21 พ.ค. เวลา 02:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ไขข้อสงสัย 'G-Token' คืออะไร? ทำไมต้องทำพันธบัตรรูปแบบดิจิทัล

ในโลกการเงินยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับการออก 'โทเคนดิจิทัลรัฐบาล' หรือ Government Token (G-Token) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญ อีกทั้งประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ออก G-Token ในลักษณะนี้
'G-Token' คืออะไร? แตกต่างจากพันธบัตรเดิมอย่างไร? และที่สำคัญ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ภาครัฐต้องนำพันธบัตรเข้าสู่โลกดิจิทัล? "กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลและพาไปไขข้อสงสัยเหล่านี้ เพื่อให้เห็นภาพรวมของนวัตกรรมทางการเงินที่น่าจับตา
🪙'G-Token' คืออะไร?
1
โดยพื้นฐานแล้ว G-Token คือ โทเคนดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาล มีลักษณะเทียบเท่ากับพันธบัตรรัฐบาล หรือเครื่องมือที่รัฐบาลใช้กู้เงินจากประชาชน โดยผู้ถือ G-Token จะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่กำหนด
ความแตกต่างที่สำคัญคือ รูปแบบ G-Token จะไม่ได้เป็นเอกสารกระดาษ หรือบันทึกสิทธิ์ในระบบแบบรวมศูนย์เหมือนพันธบัตรแบบเดิม แต่จะอยู่ในรูปแบบของ โทเคนดิจิทัล (Digital Token) ที่จัดเก็บและบริหารจัดการอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain
พูดง่ายๆ คือ G-Token เป็นการนำสิทธิ์ในพันธบัตรรัฐบาลมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้การบริหารจัดการมีความแตกต่างและมีข้อดีตามมามากมาย
🪙ทำไมต้องออกในรูปแบบดิจิทัล?
การที่รัฐบาลตัดสินใจออก G-Token มีหลายปัจจัย ประกอบด้วย
1. เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสำหรับประชาชนรายย่อยและคนรุ่นใหม่ การซื้อพันธบัตรแบบเดิมมีข้อจำกัดด้านเวลา ซึ่ง G-Token จะเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี เข้าถึงการลงทุนความเสี่ยงต่ำของรัฐบาลได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันบนมือถือ และจะลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่สูงได้ จึงถือเป็นการส่งเสริมการออมของประชาชน ให้มีทางเลือกในการลงทุนที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนน่าสนใจ
2.เพื่อลดขั้นตอน ต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน กระบวนการออกและจัดการพันธบัตรแบบเดิมมีต้นทุนสูง การใช้ G-Token บนเทคโนโลยี DLT ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน เช่น ต้นทุนที่ต่ำกว่าค่าดำเนินการตามเกณฑ์ ธปท. ที่ 0.03% และทำให้กระบวนการตั้งแต่การออกไปจนถึงการชำระคืนมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งสร้างแหล่งข้อมูลเดียวที่ถูกต้องและเปลี่ยนแปลงได้ยาก (immutable, real-time single source of truth) ลดการตรวจสอบซ้ำซ้อน
3. เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความคล่องตัวในการทำธุรกรรม การซื้อขาย G-Token บนแพลตฟอร์มดิจิทัลจะเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ (Real-time) ต่างจากพันธบัตรออมทรัพย์แบบเดิมที่อาจใช้เวลาดำเนินการหลายวัน
ไม่มีกำหนดระยะเวลาห้ามเปลี่ยนมือ ซึ่งต่างจากพันธบัตรออมทรัพย์ทั่วไปที่ห้ามเปลี่ยนมือ 6 เดือน ทำให้ผู้ถือสามารถโอนเปลี่ยนมือหรือขายในตลาดรองได้สะดวกและมีความคล่องตัวมากขึ้น
4. เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความโปร่งใส เทคโนโลยี Blockchain ช่วยให้ข้อมูลการถือครองและการทำธุรกรรมมีความปลอดภัยสูง ถูกบันทึกแบบกระจายศูนย์ ตรวจสอบได้ และยากต่อการปลอมแปลง เพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการต่างๆ ตลอด Value Chain
อ่านต่อ:
โฆษณา