15 พ.ค. เวลา 05:44 • นิยาย เรื่องสั้น
ป้อมมหากาฬ

แสงดาวที่ป้อมมหากาฬ

ปี 2568 ลมเย็นยามค่ำพัดโชยมาเบาๆ ผม บ๊อบ ในวัย 34 ปี เจ้าของสำนักพิมพ์ออนไลน์เล็กๆ ที่เติบโตขึ้นจากความรักในตัวอักษร นั่งอยู่บนม้านั่งไม้เก่าแก่ในสวนป้อมมหากาฬ แสงไฟสีส้มนวลจากเสาไฟส่องกระทบกำแพงอิฐโบราณที่ดูเหมือนจะโอบกอดเรื่องราวมากมายเอาไว้ ในมือถือสมุดโน้ตเล่มเก่า ปกหนังเริ่มเปื่อย แต่ข้างในเต็มไปด้วยลายมือหวัดๆ ของเด็กชายวัย 15 ปี
ผมหลับตาลงชั่วครู่ ภาพในอดีตก็ฉายชัดเจน… ปี 2549 ผมเป็นเด็กมัธยมที่รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดออกมาจากโลกที่บ้าน มาเจออีกโลกหนึ่งที่ป้อมมหากาฬ ตอนนั้น ที่นี่ไม่ใช่สวนสาธารณะสวยงามแบบนี้ แต่เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา แม้จะดูทรุดโทรมในสายตาคนนอก แต่สำหรับผม มันเต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราว
ผมจำได้ว่าชอบมานั่งวาดรูปตรงกำแพงป้อม วาดทหารโบราณ วาดเรือสำเภา วาดจินตนาการต่างๆ ที่ผุดขึ้นในหัว และที่ขาดไม่ได้… วาด “ดาว”
ดาว… เด็กหญิงข้างบ้านที่ขายขนมครกเก่งที่สุดในซอย ดวงตาของเธอมักจะเป็นประกายสดใสเหมือนดาวสมชื่อ รอยยิ้มของเธออบอุ่นเหมือนแสงแดดยามเช้า เรามักจะนั่งคุยกันใต้ร่มมะขามใหญ่หน้าป้อม เธอเล่าเรื่องยายที่เล่านิทานโบราณให้ฟัง ผมเล่าเรื่องหนังสือที่อ่าน เธอชอบฟังเรื่องผี ผมกลัวแต่ก็ทำเป็นไม่กลัว
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมถูกเด็กโตแถวนั้นแกล้ง ดาวเป็นคนเดียวที่กล้าเข้ามาปกป้องผม เธอตัวเล็กนิดเดียวแต่เสียงดังฟังชัด จนพวกนั้นยอมล่าถอย ตั้งแต่วันนั้น ผมก็รู้สึกว่าดาวไม่ใช่แค่เพื่อน แต่เป็นเหมือนแสงดาวนำทางในโลกที่ผมยังไม่เข้าใจ
แต่แล้ววันหนึ่ง ดาวก็หายไป… ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข่าวลือมากมาย บ้างก็ว่าครอบครัวเธอย้ายไปต่างจังหวัด บ้างก็ว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ผมเฝ้ารอเธออยู่ที่เดิมทุกวัน วาดรูปเธอในสมุดโน้ต หวังว่าสักวันเธอจะกลับมาพร้อมรอยยิ้มสดใสเหมือนเดิม
เวลาผ่านไป ผมเติบโตขึ้น เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น ความฝันที่จะเป็นนักเขียนก็ผลิดอกออกผล กลายเป็นสำนักพิมพ์ออนไลน์เล็กๆ ที่ผมรัก แต่ความทรงจำเกี่ยวกับดาวและความอบอุ่นที่ผมเคยได้รับจากเธอก็ไม่เคยจางหายไป
เมื่อมีการปรับปรุงป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะ ผมรู้สึกใจหายเหมือนกันที่ชุมชนเก่าแก่หายไป แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกดีที่ป้อมยังคงอยู่ เป็นเหมือนอนุสรณ์ถึงช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตผม
วันนี้ ผมกลับมาที่นี่อีกครั้ง พร้อมกับสมุดโน้ตเล่มเก่าที่เต็มไปด้วยภาพวาดและความทรงจำ ผมเปิดไปหน้าที่วาดรูปดาว ดวงตาของเธอยังคงเป็นประกายในความทรงจำของผม
ทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะเสียงใส ผมเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำลังวิ่งเล่นอยู่กับแม่ของเธอ ใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้น… ช่างคุ้นตา
ผู้หญิงคนนั้นหันมายิ้มให้ผม รอยยิ้มของเธอมันอบอุ่น… เหมือนแสงตะวันในความทรงจำ
“สวัสดีค่ะคุณ… บ๊อบ ใช่ไหมคะ?” เธอทักทายด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
ผมอึ้งไป มองใบหน้าเธออย่างพิจารณา “ดาว… ดาวใช่ไหม?”
ดวงตาของเธอเป็นประกาย น้ำตาคลอเบ้า “ใช่ค่ะ บ๊อบ… ไม่น่าเชื่อเลย”
เราสองคนนั่งคุยกันอยู่นาน แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ต่างคนต่างเจอมา เธอเล่าว่าครอบครัวเธอย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดจริงๆ และเพิ่งย้ายกลับมาเมื่อไม่นานนี้ เธอจำเด็กชายขี้อายที่ชอบวาดรูปใต้ต้นมะขามได้เสมอ
ความรู้สึกอบอุ่นเอ่อล้นอยู่ในใจผม มันเหมือนวงกลมของความทรงจำได้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง แสงดาวในอดีตกลับมาส่องสว่างอีกครั้งที่ป้อมมหากาฬแห่งนี้
ค่ำคืนนี้เงียบสงบ แต่ในใจของผมกลับเต็มไปด้วยความสุขและความหวัง ผมรู้ว่าบางครั้ง โชคชะตาก็นำพาคนที่ผูกพันกันกลับมาเจอกันอีกครั้ง เหมือนเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดโน้ตเล่มเก่า… เรื่องราวของมิตรภาพ ความผูกพัน และแสงดาวที่ส่องนำทางในความทรงจำอันแสนอบอุ่น
โฆษณา