุ้นในกลุ่มโลหะและเหล็กกล้า เช่น
👉 TSTH (บมจ. ทาทา สตีล (ประเทศไทย)) และ SAM (บมจ. สามชัย สตีล อินดัสทรี) ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจากการปรับทิศทางการค้าระหว่างอินเดีย-สหรัฐฯ ที่ทำให้ความต้องการโลหะในตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น
👉 INOX ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้เหล็กในงานตกแต่งสแตนเลส อาจเผชิญต้นทุนเพิ่มหากราคาเหล็กโลกผันผวน โดยเฉพาะในช่วงที่ห่วงโซ่อุปทานเปลี่ยนแปลงตามสงครามภาษีระหว่างประเทศ
หุ้นขนส่งและโลจิสติกส์ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เช่น
🚢 WICE, SONIC, SJWD มีแนวโน้มรับอานิสงส์หากมีการปรับเส้นทางการค้าใหม่จากผลของมาตรการภาษี โดยเฉพาะการขนส่งจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อพิพาทภาษี
หุ้นในกลุ่มเครื่องจักร/อุตสาหกรรมหนัก ที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบ เช่น
🏭 SMT, KCE และ HANA อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากความผันผวนของต้นทุนการผลิต หากราคาเหล็กและอลูมิเนียมปรับตัวสูงขึ้นตามแรงกดดันจากสงครามภาษี เนื่องจากทั้ง 3 บริษัทอยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้โลหะในกระบวนการผลิตแผงวงจรและชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
📊 ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจระหว่างประเทศและภาพรวมโลก
⚠️ ความขัดแย้งทางภาษีระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ อาจกระทบต่อกระแสการค้าเสรีในระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงที่หลายประเทศพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคระบาด
🌎 ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าจะส่งผลให้บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกต้องทบทวนยุทธศาสตร์ซัพพลายเชน และเลือกแหล่งวัตถุดิบหรือฐานการผลิตใหม่เพื่อลดความเสี่ยง
🔖 Hashtags:
#IndiaUS #TradeWar #ภาษีเหล็กอลูมิเนียม #WTO #เศรษฐกิจโลก #หุ้นไทย #โลหะหนัก #SET #mai #WorldScope #ศึกโลกเศรษฐกิจ #BattleOfEconomies
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
