โปแลนด์กล่าวหารัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการลอบวางเพลิงผ่านโซเชียลมีเดีย
⸻
“ไฟไหม้ในเงามืด สงครามในเงา: โปแลนด์ VS รัสเซีย กับเกมลอบวางเพลิงบนโซเชียล”
“เมื่อสงครามไม่จำเป็นต้องใช้รถถัง… แค่มือถือเครื่องเดียวก็ทำลายทั้งเมืองได้”
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวไฟไหม้ธรรมดาๆ ครับทุกคน
แต่เป็นไฟที่มาพร้อมคำถามใหญ่ว่า “ใครจุด?” และ “เพื่ออะไร?”
วันนี้แอดมินจะพาไปล้วงให้ลึก ขุดให้สุด กับหนึ่งในเหตุการณ์ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือข่าวที่ผ่านหูผ่านตาไปในพาดหัวต่างประเทศ แต่โปแลนด์กลับบอกว่า “ไม่ใช่อุบัติเหตุ ไม่ใช่แค่ไฟไหม้ แต่เป็นการก่อวินาศกรรม!”
และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ… พวกเขาบอกว่า “รัสเซียอยู่เบื้องหลัง!”
⸻
บทที่ 1: จุดเริ่มต้นของไฟ — วอร์ซอระอุในค่ำคืนเดียว
คืนวันที่ 12 พฤษภาคม 2024 เมืองวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ เงียบสงบตามปกติ แต่แล้วเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ศูนย์การค้า “Marywilska 44” ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายขนาดใหญ่ของชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวเวียดนาม
ไฟลุกลามเร็วราวกับถูกวางแผนไว้ ร้านค้ากว่า 1,400 ร้านวอดวาย เสียหายนับล้านยูโร
ในตอนแรก เจ้าหน้าที่มองว่าอาจเป็นอุบัติเหตุระบบไฟฟ้าหรือการประมาท
แต่เมื่อหลักฐานเริ่มถูกรวบรวมเพิ่มขึ้น บางอย่างก็ “ไม่ธรรมดา”
⸻
บทที่ 2: สืบลึกไม่ใช่แค่ไฟ – โปแลนด์บอก “นี่คือการโจมตี”
หลายเดือนหลังเหตุการณ์ ผ่านการสืบสวนที่เงียบแต่เข้มข้น จนกระทั่งในปี 2025
ราเดก ซิโคร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ออกมาเปิดเผยแบบตรงๆ:
“นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ เราเชื่อว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการวางเพลิงผ่านการใช้โซเชียลมีเดียในการสรรหาผู้ก่อเหตุ”
เขาเรียกมันว่า สงครามลูกผสม (Hybrid Warfare)
และไฟที่วอร์ซอคือหนึ่งใน “แนวรบใหม่”
⸻
บทที่ 3: ว่าด้วยสงครามลูกผสม — ถ้าไม่ต้องยิง แต่ทำให้กลัวได้
“สงครามลูกผสม” ไม่ใช่คำแฟนซี แต่มันคือกลยุทธ์ที่มีอยู่จริงในโลกของความขัดแย้งยุคใหม่ โดยเฉพาะที่รัสเซียใช้มาหลายครั้งในอดีต
แนวคิดคือ…
• ใช้ โซเชียลมีเดีย ปั่นข่าวปลอม, ปลุกปั่นสังคม
• ใช้ ม็อบปลอม, อาชญากรรับจ้าง, อาสาสมัครหลอก ไปสร้างความปั่นป่วน
• ปลุกระดมให้เกิด “ความวุ่นวายจากภายใน” โดยที่ไม่ต้องส่งทหารแม้แต่คนเดียว
กรณีของวอร์ซอ โปแลนด์อ้างว่า รัสเซียใช้ Telegram และช่องลับบนโซเชียลมีเดีย รับสมัครคนท้องถิ่นให้ “ทำงานง่ายๆ ได้เงินเร็ว” แต่จริงๆ คือการลอบวางเพลิง
⸻
บทที่ 4: โซเชียลมีเดีย — จากเครื่องมือสื่อสาร กลายเป็นสนามรบ
หนึ่งในคำเตือนของหน่วยข่าวกรองยุโรปคือ
“โซเชียลมีเดียคือลานประลองใหม่ของสงครามโลกยุคดิจิทัล”
ในปี 2024-2025 มีหลายกรณีที่คนถูกว่าจ้างให้ก่อวินาศกรรม
ผ่านประกาศที่ดูเหมือนงานพาร์ทไทม์ เช่น
• “งานคืนเดียวได้เงิน 5,000 złoty”
• “รับงานไม่ระบุตัวตน ไม่มีประวัติ ไม่ต้องใช้บัตรประชาชน”
พอสมัครไป… ก็พบว่ามีการสั่งเผาอาคาร, วางเพลิงโกดัง หรือเจาะระบบไฟฟ้า
แล้วเมื่อเผาเสร็จ… เบอร์ที่ติดต่อก็ถูกลบทิ้งหายวับ
โปแลนด์บอกว่า มี “เครือข่ายรับจ้างก่อวินาศกรรม” เชื่อมโยงกับรัสเซีย และกำลังแฝงตัวอยู่ในโลกโซเชียลทั่วยุโรป
⸻
บทที่ 5: รัสเซียตอบโต้ — ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
แน่นอนว่าเครมลินไม่อยู่เฉย รัสเซียรีบออกมาตอบโต้ว่า:
“ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้มูล ไม่มีหลักฐาน เป็นแค่เกมการเมือง”
พวกเขายังกล่าวว่า โปแลนด์กำลังสร้างภาพร้ายให้รัสเซียเพื่อกลบปัญหาในประเทศตัวเอง และใช้เหตุนี้ในการขับไล่นักการทูต รวมถึงปิดสถานกงสุลในเมืองคราโคว์
แต่โปแลนด์ยืนยันว่า พวกเขามีหลักฐานชัดเจน ทั้งจากการวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์, ตำรวจไซเบอร์, และข้อมูลจาก NATO
⸻
บทที่ 6: เมื่อนักการเมืองเอาจริง – โปแลนด์ขยับอย่างแข็งกร้าว
หลังจากข้อกล่าวหาเปิดเผย รัฐบาลโปแลนด์ทำสิ่งต่อไปนี้ทันที:
• ขับไล่นักการทูตรัสเซีย 3 ราย
• ปิดสถานกงสุลรัสเซียในเมืองคราโคว์
• ยกระดับการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์
• ตั้งหน่วยข่าวกรองพิเศษเพื่อจับตามอง Telegram และ Discord
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่มันคือการ “เอาจริง” กับภัยที่มองไม่เห็น
⸻
บทที่ 7: จุดเล็กในเกมใหญ่ — ยูเครน, NATO, และสงครามข้ามพรมแดน
สงครามยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อเป็นฉากหลังของทุกอย่างในเรื่องนี้
โปแลนด์คือพันธมิตรหลักของยูเครน
และรัสเซียมองโปแลนด์เป็น “คู่กรณี” โดยไม่ต้องส่งทหาร
การทำให้วอร์ซอวุ่นวาย = การทำให้แนวร่วมยูเครนอ่อนแอ
จุดเล็กๆ อย่างเหตุไฟไหม้จึงไม่ใช่แค่เรื่องอัคคีภัย
แต่มันคือ “ข้อความทางยุทธศาสตร์”
⸻
บทที่ 8: แล้วประเทศไทยเกี่ยวอะไรด้วย?
หลายคนถามว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบ้านเรา?”
คำตอบคือ “โซเชียลมีเดีย” ไม่เคยมีพรมแดน
การรับสมัครคนทำงานผิดกฎหมายผ่าน Telegram ไม่ได้เกิดแค่ในยุโรป
ประเทศไทยก็มีกรณีคล้ายๆ กัน เช่น
• กลุ่มลักลอบขนยาเสพติดรับสมัครผ่าน Facebook
• คดีหลอกให้คนเผาโกดังเพื่อเอาเงินประกัน
• โฆษณางาน “ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จุดไฟ…”
นอกจากนี้ โลกที่ปั่นป่วนก็ส่งผลโดยตรงกับเศรษฐกิจไทย
ถ้าโปแลนด์ปั่นป่วน = เศรษฐกิจยุโรปไม่มั่นคง = ไทยส่งออกยากขึ้น
⸻
บทส่งท้าย: โลกใหม่ที่ไฟไม่เริ่มจากประกาย แต่จากมือถือ
จากอดีตที่สงครามเริ่มด้วยรถถัง
วันนี้… แค่มือถือหนึ่งเครื่อง โพสต์หนึ่งโพสต์ ก็อาจก่อไฟที่เผาเมืองทั้งเมือง
โปแลนด์อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้น
แต่คำถามใหญ่ที่แอดมินอยากชวนคิดคือ…
วันนี้เราพร้อมแค่ไหนกับสงครามที่ไม่เห็นทหาร แต่เห็นความกลัว?
เรารู้ไหมว่าโพสต์หนึ่งใน Telegram อาจทำให้คนกลายเป็นอาชญากร?
และที่สำคัญ… เราจะปกป้องประเทศและสังคมของเราจากการ “เผา” แบบนี้ได้อย่างไร?
⸻
แอดมินเล่าเรื่อง | ข่าวต่างประเทศแบบเข้าใจง่าย
ถ้าชอบบทความนี้ ฝากแชร์ต่อด้วยนะครับ
เพราะสงครามในเงามืด อาจกำลังใกล้ตัวกว่าที่เราคิด
⸻
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
