Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
14 พ.ค. เวลา 06:11 • ความคิดเห็น
When Agile Becomes a Factory - The Hidden Bottleneck in Thai Organizations
(กลับสู่หัวใจแห่งนวัตกรรมที่องค์กรไทยต้องกล้าเปลี่ยนจริง)
✍️ หลายองค์กรในไทยประกาศ “Go Agile” แต่กลับไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรมได้จริง? บทความนี้จะชวนคิดว่าหัวใจของปัญหาไม่ใช่ Framework อย่าง Scrum หรือ Kanban แต่คือ
“การยึดติดกับระบบราชการและความเป๊ะยังกับผลิตของในโรงงาน” ที่ขัดกับหลักการ Agile โดยตรง
ความเร็วที่แท้จริง มาจาก “Mindset, Autonomy และ Trust” ไม่ใช่ “พิธีกรรมหรือ Tool ที่สำเร็จรูป” พร้อมชี้ให้เห็นโมเดลการเปลี่ยนผ่านที่องค์กรไทยสามารถเริ่มต้นได้จริง เพื่อปลดล็อกคอขวดที่แท้จริง
⸻
Strategy Framing? 🧭
“เมื่อ Agile ในองค์กรไทยกำลังติดกับดัก “Factory Thinking” มากกว่าที่คิด”
แนวคิด “Agile” เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ซึ่งต้องการการปรับตัวแบบต่อเนื่อง (Adaptive Loop) มากกว่าการบริหารแบบวางแผนเป๊ะตั้งแต่ต้น (Predict-and-Control)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในหลายองค์กรไทย คือการเข้าใจ Agile ผิดเป็นแค่ “กระบวนการที่ต้องทำให้ครบ” เทียบแล้วก็แทบไม่ต่างจากโรงงานที่เช็กขั้นตอน QC คือ แทนที่จะได้ “ความคล่องตัว” กลับได้ “พิธีกรรมที่ชะลอการตัดสินใจ”
แทนที่จะมาคุยหรือทำกันในเรื่อง เช่น
• ความเร็วในการตัดสินใจ? (Fast Decision-making)
• ทีมมีอำนาจตัดสินใจเอง? (Empowered Teams)
• ทดลอง–ล้มเหลว–เรียนรู้เร็ว? (Fast Feedback Loop)
แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากองค์กรยัง “ต้องรออนุมัติจากหัวหน้าของหัวหน้า” เพียงเพราะทำผิดลำดับ
⸻
ตัวอย่าง - เมื่อ Agile กลายเป็นแค่ “ขั้นตอนตามตำรา” ในองค์กรไทย 🏭
“น้องครับ ต้องส่งเอกสารขออนุญาตเข้าระบบนะคะ แล้วหัวหน้าจะส่งให้ทีมไอทีอีกที ถ้าเค้าเห็นด้วย น้องค่อยโทรมานัดคุยได้นะคะ”
— ประโยคจริงจากองค์กรที่ประกาศตัวว่าเป็น “Agile-Driven”
นี่ไม่ใช่ปัญหาของระบบเอกสาร แต่คือ “Mindset ที่ไม่เชื่อใน Trust & Empowerment”
แม้องค์กรจะอบรม Agile ไปแล้วหลายรอบ มี Agile Coach หรือ Scrum Master เต็มบริษัท แต่สุดท้ายยังใช้ระบบ “Approval แบบราชการ” กับทุกอย่าง ตั้งแต่การตัดสินใจดีไซน์ปุ่มใหม่ในแอป ไปจนถึงขอข้อมูลจากแผนกข้างเคียง
นั่นคือ “Agile ที่ติดกับดักโรงงาน (Factory Agile)” และมักมีจะยึดติด เช่น
• วัดความสำเร็จจากพิธีกรรม (ครบทุก Stand-up, Retro, Grooming)
• ใช้ Jira, Post-it/Board หรือ Tool โดยไม่เข้าใจวัตถุประสงค์
• ทีมไม่มีสิทธิตัดสินใจ ต้องรอคำสั่งจากผู้บริหารทุกครั้ง
⸻
“The Bottleneck” ไม่ใช่ Framework แต่คือ ‘อำนาจรวมศูนย์’ และ ‘ความกลัวการผิดพลาด’ 🚧
สิ่งที่ทำให้ Agile ไปไม่ถึงฝั่ง คือวัฒนธรรมองค์กรที่ยัง “ควบคุมจากบนลงล่าง (Command and Control)” และ “ไม่เปิดพื้นที่ให้ล้มเหลว”
องค์กรที่เปลี่ยนผ่าน Agile ไม่ได้ มักมีปัญหา 3 อย่าง
1. Top-down Control: ผู้บริหารยังอยาก approve ทุกอย่าง
2. Fear of Failure: วัฒนธรรมตำหนิคนผิด มากกว่าสร้างทีมที่เรียนรู้
3. Process Worship: ยึดติดขั้นตอนมากกว่าผลลัพธ์
Agile ไม่ได้ห้ามความเป็นระบบ แต่ต้องให้ระบบ “รองรับความไม่แน่นอน” ไม่ใช่ “หยุดมันไว้ให้เป๊ะเหมือนเดิม”
⸻
องค์กรที่ “Agile จริง” ทำอะไรต่างออกไป 🚀
องค์กรระดับโลกอย่าง Amazon, Spotify หรือ Toyota ไม่ประกาศว่า “จะเป็น Agile organization” แต่เค้า “ทำ Agile” โดยเน้น “วัฒนธรรม–คน–ความไว้วางใจ” ก่อน Framework เสมอ
ลักษณะเด่นขององค์กรที่ Agile สำเร็จ
• ผู้นำ “ถอยออก” เพื่อให้ทีมตัดสินใจเร็ว (แต่ก็มีพื้นที่ๆ align วิสัยทัศน์ และเป้าหมายกลยุทธ์กัน)
• วาง OKR ที่ชัดเจน แต่เปิดเสรีวิธีการทำ
• มีวงจรทดลองจริง–เรียนรู้จริง จะทุกวีก, จะทุก 2–3 วีกก็ได้
• วัฒนธรรม “ล้มแล้วลุกเร็ว” เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
⸻
Recommendation ✅
ถ้าอยาก Go Agile จริง ต้องเริ่มจากวัฒนธรรม ไม่ใช่ Framework
1. เปลี่ยน Mindset ของผู้บริหารก่อน (Leadership First):
ผู้นำต้องพร้อมถอยอำนาจการตัดสินใจ และยอมรับความล้มเหลวที่สร้างการเรียนรู้
2. ยุบลำดับชั้นที่ไม่จำเป็น (Flatten Bureaucracy):
อย่าให้ทุกการตัดสินใจต้องผ่าน 3 ระดับความเห็นก่อนถึงทีม (ไม่ใช่ใส่ scrum สร้าง squad แล้วจบ! อันนี้ไม่ได้)
3. ให้ทีมสร้างกระบวนการของตัวเอง (Self-organizing):
อย่าบังคับ Scrum ถ้า Kanban หรือ Shape Up เหมาะกว่า
4. วัดผลจากผลลัพธ์ ไม่ใช่พิธีกรรม (Outcome over Ritual):
อย่าถามว่ามี Daily Stand-up หรือยัง ให้ถามว่า “ลูกค้าได้ประโยชน์จริงหรือยัง?”
5. สร้างพื้นที่ให้กล้าทดลอง (Safe to Experiment):
ถ้าความผิดพลาดครั้งแรกคือบทเรียน แต่ครั้งที่สองคือโทษแบน — ทีมจะไม่กล้าเดินหน้าอีกเลย
⸻
Final Note ✨
Agile ที่แท้จริง ไม่ใช่เครื่องจักร แต่มันคือระบบที่สร้าง “พื้นที่ให้มนุษย์ทำงานได้อย่างมีความหมาย”
คือการ “ปล่อยให้ทีมลงมือ – ล้มบ้าง – ลุกเร็ว – และโตอย่างยั่งยืน”
และเมื่อองค์กรเข้าใจสิ่งนี้อย่างแท้จริง… “นวัตกรรม” ก็จะไม่ใช่ของที่รออนุมัติ แต่เป็น “ผลลัพธ์ของความกล้า” ที่เกิดขึ้นทุกวัน
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#AgileNotFactory
#LeadershipTransformation
#OrganizationalDesign
#MindsetShiftForInnovation
agile
organization
agility
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย