พอได้ฟังเรื่องราวของคุณกิริตที่ HOW Club ที่คุณกิริตมาเล่าแบบอบอุ่นและเมตตาผู้ฟังรุ่นใหม่มากๆ ก็ได้แต่คิดในใจว่า ทำไมไม่เคยได้ยินเรื่องราวและบทเรียนชีวิตอันน่าตื่นเต้นของคุณกิริตมาก่อน ไปพยายามหาในบทสัมภาษณ์ก็ไม่มี เป็นอาณาจักรระดับโลกที่ made in Thailand ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้
ซักพักก็มีเด็กจบใหม่จากอินเดียมาสัมภาษณ์แทบยกคลาส คุณกิริตเล่าขำๆว่าเขาไม่รู้จะถามทางวิชาการอะไร เลยถามสามคำถามหลักว่า do you smoke? Do you drink? Are you non vegetarian? ใหม่ๆ คนถูกสัมภาษณ์ก็งง แต่ถ้าใครมีทั้งสามข้อคือทั้งสูบบุหรี่ ทั้งกินเหล้า ทั้งกินอาหารปกติ คุณกิริตก็จะรับเลยเพราะต้องการคนที่ไม่เรื่องมาก เข้าสังคมได้ ไปประเทศไหนก็กินอาหารท้องถิ่นได้
จุดแข็งของคุณกิริทคือทำให้ผู้ต้องการซื้อสินค้าได้สินค้าเร็วและบ่อยแทบจะ just in time จะได้ไม่ต้องสต๊อกเยอะ และหัวใจสำคัญของธุรกิจ trading คือวงเงินจากธนาคารในการหมุน ยิ่งมีวงเงินมากก็จะค้าขายได้มาก
สมัยหนุ่มๆ คุณกิริตเวลาจะบินไปตะวันออกกลางหรือประเทศไหนๆก็จะบิน first class (สมัยก่อนไม่มี business class) แล้วจะทิปเจ้าหน้าที่ที่ตรงออกตั๋วว่าจะขอนั่งกับคนท้องถิ่นที่เขากำลังจะไปเสมอ เพราะว่าเวลาหลายชั่วโมงบนเครื่องบินก็จะได้นั่งคุยกับคนท้องถิ่นที่ถ้านั่ง first class แล้วก็คงเป็นคนสำคัญที่โน่นแน่ๆแล้วก็สามารถต่อยอดหรือแนะนำใครให้เขาไปทำการค้าได้ทันทีเมื่อไปถึง
Mega we care ก็เกิดจากการนั่งติดกับนักธุรกิจตอนไปมุมไบแล้วเขาเล่าว่ามีเทคโนโลยีการผลิต soft capsule ที่เจ๋งมาก คุณกิริตเลยชวนมาหุ้นตั้งโรงงานเมืองไทย จนกลายเป็นธุรกิจหมื่นล้านในปัจจุบัน โชคในมุมของคุณกิริตจึงมีเรื่องการเสาะแสวงหาโอกาสอยู่ตลอดเวลาปนอยู่ในนั้น
หรือแม้แต่ตอนที่ไปพยายามซื้อเพชรมาขายที่โซเวียด ยูเนี่ยน เจอกฎ ระเบียบที่คนอื่นคงยอมแพ้ แต่คุณกิริตก็พยายามหาทางไปเจอ Director General ผู้มีอำนาจที่ใครๆก็กลัว ไปอธิบายจนฝั่งโน้นเข้าใจจนได้ธุรกิจมา ความพยายามอย่างไม่ลดละ ไม่ลองไม่รู้ ก็นำพามาซึ่งโชคดีเช่นกัน
1
Short gun clause
คุณกิริตสอนว่า ถ้าจะเริ่มทำธุรกิจกับใครให้ตกลงทางถอยไว้เสมอ คุณกิริตเรียกว่า short gun clause เพราะตอนที่จะร่วมธุรกิจกันนั้นมักจะหวานชื่น ไม่มีใครคิดว่าจะจบไม่ดีหรือต้องแยกทาง ถ้าไม่ตกลงไว้ก่อนก็จะเป็นปัญหาถึงขั้นฟ้องร้องกันได้
ตอนตกลงตอนแรกก็ยุติธรรม พอแยกกันจริงๆก็ได้ใช้ short gun clause โดยที่ไม่ทะเลาะกัน
Sale is vanity, profit is sanity, cashflow is reality
1
ตอนปี 1997 ก่อนเกิดต้มยำกุ้งไม่นาน คุณกิริตถามฝ่ายการเงินว่าเงินสดฝากที่ไหนบ้าง ฝ่ายการเงินตอบด้วยความภูมิใจว่าฝากอยู่ไฟแนนซ์ต่างๆได้ดอกเบี้ย 21-24% คุณกิริตได้ฟังแล้วตกใจอย่างมากเพราะถ้าเขาให้ดอกเบี้ยเรา 24% ก็ต้องไปปล่อยกู้เกือบ 30% ซึ่งไม่มีใครทำธุรกิจบนดอกเบี้ยนั้นได้ it’s too good to be true
คุณกิริตเลยสั่งถอนเงินซึ่งฝากแบบ one day call คือต้องแจ้งล่วงหน้าหนึ่งวัน แต่ความเป็นจริงแล้วต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะถอนได้ครบ ซึ่งทำให้คุณกิริตรอดพ้นจากหายนะต้มยำกุ้งที่ไฟแนนซ์ปิดตัวกันหมดไปได้ และได้บทเรียนว่าแม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดสมัยนั้นก็ผิดพลาดได้ที่ทำนายว่าจะไม่มีทางลดค่าเงิน
คุณกิริตบอกน้องๆรุ่นใหม่ว่าให้ go for home run. Make the most out of it กระหายใคร่รู้ให้มาก (be curious) go meet people around the world กล้าถามให้มากเข้าไว้ สร้างโอกาสให้ตัวเอง
1
On Thailand
คุณกิริตรักและห่วงเมืองไทยมาก บอกทุกคนตลอดว่าตัวเองเป็นคนไทย คุณกิริตห่วงสังคมไทยที่กำลังเข้าสู่ aging society จะแก่ก่อนรวยและเรามีเวลาอีกไม่มากที่จะยกระดับตัวเอง ไม่เช่นนั้นลูกหลานเราจะลำบาก
คุณกิริตใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนนี้พบปะ สนทนากับผู้คนทุกวัย ทุกชาติ แทบจะทุกเย็น คุณกิริตบอกว่าต้อง ask wrong question ให้คู่สนทนาเล่ามากๆและเรียนรู้จากคนอื่น แม้แต่ตอนที่บรรยายเสร็จ คุณกิริตยังนั่งคุยกับน้องๆรุ่นใหม่ที่ HOW ต่ออีกเป็นชั่วโมงและบอกเสียงดังฟังชัดว่า “ talk to me so that I can learn from you experience”