Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
14 พ.ค. เวลา 15:08 • ความคิดเห็น
💬 ความผูกพัน (Engagement) ไม่ใช่แค่ “สร้าง Project” แต่คือความไว้ใจที่ต้องสร้างทุกวัน
"เราตอบแบบสำรวจไปแล้ว...แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย แล้วจะตอบไปทำไมอีก?"
หรือ “ปีก่อนๆ ก็ตอบไปแล้ว…แต่มันก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปนิ?…”
คำพูดเรียบๆ แต่สะเทือนใจนี้ หลุดออกมาจากปากของพนักงานคนหนึ่งในห้องประชุมเรื่องความผูกพันพนักงาน — และทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที
* ไม่ใช่เพราะเขาไม่เคารพโครงการขององค์กร ไม่ใช่เพราะเขาต่อต้านการเปลี่ยนแปลง แต่เพราะเขา "พูดความจริงที่ไม่มีใครกล้าพูด"
* สิ่งที่องค์กรหวังว่าจะเป็น "แคมเปญพลิกวัฒนธรรม" กลับกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พนักงานรู้สึกว่า "ไม่ได้ยินเสียงของฉันจริงๆ"
และนั่นคือปัญหาใหญ่ของ Engagement ยุคนี้ครับ... ที่เรากำลังเข้าใจผิดว่า "มันคือโครงการ" ทั้งที่จริงแล้ว มันคือ "ความไว้ใจ" ที่ต้องถูกสร้างขึ้นใหม่ในทุกวัน ผ่านพฤติกรรมและบทสนทนาจริง
⸻
🎭 Engagement ไม่ได้ตายเพราะความขัดแย้ง แต่มันตายเพราะ... ความเงียบ
เมื่อพนักงานตอบแบบสอบถาม แล้วองค์กรเงียบ... เมื่อมีคำถาม แต่หัวหน้าเปลี่ยนเรื่องคุย… เมื่อมีสิ่งที่อยากบอก แต่ไม่มีช่องทางให้พูดอย่างปลอดภัย…
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่พลาดโอกาสครับ แต่คือ "การทำลายความไว้ใจทางอ้อม"
Gallup เคยสรุปไว้ว่า ทีมที่มี Engagement สูง จะมี productivity สูงขึ้น มีการลาออกน้อยลง และเกิด innovation ได้เร็วกว่า
แต่ Engagement แบบนั้น ไม่ได้เกิดจาก Dashboard หรือระบบ HR ที่สวยหรู
มันเกิดจากคำถามง่ายๆ ที่ถามในเวลาที่เหมาะสม เช่น...
* “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?"
* "วันนี้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกดีเป็นพิเศษไหม?"
* "มีอะไรที่ทำให้รู้สึกติดขัดหรืออึดอัดบ้างไหม?”
* และที่สำคัญที่สุดคือ... เมื่อได้คำตอบแล้ว "เราทำอะไรกับมันต่อหรือเปล่า?"
⸻
🧠 Engagement ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในแบบสอบถาม แต่มันอยู่ในบทสนทนา
บริษัทหนึ่งมีทีมที่คะแนน engagement ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด ภายใน 3 เดือน — ทั้งที่ไม่ได้เพิ่มเงินเดือน ไม่ได้เปลี่ยนสวัสดิการ และไม่ได้ restructure งานเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่เปลี่ยนมีแค่ข้อเดียว คือ หัวหน้าคนใหม่
* “เริ่มคุยกับลูกทีมทุกคนอาทิตย์ละครั้ง”
* ไม่มี KPI, ไม่มี Agenda, ไม่มี Dashboard มีเพียงคำถามเดียวที่เขาถามซ้ำๆ เช่น “สัปดาห์นี้ คุณโอเคไหม?"
มันฟังดูง่ายใช่ไหมครับ? แต่นั่นแหละคือ "พลังของความง่ายที่จริงใจ"
* พนักงานคนหนึ่งบอกว่า "นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกว่า มีคนฟังเราจริงๆ ในที่ทำงาน" และเมื่อมีคนฟังอย่างจริงใจ คนก็จะกล้าพูด กล้าเสนอไอเดีย และกล้าลุยไปกับทีม
* ไม่นาน ทุกคนก็เริ่มมีบทสนทนาที่ลึกขึ้น พูดถึงความรู้สึก ความฝัน อุปสรรค และเป้าหมายของตัวเอง
* หัวหน้าไม่ใช่แค่คนแจกงานอีกต่อไป แต่กลายเป็นคนที่อยู่เคียงข้างและช่วยปลดล็อกศักยภาพของแต่ละคน
⸻
📉 องค์กรที่ล้มเหลวในการสร้าง engagement มักมี 3 พฤติกรรมนี้ร่วมกัน
1. ถามแล้วไม่ฟัง (หรือฟังแล้วไม่ทำอะไรเลย)
* หลายองค์กรมีระบบ Feedback ที่ดูดี แต่เมื่อพนักงานแชร์ปัญหา กลับไม่มีใครหยิบไปทำต่อ บางครั้งหัวหน้าก็พยักหน้าแต่ไม่จด ไม่ถามต่อ ไม่ follow-up คนในทีมเลยไม่รู้ว่าที่พูดไปมีคนรับฟังจริงไหม?
* เช่น พนักงานคนหนึ่งเสนอไอเดียในการปรับปรุงระบบภายใน แต่ผ่านไป 3 เดือน ไม่มีแม้กระทั่ง feedback ว่าได้รับเรื่องแล้วหรือไม่? — ความเงียบแบบนี้คือจุดเริ่มต้นของการหมดศรัทธา
2. ตั้งคำถามใหญ่ แต่ไม่มีเวลาฟังคำตอบเล็กๆ
* เช่น การเปิด survey หัวข้อ "คุณอยากให้เราปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร?" แต่พอมีคนตอบไปอย่างตั้งใจ กลับไม่มีใครเปิดอ่าน comment หรือหยิบ insight มาพูดถึงในวงประชุมเลย
* หรือแม้แต่ใน 1:1 meeting บางครั้งหัวหน้าก็ถามว่า "ช่วงนี้โอเคไหม?" แต่พออีกฝ่ายเริ่มเล่า กลับหันไปมองนาฬิกา หรือรีบตัดบทเพราะมีประชุมต่อ — นี่คือความย้อนแย้งที่ทำให้คำถามนั้นกลายเป็นแค่พิธีกรรม ไม่ใช่การฟังที่แท้จริง
3. พูดเรื่องวัฒนธรรมใน All-hands แต่ไม่ดูเลยว่า หัวหน้าพูดอะไรกับลูกทีมตอนสี่โมงเย็นวันอังคาร
* การพูดบนเวทีว่าเราเป็นองค์กรที่ใส่ใจพนักงานนั้นไม่พอ หากพฤติกรรมของหัวหน้าทีมในชีวิตจริงยังตอบแบบปัดๆ เวลาลูกทีมมีปัญหา หรือเอาแต่ใช้ KPI กดดันโดยไม่รับฟังข้อจำกัด
* ยกตัวอย่างจริงจากองค์กรหนึ่งที่ทำวิดีโอวัฒนธรรมออกมาสวยมาก แต่ในแชทกลุ่มของแผนก หัวหน้ากลับพิมพ์ดุพนักงานต่อหน้าคนอื่นเมื่องานมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย — นั่นคือสิ่งที่ทีมจำ และนั่นแหละคือวัฒนธรรมตัวจริงที่ทุกคนสัมผัสได้
และในหลายองค์กร บางทีปัญหาไม่ได้อยู่ที่โครงการ แต่อยู่ที่ "คนกลาง" ที่ไม่มีพื้นที่จะฟัง ไม่มีเวลาจะคุย และไม่มีสกิลในการเชื่อมโยงกับคนในทีม
เพราะวัฒนธรรมไม่ได้อยู่ใน Presentation ครับ แต่มันอยู่ในน้ำเสียง วิธีถาม และท่าทีตอนที่ "ไม่มีใครเฝ้าดู"
⸻
🛠️ ถ้าอยากสร้าง Engagement ที่ยั่งยืน (ในความเห็นของผมคือ...) ต้องเริ่มจาก...
✅ ให้ Feedback กลายเป็นบทสนทนา ไม่ใช่แบบสอบถามปีละ 1-2 ครั้ง
✅ เปลี่ยน Check-in รายสัปดาห์จากเรื่องสถานะงาน เป็นเรื่องสถานะใจ
✅ สร้างวัฒนธรรมของการ "ฟังให้เข้าใจ ไม่ใช่ฟังเพื่อตอบกลับ"
✅ ทำให้ "หัวหน้าระดับกลาง" มีพื้นที่และทักษะในการฟังลูกทีมจริงๆ
✅ สร้าง Safe Space สำหรับพูดเรื่องยาก เรื่องอึดอัด และเรื่องที่ยังไม่สมบูรณ์
✅ สร้างวัฒนธรรมของการ Action — ฟังแล้วต้องทำ ไม่ใช่รับรู้แล้วเงียบ
และสำคัญที่สุด...
✅ เมื่อลูกทีมกล้าพูดอะไรออกมา จงอย่าทำให้เขารู้สึกว่า "พูดไปก็เท่านั้น"
⸻
📌 ดังนั้น Engagement ที่แท้จริง เริ่มจากการกล้าฟัง และลงมือทำทีละนิด ทีละวัน
วัฒนธรรมที่ดีไม่ใช่ของตกแต่ง และไม่ใช่ของที่เอาไว้ PR แต่มันคือ "ประสบการณ์ที่คนในองค์กรรู้สึกอยู่ทุกวัน" ว่า... เขาอยู่ในที่ที่คนฟังเขาจริง
อย่าถามว่าทำไมคนไม่ผูกพันกับองค์กร...แต่จงถามว่า "วันนี้เราเคยฟังพวกเขาจริงๆ แล้วหรือยัง?"
เพราะความเงียบไม่ใช่แค่ขาดเสียงพูด... แต่มันคือสัญญาณว่า "ความหวัง" กำลังหมดไป...และเมื่อพนักงานในองค์กรหมดหวัง... องค์กรนั้นจะไม่มี innovation ที่เติบโต..
มาเริ่มกันที่คำถามง่ายๆ สัปดาห์นี้
"คุณอยากให้ทีมของเราเปลี่ยนอะไรแค่ 1 อย่าง เพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้น?"
#วันละเรื่องสองเรื่อง #Engagementที่แท้จริง #LeadershipByListening #TrustNotTools
hr
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย