อนุสัญญาภาษีซ้อน >>>
อนุสัญญาภาษีซ้อน เป็นข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานจัดเก็บภาษีประเทศหนึ่งกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีอีกประเทศหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อนสำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นใน 2 ประเทศ และเพื่อกำหนดเพดานการจัดเก็บภาษีสูงสุดของแต่ละประเภทธุรกรรมภายใต้การตกลงร่วมกัน ปัจจุบันประเทศไทย มีอนุสัญญาภาษีซ้อน กับประเทศต่าง ๆ รวม 61 ประเทศ
หลักการของอนุสัญญาภาษีซ้อน อาจจะพอสรุปให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ดังนี้
1.การเกิดธุรกรรมใด ๆ ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศ มีสิทธิในการจัดเก็บภาษีตามกฎหมายภายในของประเทศตนเอง เช่น บริษัทในไทย มีการจ่ายเงินค่า Trademark ไปบริษัทที่ต่างประเทศ บริษัทในไทยมีสิทธิจัดเก็บภาษีเมื่อมีการจ่ายค่า Trademark ในอัตรา 15% ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฏากร เป็นต้น
2. อนุสัญญาภาษีซ้อน จะมีการกำหนดเพดานการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการจ่ายเงินได้แต่ละประเภทไว้ เช่น อนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างไทย สิงคโปร์ กำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้ประเภท ค่า Trademark ไว้ สูงสุดไม่เกินร้อยละ 8 กรณีหากบริษัทในไทย จ่ายค่า Trademark ไปให้บริษัทที่ประเทศสิงคโปร์ จะจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลได้แค่ 8% เท่านั้น ไม่ใช่ 15% ตามอัตรากฎหมายภายในของประเทศไทย เป็นต้น
3. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ถูกอีกประเทศหนึ่งเรียกเก็บ และเป็นประเทศที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างกัน ส่วนใหญ่หน่วยงานจัดเก็บภาษีของแต่ละประเทศจะมีการทำความตกลงในเรื่องการขจัดการเก็บภาษีซ้อนไว้ เช่น บริษัทในไทยเมื่อมีรายได้จากต่างประเทศ จะต้องนำรายได้มารวมคำนวณในประเทศไทย แต่ถ้า ถูกจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ในประเทศคู่ค้าที่มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทยด้วย ให้นำภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ถูกเรียกเก็บในประเทศคู่ค้า มาเป็นเครดิตภาษี ตอนคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลในไทย
ทั้งนี้ เครดิตภาษีที่ใช้ในประเทศไทย จะต้องไม่เกินอัตราภาษีในประเทศไทย เป็นต้น
เช่นเดียวกัน หากบริษัทในไทย เป็นฝ่ายเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลกับบริษัทประเทศคู่ค้า และตามกฎหมายภายในของบริษัทประเทศคู่ค้า จะต้องนำ รายได้ที่ได้รับจากบริษัทในไทย ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทประเทศคู่ค้า อาจจะขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในประเทศไทย เพื่อไปใช้เป็นเครดิตภาษีในประเทศคู่ค้า ซึ่ง หลักฐานการจ่ายภาษีนิติบุคคลในประเทศไทยจะต้องออกโดยกรมสรรพากรไทยเท่านั้น โดยบริษัทในไทย จะเป็นผู้ร้องขอการออกเอกสารดังกล่าวต่อกรมสรรพากรไทย ด้วย แบบ รอ.01
อย่างไรก็ตามในอนาคต ภายใต้กรอบการเป็นกลุ่มสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และ BEPS อาจมีการกำหนดสิ่งอื่นใดเพิ่มเติมในอนุสัญญาภาษีซ้อน เพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษีจากธุรกรรมระหว่างประเทศเพิ่มเติมเข้าไปในอนุสัญญาภาษีซ้อน เช่น หลักการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่กำหนดให้อีกประเทศหนึ่งสามารถจัดเก็บภาษีบริษัทในอีกประเทศหนึ่งได้โดย ไม่ต้อง มีสถานประกอบการถาวร (PE) สำหรับเงินได้ประเภท กำไรธุรกิจ ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน เป็นต้น ตามหลักการของ Pillar 1
ขอบคุณรูปภาพประกอบบทความจาก pixabay
#VIStylebyMooduang #สำนักงานกฎหมายภาษีสยามลอว์ #อนุสัญญาภาษีซ้อน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
