Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MASTER THEPOR
•
ติดตาม
14 พ.ค. เวลา 04:43 • ไลฟ์สไตล์
สาระน่ารู้ เกี่ยวกับประเพณี-ประวัติความเป็นมา"บุญบั้งไฟ"
ประวัติความเป็นมาบุญบั้งไฟ พร้อมความหมาย วันเดือนปี
ประเพณีบุญบั้งไฟเป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสาน มีที่มาจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง พญาคันคาก ที่ยกทัพไปรบกับ พญาแถน เพื่อขอฝนให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ หลังจากพญาคันคากได้รับชัยชนะ พญาแถนจึงสัญญาว่าหากมนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด ก็จะสั่งให้ฝนตกลงมา
อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า การจุดบั้งไฟเป็นการบูชา พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ และขอให้พญาแถนบันดาลฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์
1
บุญบั้งไฟ
เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสานนิยมทำกันในเดือน 6 หรือเดือน 7 อันเป็นช่วงฤดูฝนเข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่าน ไถ เพื่อเป็นการบูชาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ( เหมือนกับการแห่นางแมวของคนภาคกลาง นั่นเองค่ะ.)
2
ความหมายของบุญบั้งไฟ
การบูชาพญาแถน:
เป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณพญาแถน เทพผู้บันดาลฝน
พญาแถน
การขอฝน:
เป็นพิธีขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เพื่อการเพาะปลูก
ความสามัคคี: เป็นโอกาสให้คนในชุมชนได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงาน สร้างความสัมพันธ์อันดี
1
การจุดบั้งไฟ
การอนุรักษ์วัฒนธรรม:
เป็นการสืบทอดประเพณีและเอกลักษณ์ของชาวอีสาน
ความสนุกสนาน:
เป็นงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน การละเล่น และการแสดงต่างๆ
วัน เดือน ปี ที่จัดงานบุญบั้งไฟ
1
การแสดง-เอกลักษณ์ของประเพณีชาวอีสาน
โดยทั่วไปแล้ว งานบุญบั้งไฟจะจัดขึ้นในช่วง เดือนหก (พฤษภาคม) หรือ เดือนเจ็ด (มิถุนายน) ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน ก่อนการลงมือทำนา ตามปฏิทินจันทรคติ มักจะเริ่มตั้งแต่วันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7
สำหรับปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025):
จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องประเพณีบุญบั้งไฟ จะจัดงานระหว่างวันที่ 16 - 18 พฤษภาคม 2568
อย่างไรก็ตาม วันที่จัดงานบุญบั้งไฟอาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นและแต่ละปี ควรมีการตรวจสอบประกาศจากทางจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบกำหนดการที่แน่นอนค่ะ.
1
แต่ละจังหวัดแตกต่างกันไหม.
แน่นอนค่ะ ประเพณีบุญบั้งไฟมีความแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัดของภาคอีสาน แม้ว่าจะมีรากฐานความเชื่อเดียวกันเกี่ยวกับการบูชาพญาแถนและการขอฝน แต่รายละเอียดในการจัดงาน รูปแบบของบั้งไฟ และกิจกรรมต่างๆ อาจมีลักษณะเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นค่ะ
นี่คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนในบางจังหวัด ตัวอย่างเช่น.
1. จังหวัดยโสธร:
เอกลักษณ์: ขึ้นชื่อเรื่อง "บุญบั้งไฟโก้" ซึ่งเน้นความสวยงาม อลังการ และความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งขบวนแห่และตัวบั้งไฟ มีการประกวดบั้งไฟสวยงาม บั้งไฟแฟนซี และการแสดงต่างๆ ที่เน้นความบันเทิง
กำหนดการ: มักจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
กิจกรรมเด่น: ขบวนแห่บั้งไฟที่ตกแต่งอย่างประณีต การประกวดกาพย์เซิ้งบั้งไฟ การประกวดธิดาบั้งไฟโก้และเทพบุตรบั้งไฟโก้ การจุดบั้งไฟแฟนซีและบั้งไฟขึ้นสูง.
2. จังหวัดอุบลราชธานี:
เอกลักษณ์: มีการจัดงานบุญบั้งไฟในหลายอำเภอ แต่ละพื้นที่จะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป บางแห่งเน้นการอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิม บางแห่งมีการผสมผสานความร่วมสมัย
กำหนดการ: มีการจัดงานบุญบั้งไฟกระจายอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น
กิจกรรมเด่น: การแห่บั้งไฟ การจุดบั้งไฟเพื่อขอฝน การแสดงพื้นบ้าน และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ.
3. จังหวัดร้อยเอ็ด:
เอกลักษณ์: เป็นที่รู้จักในเรื่อง "บุญบั้งไฟสิบล้าน" ที่อำเภอพนมไพร ซึ่งมีการจุดบั้งไฟจำนวนมากเพื่อถวายองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
กำหนดการ: มักจัดงานในช่วงเดือนมิถุนายน
กิจกรรมเด่น: การจุดบั้งไฟจำนวนมาก (ทั้งบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน และบั้งไฟล้าน) การแห่ขบวนบั้งไฟ และการแสดงพื้นบ้าน.
ความแตกต่างอื่นๆ ที่อาจพบ: เช่น ขนาดและรูปแบบของบั้งไฟ:
บางจังหวัดอาจเน้นบั้งไฟขนาดใหญ่ บางจังหวัดอาจเน้นบั้งไฟที่มีลวดลายสวยงาม หรือมีลูกเล่นต่างๆ
การเซิ้งบั้งไฟ:
ท่าทางการเซิ้ง เนื้อเพลง และการแต่งกายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น.
พิธีกรรมและความเชื่อ:
รายละเอียดในพิธีกรรมการขอฝนหรือการบูชาพญาแถนอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
กิจกรรมทางความบันเทิง:
การแสดงพื้นบ้าน ดนตรี และการละเล่นอื่นๆ ที่นำมาประกอบในงานอาจแตกต่างกัน.
ดังนั้น แม้ว่าจะมีรากฐานเดียวกัน แต่ประเพณีบุญบั้งไฟก็มีสีสันและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด ทำให้เป็นเทศกาลที่น่าสนใจและสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภาคอีสานค่ะ 😊.
#MasterThepor
=============================================
2
ภาพประกอบ-การจุดบั้งไฟ
ภาพประกอบ-การจุดบั้งไฟ
ภาพประกอบ - บั้งไฟที่มีลวดลายสวยงาม หรือมีลูกเล่นต่างๆ.
================================================
================================================
ปล..
เพิ่มเติมความหมายน่ารู้(โดยแหล่งที่มาข้อมูลอ้างอิง wikipediaพญาแถน ..ดังนี้ ).
**พญาแถน หรือผีฟ้านั้น** หมายถึง...
พญาแถนหรือผีฟ้านั้น ชาวไทยมีความเชื่อว่าเป็นเทวดามากกว่าเป็นผี ผีฟ้าจึงเป็นผีที่อยู่ระดับสูงกว่าผีชนิดอื่น ๆ
ส่วนแถนนั้น มีความเชื่อว่าเป็นคำเรียกรวมถึงเทวดา และแถนที่ใหญ่ที่สุดคือ
"แถนหลวง" ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระอินทร์
ผีฟ้านั้นแต่ละพื้นที่มีการเรียกที่แตกต่างกันไป และมีความเชื่อว่าผีฟ้านั้นสามารถที่จะ ดับทุกข์เข็ญหรือทำลายล้างอุปสรรคทั้งปวงได้ และสามารถที่จะช่วยเหลือมนุษย์ที่เดือดร้อนได้
การที่มนุษย์เกิดการเจ็บป่วยนั้นเนื่องจากไปละเมิดต่อผี การละเมิดต่อบรรพบุรุษ การรักษาต้องมีการเชิญผีฟ้ามาสิงสถิตอยู่ในร่างของคนทรง เรียกว่า "ผีฟ้า นางเทียน" ในการลำผีฟ้าของชาวอีสานนั้นมีองค์ประกอบ ทั้งหมด 4 ส่วนคือ หมอลำ ผีฟ้า หมอแคน ผู้ป่วย และเครื่องคาย
**หมอลำผีฟ้าจะเป็นผู้หญิงที่มีอายุหรือบางท้องถิ่นจะเป็นผู้หญิงสาวโดยเฉพาะที่จังหวัดเลย และจะต้องสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มหมอลำผีเท่านั้น แต่ที่จริงผีฟ้าสามารถสิงได้ทั้งหญิง ชาย และเด็ก โดยไม่จำกัดอายุ
**หมอแคน (หมอม้า) จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการเป่าแคนมาเป็นอย่างดีเพราะในการประกอบพิธีจะต้องใช้เวลานานและต้องมีการเป่าอยู่ตลอดเวลา
**ส่วนผู้ป่วยนั้น จะต้องแต่งกายตามที่ได้กำหนดไว้ คือ มีผ้าไหมหรือผ้าขาวม้าพาดบ่า มีดอกมะละกอซึ่งตัดร้อยเป็นพวงทัดหู ผู้ป่วยนั้นสามารถที่จะฟ้อนรำกับหมอลำได้ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ
** เครื่องคาย เป็นสิ่งที่อัญเชิญครูอาจารย์ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมาช่วยเหลือ รักษาผู้ป่วย
+
ในการรำผีฟ้านั้น จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น เมื่อครูบาเก่าเข้าสิงร่าง ผู้ทำพิธีจะต้องสวมผ้าซิ่นทับผ้าที่สวมอยู่ (กรณีที่ผู้ป่วยเป็นชาย)
หรือถ้าผู้ป่วยเป็นผู้หญิงครูบาจะสวมผ้าแพรหรือผ้าฝ้าย โดยสวมทับผ้านุ่งเดิม ซึ่งจะจัดไว้อยู่ใกล้เครื่องคาย ในการรักษาทุกคนจะต้องฟ้อนรำกันทุกคนและขึ้นอยู่กับผู้ป่วย
ถ้าผู้ป่วยต้องการดูการฟ้อนรำก็จะทำหน้าที่ต่อไป แต่ถ้าไม่ต้องการครูบาก็จะนำเครื่องคายขึ้นไปเก็บบนหิ้ง และจะมาร่วมกันรับประทานอาหาร
ความเชื่อของชาวอีสานเชื่อว่าผีฟ้าสามารถที่จะกำหนดการเกิดการตายของมนุษย์ได้ การที่มนุษย์ตายไปขวัญจะออกจากร่างเพื่อไปพบบรรพชน แต่ขวัญจะไม่แตกดับเหมือนร่าง เป็นเพียงการจากไปของร่างแต่วิญญาณยังคงอยู่กับผู้มีชีวิต
สาเหตุที่มีการฟ้อนรำกันนั้น ก็เพื่อเป็นการทำให้คนไข้มีพลังจิตในการต่อสู้กับการเจ็บป่วย มีอารมณ์ผ่อนคลาย ความตึงเครียด จิตใจปลอดโปร่ง ไร้วิตกกังวล และสร้างจิตสำนึกด้านความกตัญญู
เป็นคตินิยมของวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้สืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณี จะเห็นว่าผีฟ้านั้นเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ โดยมีคติเตือนใจว่า "คนไม่เห็น ผีเห็น"
**กลองกิ่ง กลองศักดิ์สิทธิ์มักมีในตระกูลผีฟ้าตีเมื่อใดเชื่อว่าเสียงจะดังไปถึงพญาแถนผีหลวงจะขออะไรก็จะได้ทุกอย่างร่างทรงผีฟ้ามักใช้ตีให้รักษาคนในบ้านเมื่อออกเดินทางเพื่อให้ผีฟ้าคุ้มครอง.
(ในส่วนของแหล่งที่มาอ้างอิงwikipediaพญาแถนสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้นะคะ.)
+
+
^^
#เล่าเล่นเป็นเรื่องดีๆตามstyle🥰
^^#เรื่องดีๆมีไว้แชร์
•||💕🍃@MasterThepor™♠️📷🍃💕||•
💕🍃จะเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับคุณ.🍃💕
#แบ่งปันสิ่งดีๆที่masterthepor
#MasterThepor #foryou #fyp
#Blockdit #บุญบั้งไฟ #ฮีตสิบสอง
#เรียนรู้ร่วมกัน #วัฒนธรรมไทย #ภาคอีสาน
:
"Learning together to co-create a community" เรียนรู้ร่วมกันสรรค์สร้างชุมชน
#MasterThepor
2
……| #Love #happy #together #TakeCare #Relax |……
+
+
#ขอบคุณมากมายที่สุดล่วงหน้าไว้ ณ ตรงนี้ สำหรับการอ่าน•การถูกใจ•การแชร์•และการคอมเมนต์นะคะ🙃😉😍🫶🏻🩷
#MasterThepor #Thanks!
2
เรื่องเล่า
ความคิดเห็น
วัฒนธรรม
บันทึก
5
2
5
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย