Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนไว้ให้เธอ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
14 พ.ค. เวลา 10:13 • ความคิดเห็น
สามทักษะแห่งทศวรรษ
เมื่อวานให้สัมภาษณ์น้องคนนึง มีคำถามปิดท้ายว่าผมคิดว่าทักษะอะไรที่สำคัญที่สุดในอนาคตยุค AI นี้ ผมก็ตอบไปว่า “Growth mindset” ซึ่งก็คิดว่าเป็นคำตอบที่ดีพอใช้ แต่พอฟังกูรูระดับโลกอย่างคุณ robert greene ที่เขียนหนังสือระดับ best seller หลายเล่ม ศึกษาชีวิตผู้คนมาตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน โรเบิร์ตตอบคำถามคล้ายกันกับผมซึ่งผมฟังแล้วก็อยากกลับไปแก้และเล่าให้น้องคนนั้นฟังมาก
เพราะคำตอบของคุณโรเบิร์ต กรีน ไม่ได้แค่ฟังแล้วพยักหน้าแต่อยู่ในระดับที่ถึงกับต้องทบทวนตัวเองตามไปด้วยและอยากแชร์ให้กัลยาณมิตรทุกคนฟัง… อยู่ในระดับนั้นเลย
โรเบิร์ต กรีน ตอบคำถามที่ว่าทักษะใดที่สำคัญที่สุด จำเป็นที่สุดในยุคสมัยที่ผันผวนและปั่นป่วนแบบนี้สำหรับทั้งเรื่องชีวิตและเรื่องงานและไม่ว่าเป็นคนรุ่นใหม่หรือซีอีโอก็ต้องมี เขาพูดถึงทักษะสามอย่าง ซึ่งน่าสนใจว่าไม่ใช่ทักษะแบบ hard skill อย่างต้องรู้ coding ต้องเก่ง AI อะไรแบบนี้เลย
ทักษะแรกที่โรเบิร์ตกรีนบอกคือความฉลาดในการเข้าสังคม (social intelligence) ซึ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่คนรุ่นใหม่ดูแต่หน้าจอและไม่ออกไปไหนในสังคมที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ทักษะในเรื่องความเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง (empathy) การสื่อสารและการเล่าเรื่องได้ดี ความสามารถในการฟัง รวมถึงความสามารถในการสร้างและเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน เพราะมันจะนำไปสู่การร่วมมือกันกับหลายฝ่าย (collaboration) และความสามารถในการเป็นผู้นำคน
3
ซึ่งกรีนบอกว่าคือความสามารถในการที่ทำให้ผู้คนชอบเรา (likable) นั่นเอง
ซึ่งความสำคัญของเรื่องนี้ตรงกับที่วอร์เรน บัฟเฟต์ ตอบคำถามน้องๆรุ่นใหม่ที่งานประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุดว่า “คนที่คุณคบหาสมาคมด้วยนั้นสำคัญอย่างยิ่ง และอย่าคาดหวังว่าคุณจะตัดสินใจถูกต้องทุกครั้งในเรื่องนี้ แต่ชีวิตของคุณจะก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกับคนที่คุณทำงานด้วย คนที่คุณชื่นชม และคนที่กลายมาเป็นเพื่อนของคุณ”
ในไทยเองนั้น การที่จะเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางกัลยาณมิตร คนที่เก่งกว่าเรา พาเราไปในทางที่ดีนั้นน่าจะต้องเริ่มจากตัวเองที่ต้องสังเกตและรู้จักตัวเองก่อน และพาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มผู้คนที่ส่งเสริมเรา ไม่ว่าจะทำงานในบริษัทที่มีกิจกรรมบริษัทให้เราได้เข้าร่วม หลักสูตรต่างๆที่มีในไทย หรือแม้แต่ไปคารวะหาอาจารย์เก่งๆ ที่ช่วยเหลือเราได้
2
แต่ในการที่เราจะมีคนเก่ง คนดีรอบตัวนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าเรานิสัยดีแค่ไหนและมองหาอะไรจากการไปเข้าสังคม จะเอาแค่ connection ผิวเผิน ไปทางเส้นสาย เอนเอียงไปในการหาประโยชน์เพื่อตัวเอง จะไปแค่งานปาร์ตี้เมาเหล้าผิวเผิน หรือจะไปอยู่ในดง giver และใฝ่หาความรู้ร่วมกันและส่งเสริมซึ่งกันและกัน… ทุกอย่างคือดาบสองคมเสมอในมุมผม
The most important single ingredient in the formula of success is knowing how to get along with people.
Theodore Roosevelt
ข้อที่สองที่คุณโรเบิร์ตบอกก็คือ ความรักในการเรียนรู้ (love of learning) พลังอำนาจที่แท้จริงของวินัยและ passion ในการกระหายใคร่รู้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่การเรียนตามระบบการศึกษาแต่เป็นวินัยเรื่องการอ่าน อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ การหาไอเดียใหม่ๆ ความกระหายในการไปฟังไปเรียนในเรื่องที่เราไม่รู้ เจอคนที่เราไม่คุ้น พยายามเข้าใจในภาพกว้าง ไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วพอรู้หลายเรื่อง ความรู้ที่มาผสมกันนั่นคือไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ นั่นเอง
พี่สุรชัย พฤฒิกุลางกูร มืออิลัสอันดับหนึ่งของโลกชาวไทยเคยให้เคล็ดลับของการเป็นมือหนึ่งโลกมาอย่างยาวนานว่าให้ไปในที่ที่คนอาชีพเดียวกับเราไม่ไป….
1
ผมเคยไปมหาวิทยาลัยดังที่สหรัฐ ความตระหนักถึงความจำเป็นในการรู้ระดับสหวิทยาการ (multidisciplinary) นั้นสำคัญมากๆ ที่จะทำให้มนุษย์ยังมีคุณค่ามากกว่า AI มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มมีการส่งเสริมด้านนี้อย่างจริงจังแล้วด้วย
ที่สำคัญกว่านั้น ความคิดแบบ beginner’s mind (ภาษาญี่ปุ่นคือ Shoshin) นั้นจำเป็นมากๆที่จะทำให้ตัวเอง humble มีความสงสัยใคร่รู้ตลอดเวลาและยอมเสียฟอร์ม ยอมบอกว่าตัวเองไม่รู้เพื่อให้รู้ ซึ่งทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เวลามีตำแหน่งสูงๆ ในระดับซีอีโอที่อีโก้จากความสำเร็จมักจะทำให้ความคิดแบบ beginner’s mind นั้นทำได้ยากมากๆ แต่ในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบทวีคูณ ประสบการณ์เดิมใช้แทบไม่ได้อีกต่อไป ความรักในการเรียนรู้จึงเป็นทักษะที่จำเป็นสุดๆ ในทศวรรษที่จะถึงนี้
คนรุ่นผมที่อายุมากและเจออะไรมามากก็จะคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมแค่ได้ฟังสามเรื่องคือ โลกแห่ง Esport ความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่จากงานวิจัย Tinder และล่าสุดในฟังความยิ่งใหญ่ของจักรวาล BL และ GL (Boy love และ Girl Love) ก็เป็นการกระตุกตัวเองได้อย่างดีว่าเรานั้นช่างไม่รู้อะไรเลย
Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.
Mahatma Gandhi
ข้อสุดท้าย โรเบิร์ตบอกว่าคือ ความอดทน (patience) ซึ่งคุณโรเบิร์ตบอกว่าเป็นทักษะที่คนมองข้ามได้ง่ายสุดในโลกสมัยนี้ แต่มนุษย์นั้นถ้าจะเก่งมากกว่าคนอื่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นไม่มีทางลัด ต้องใช้เวลาเป็นปี ไม่ใช่วัน และต้องมีความอึดถึกทนเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เดินหน้าต่อแม้จะยังไม่เห็นฝั่งก็ตาม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในยุคโซเชียล โดยเฉพาะในเด็กรุ่นใหม่ที่อยากรวยเร็ว ใจร้อน ซึ่งถ้าใครมีจะเรียกว่าเป็น superpower เลยก็ได้เพราะคนส่วนใหญ่แทบจะไม่่มี
ผมเพิ่งเขียนเรื่องเชฟไอซ์แห่งศรณ์ ร้านมิชิลินสามดาวร้านเดียวของไทย เชฟไอซ์พยายามสอนเด็กๆรุ่นใหม่แต่พบว่าความอดทนนั้นต่ำมาก สามวันห้าวันถ้าทำไม่ได้ก็เลิกแล้ว อยากดัง อยากประสบความสำเร็จเร็ว แต่เชฟไอซ์เล่าว่าเขาพยายามหัดหุงข้าวขึ้นหม้อแบบให้เมล็ดตั้งฉากได้ทั่วพื้นที่ที่ได้วิธีการมาจากคุณยายทางภาคใต้ ใช้เวลาหุงผิดต้องทิ้ง ลองใหม่อยู่ห้าปี… นี่คือคุณสมบัติของเบอร์หนึ่งในวงการคนทำอาหารของไทย
2
Success is very often a matter of hanging on after others have let go.
William Feather
2
โรเบิร์ต กรีนสรุปว่า ทักษะสามอย่างนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ และไม่สามารถ “hack” ได้ ต้องฝึกฝนถึงจะได้มา ต้องหัดไปเจอผู้คน หัดทำตัวเป็น giver รู้จักสะสมกัลยาณมิตร ต้องหัดเรียนรู้ มีวินัยในการอ่านหนังสือ มีวินัยในการเรียนสาขาวิชาใหม่ๆ และต้องหัดที่จะอดทน รอคอยและใช้เวลาฝึกทักษะที่สำคัญๆ
1
โรเบิร์ตบอกว่าถ้าเป็นคนอายุน้อย มีสามอย่างนี้ได้เดี๋ยวก็จะมีไอเดีย มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก และถ้าผู้นำองค์กรไหนมีสามข้อนี้ก็จะสามารถนำพาองค์กรให้เจอ S curve ใหม่และเป็นผู้นำที่ไม่ตกยุคได้ ไม่มีใครแทนได้เช่นกัน
สามทักษะแห่งทศวรรษนี้ ถ้ามองอย่างลึกซึ้งในเชิงการตลาดก็จะพอเข้าใจได้ เพราะอะไรที่มีค่ามากๆ ก็คืออะไรที่มีน้อย คุณสมบัติสามอย่างนี้ในยุคสมัยนี้หาคนมีไม่ง่ายเพราะคนยุคอะไรที่เคลื่อนตัวเร็ว เสพติดมือถือ ติดกับดักอัลกอรึทึ่มของโซเชียลก็จะไม่อยากไปสังคมกับใครตัวเป็นๆ ไม่อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ และไม่มีความอดทนกันเป็นส่วนใหญ่
1
ซึ่งถ้าเราอยากจะเป็นคนที่มีมูลค่าสูงกว่าใครในสังคมยุคใหม่ การอดทนพัฒนาทักษะทั้งสามอย่างจึงจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ตำแหน่งอะไรก็ตาม
2
โดยเฉพาะในยุค average is over แบบนี้ครับ…
1
82 บันทึก
78
2
124
82
78
2
124
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย