Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right Style by Bom+
•
ติดตาม
15 พ.ค. เวลา 15:16 • การเมือง
นายพลต้องการหยุดสงคราม นักการเมืองกลับขัดขวาง
“ซีมัวร์ เฮิร์ช” กล่าวถึงอุปสรรคที่แท้จริงในสงครามยูเครน
ซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวอเมริกันสายสืบสวนที่รายงานช็อคโลกไปเมื่อสองสามปีก่อนเกี่ยวกับการก่อวินาศกรรมท่อก๊าซนอร์ดสตรีมในทะเลบอลติก ล่าสุดเขาได้ลงบทความของเขาบน Substack เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 (วันที่มีการเจรจาตรงระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ที่อิสตันบูล) ชื่อว่า “A WAR THE GENERALS WANT TO END”
ทางเพจได้สรุปประเด็นสำคัญจากทั้งบทความของเฮิร์ชฉบับดังกล่าวไว้ดังนี้
เครดิตภาพ: anews.com.tr
แม้ว่าการเจรจาจะยังดำเนินต่อไป แต่สันติภาพในยูเครนก็ยังไม่ใกล้เคียงกับตอนที่ทรัมป์ประกาศตอนก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งปูตินเริ่มไว้เมื่อกว่า 3 ปีก่อน คือความเต็มใจของนายพลทั้งสองฝ่ายที่จะพูดว่า “พอแล้ว! อย่าทำอีกเลย”
เมื่อกว่า 1 ปีก่อน เราได้รับรู้ว่าการสัมภาษณ์อันน่าทึ่งที่ “นายพลวาเลรี ซาลุจนี” แห่งยูเครนให้ไว้กับ The Economist เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2023 ซึ่งเขาประกาศว่าสงครามเข้าสู่ภาวะชะงักงันแล้วนั้น ซึ่งคู่กรณีอีกฝ่ายก็ได้รับรู้โดย “นายพลวาเลรี เกราซิมอฟ” หัวหน้าเสนาธิการกองทัพรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งบอกกับเฮิร์ชเมื่อไม่นานนี้ว่า “ไม่ใช่เหล่านายพล แต่เป็นนักการเมือง” หมายถึง “ปูติน” และ “เซเลนสกี” กับกลุ่มนักการเมืองชาวยูเครนที่ยังคงดำเนินสงครามในพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทกันอยู่ในยูเครน
สมรภูมิสำคัญในปัจจุบันคือ “ภูมิภาคโดเนตสค์” ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกองทัพรัสเซียกำลังเข้าควบคุมทั้งทางกายภาพและทางการเมืองเหนือดินแดนของยูเครน ขณะเดียวกันก็กำลังพูดถึงสันติภาพ การสู้รบที่รุนแรงกำลังเกิดขึ้นนอกเมืองโดเนตสค์ราว 55 กิโลเมตร ในและรอบๆ เมืองโปครอฟสค์และโทเรตสค์ ซึ่งสื่อของสหรัฐฯ ไม่สนใจการสู้รบนี้มากนัก
1
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกองทัพรัสเซียยึดฐานที่มั่นสามแห่งในโดเนตสค์ได้ ทำให้สามารถปิดกั้นเส้นทางลำเลียงสำคัญของยูเครนและคุกคามเขตใกล้เคียงได้ เห็นได้ชัดว่าปูตินมุ่งมั่นที่จะยึดครองดินแดนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่เขาจะเริ่มการเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง
คนอเมริกันอีกคนที่มีความเกี่ยวพันในแวดวงข่าวกรองของยุโรปบอกเฮิร์ชว่า นักการทูตยุโรปเชื่อมั่นว่าผู้เจรจาของรัสเซียกำลัง “ขำกับเรื่องนี้ลับหลัง” คณะเจรจาของฝ่ายอเมริกาซึ่งนำโดย “สตีฟ วิทคอฟฟ์” นักธุรกิจผู้มีจิตใจดีแต่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ และ “คีธ เคลล็อกก์” นายพลสามดาวเกษียณอายุราชการแห่งกองทัพบกสหรัฐ และเป็นคนโปรดของ “โดนัลด์ ทรัมป์”
ขณะนี้ทีมเจรจาได้เดินทางมายังตุรกีแล้ว ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดี “เรเจป ไตยิป เออร์โดกัน” จะอำนวยความสะดวกในการเจรจาสันติภาพกับคณะผู้แทนรัสเซียอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ทรัมป์ซึ่งอยู่ในซาอุดิอาระเบีย และ เมื่อปูตินประกาศจะไม่เข้าร่วมการเจรจา ดังนั้นทรัมป์กลับส่ง “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศของเขาไปแทน
คนอเมริกันอีกคนบอกกับเฮิร์ชว่า “ความไร้ความสามารถอย่างแท้จริง” ของทีมสหรัฐฯ ทำให้บรรดานักการเมืองยุโรปหลายคนสงสัยว่าจะบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่หากไม่มีการเจรจาโดยตรงระหว่างปูตินและเซเลนสกี ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้
แม้ว่าเซเลนสกีจะระบุว่าเขายินดีที่จะเดินทางมาตุรกีหากปูตินเข้าร่วมด้วยก็ตาม แต่ด้วยการสนับสนุนทางการเงินและการทหารที่เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานนี้แก่เซเลนสกี ยุโรปจึงได้เคลื่อนไหวเข้าสู่สถานการณ์ที่ “ง่ายเกินกว่าจะยุติสงครามได้ แต่กร้าวพอที่จะเข้าไปขัดขวางการสร้างสันติภาพ”
1
“ตอนนี้รัสเซียเป็นปัญหา ปูตินไม่ใช่สตาลิน แต่คุณต้องดูรายงานการประชุมที่ยัลตาเพื่อทำความเข้าใจแนวคิดของรัสเซียและยุโรปในปัจจุบัน” เขาหมายถึงการประชุมครั้งที่สองและครั้งสุดท้ายของกลุ่มที่เรียกว่า “Big Three” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1945 นั่นคือ “วินสตัน เชอร์ชิลล์” “โจเซฟ สตาลิน” และ “แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์”
“เหตุการณ์ประชุมสุมหัวที่ยัลตายังตามหลอกหลอนจิตใจของบรรดาผู้นำยุโรป โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บริเวณชายแดนติดกับรัสเซีย” ที่ยัลตา เชอร์ชิลล์และรูสเวลต์เชื่อคำสัญญาของสตาลินที่จะสานต่อสงครามกับฮิตเลอร์ในยุโรปโดยยกอำนาจโดยพฤตินัยในโปแลนด์ โรมาเนีย ยูโกสลาเวีย ฮังการี และรัฐบอลติกให้กับเขา เมื่ออำนาจของโซเวียตเสื่อมถอยลง ประเทศเหล่านี้ก็ได้รับเอกราชกลับคืนมาและกลับกลายมาเป็นสมาชิกของนาโตแทน
2
ภาพเหตุการณ์การประชุมที่ยัลตาของ Big Three ในตอนนั้น ปี 1945
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐผู้หนึ่งซึ่งได้ให้ความเห็นสอดคล้องกับสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันหลายคนในรัฐสภาสหรัฐกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้นำรัสเซียยังคงรู้สึกว่า “ถูกโกงรางวัลอันสมควรสำหรับการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา” ซึ่งเป็นประเด็นหลักของการรำลึกอย่างยิ่งใหญ่ที่รัสเซียเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือนาซีเยอรมันเมื่อสัปดาห์ก่อน
ปูตินและนายพลหลายคนเชื่อว่าการเสียสละตนเองของกองทัพแดงในสตาลินกราดและยุโรปตะวันออกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะในที่สุด
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเสริมว่า ชาวยุโรปตะวันตกจำนวนมากกลัวว่าการรำลึกของ "ปูติน" มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นปฏิบัติการทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนของเขาว่าเป็น “ก้าวแรก” ในแผนระยะยาวเพื่อยึดดินแดนส่วนที่รัสเซียเสียให้กับชาติตะวันตกและนาโตตั้งแต่ปี 1989 กลับคืนมา
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวย้ำว่าเขายังมองเห็นโอกาสที่ทรัมป์จะบรรลุข้อตกลงกับปูติน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงความสนใจอย่างแรงกล้าของทรัมป์ที่มีต่อข้อตกลงในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไหลเข้าทุกฝ่าย รวมถึงบริษัทของสหรัฐด้วย แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ในแนวหน้าปัจจุบันบ่งชี้ว่าปูตินตั้งใจที่จะเดินหน้ารุกต่อไปเพื่อยึดดินแดนเพิ่มเติม
2
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดในวิกฤตการณ์ปัจจุบันคือความจริงที่ว่าทรัมป์ “ไม่เคยได้ยินหรือสนใจเกี่ยวกับการประชุมยัลตา” ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นของชาวยุโรปที่ได้ยินข้อสงสัยของทรัมป์เกี่ยวกับการสนับสนุนทางทหารต่อยูเครน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการการสนับสนุนมากที่สุด แต่ก็กลัวเกินกว่าที่จะเกิดการยกระดับความรุนแรงกับรัสเซียจนไม่กล้าเข้าแทรกแซงโดยตรง
อ้างอิงบทความฉบับล่าสุดของ “ซีมัวร์ เฮิร์ช” ที่ชื่อว่า “A WAR THE GENERALS WANT TO END” ได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
อ่านเพิ่มเติม
seymourhersh.substack.com
A WAR THE GENERALS WANT TO END
Though talks continue, a peace in Ukraine is no nearer than when Trump took office
เรียบเรียงโดย Right Style
15th May 2025
■
อ้างอิง:
https://seymourhersh.substack.com/p/a-war-the-generals-want-to-end
<เครดิตภาพปก: Emilija Jefremova / Reuters>
ยูเครนรัสเซีย
russia
สหรัฐอเมริกา
4 บันทึก
38
9
11
4
38
9
11
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย